เพราะเปอร์รู้แล้วว่าพี่น้องคู่นี้คงพูดจากันไม่รู้เรื่อง นั่นจึงทำให้เขาไม่คิดจะเสวนาอะไรให้เสียเวลาต่อ นอกจากการยืนยันและพูดอยู่ประโยคเดียวว่าสิ่งเดียวที่เขาต้องการคือต้องการจะกลับบ้านเท่านั้น เปอร์ไม่ต้องการจะอยู่ที่นี่เพื่อผสมพันธุ์กับตัวอะไรทั้งนั้น
“ฟังนะคาร์เตอร์... ผมต้องการจะกลับบ้านและคุณต้องไปส่งผมเดี๋ยวนี้
“เป็นอะไรมาสั่งกัน?” อีกฝ่ายถามกลับมาทันที
“ก็คุณเป็นคนลากผมมาที่นี่”
“...”
“เพราะงั้นคุณก็ต้องไปส่งผมสิ หรือว่าจะให้ผมเอาเรื่องพวกนี้ไปบอกมนุษย์คนอื่นเรื่องการมีอยู่ของพวกคุณดี” เปอร์พูดขู่ เนื่องจากบทสนทนาก่อนหน้านี้ดูเหมือนคาร์เตอร์กับครอบครัวจะต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร เจ้าตัวถึงได้ลงทุนปีนไปเก็บขนเพียงแค่เส้นเดียวของตัวเอง แถมยังจัดการลบรูปในโทรศัพท์เขาอีก
ซึ่งอีกฝ่ายลบรูปในโทรศัพท์เขาด้วยวิธีไหนนั้น เปอร์ก็ไม่อาจรับรู้ได้
“แต่เดี๋ยวนะ... ให้ตายเถอะ งั้นแสดงว่าคืนนั้นคุณขึ้นไปนอนกับผมเหรอ” เปอร์พูดต่อ เมื่อเขาเพิ่งฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ ซึ่งพอเขาได้รับความเงียบตอบกลับมาคล้ายกับเป็นการยอมรับกลาย ๆ เปอร์ก็ถึงกับตบหน้าผากของตัวเองอย่างแรง เพราะเขาไม่คิดว่าข้อสันนิษฐานของตัวเองมันจะถูกต้อง
“ไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่อยากไปแสดงตัว”
“...”
“ส่วนครั้งที่สอง แค่ไปเก็บขนของตัวเองกลับมาเท่านั้น ไม่ได้ไปนอนกับคุณ” อีกฝ่ายว่าต่อ เหมือนรู้ว่าเปอร์กำลังไม่พอใจเจ้าตัวอยู่ ซึ่งก็แน่นอน... เขาไม่มีทางพอใจหรือยินดีปรีดาอยู่แล้วหลังจากที่รู้ว่าเมื่อไม่กี่คืนก่อนมีมนุษย์หมาป่าบุกเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แถมยังมาหลับนอนด้วยกันอีก
“แล้วคุณปีนขึ้นไปที่ห้องผมได้ยังไง ในเมื่อห้องนอนของผมมันอยู่ชั้นสอง” เปอร์ถาม “หรือว่ามีบันไดส่วนตัว?”
“ฟังนะ... สรีระของพวกเรากระโดดสูงได้มากกว่ามนุษย์ธรรมดาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า อีกอย่าง...พวกเราสามารถกระโจนได้ เผลอ ๆ อาจจะสามารถปีนขึ้นไปถึงบนหลังคาบ้านคุณได้ด้วยซ้ำ ถ้าพวกเราต้องการอย่างนั้น” คาร์เตอร์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะที่เปอร์ก็ได้แต่เงียบเท่านั้น
เขากะพริบตาปริบ ๆ จ้องมองคาร์เตอร์อย่างใช้ความคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ต่อมาเปอร์จะถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขามีคำถามผุดขึ้นมาในหัวราวกับดอกเห็ด
เดี๋ยวนะ... เห็ด?
“เห็ด... เห็ดของผม” เพียงแค่คิดได้ว่าเห็ดที่ลงทุนเก็บมาตั้งแต่เช้าได้หายไป เพราะเขาถูกลากมาที่นี่ เปอร์ก็ถึงกับทึ้งหัวตัวเองอย่างแรง เนื่องจากเขารู้สึกเสียดายที่อุตส่าห์ตื่นเช้าและยืนหลังขดหลังแข็งเพื่อหาเห็ดช่วยแม่ตัวเอง
“คุณหมายถึงของที่อยู่ในตะกร้าเหรอ” คาร์เตอร์ถาม
“ใช่ คุณเก็บมาหรือเปล่า?”
“ผมไปตามเก็บมาให้แล้ว และตอนนี้เคียก็น่าจะเอามันมาทำอาหารให้คุณ”
“ขอบคุณ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะผมแค่ย้อนกลับไปทำลายหลักฐานไม่ให้พวกมนุษย์ตามหาคุณเจอเฉย ๆ” คาร์เตอร์ตอบกลับมาทั้งหน้าซื่อ ทำเอาเปอร์ได้ยินแล้วก็ต้องตบเข้าที่หน้าผากของตัวเองเบา ๆ หลังเขาเผลอมองโลกในแง่ดีเกินไป
“โอเค เข้าใจแล้ว” เปอร์เอ่ยเสียงแผ่ว จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งสองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีอีกความสงสัยหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการอธิบาย
“เพื่อนผมบอกว่าพวกมนุษย์หมาป่าจะอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ทำไมก่อนหน้านี้คุณถึงไปเพ่นพ่านอยู่ทางฝั่งใต้ล่ะ”
“ใช่ ที่อยู่อาศัยของเราคือที่นี่ เพราะที่นี่มีพื้นที่ป่าเยอะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะไม่ออกไปจากเขตนี้นี่” คาร์เตอร์อธิบายอย่างใจเย็น ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ค่อย ๆ คืบคลานขยับเข้ามาหาเปอร์อย่างช้า ๆ แบบไม่ให้เขารู้ตัว ซึ่งเปอร์ก็ได้สติอีกครั้งก็ตอนที่ปลายจมูกโด่งของอีกฝ่ายแทบจะสัมผัสโดนแก้มของเขาอยู่แล้ว ทำเอาเปอร์ต้องรีบผลักแผ่นอกของอีกฝ่ายให้ออกห่างตัวโดยพลัน
“ออกไปเลย” เขาเอ่ยเสียงเข้ม จงใจจะสร้างความยำเกรงให้กับคาร์เตอร์ แต่ก็ไม่เคยได้รับความเกรงกลัวกลับมาเลยสักครั้ง
“คุณหน้าตาประหลาดจริง ๆ นะ”
“...”
“ผมไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนในแถบนี้หน้าตาแบบคุณเลยสักคน”
“แม่ของผมไง หน้าตาแบบเดียวกันเป๊ะ” เปอร์ตอบกลับเสียงเข้ม ซึ่งสาเหตุที่คาร์เตอร์บอกว่าเขาหน้าตาประหลาด นั่นก็อาจเป็นเพราะว่าในเมืองนี้แทบจะไม่มีผู้คนเอเชียอาศัยอยู่เลยด้วยซ้ำ ถ้านับจริง ๆ ก็คงมีไม่ถึงยี่สิบคน
“น่าเสียดายที่ผมไม่ได้สนใจแม่ของคุณ” คาร์เตอร์เอ่ยเสียงแผ่วเหมือนต้องการพูดกับตัวเองเสียมากกว่า ซึ่งในจังหวะที่เปอร์เตรียมจะพูดบางอย่างขึ้นมาอีกครั้ง กระเพาะของเขาก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาเสียก่อน เพราะตั้งแต่ที่เขาตื่นขึ้นมาเก็บเห็ดช่วยแม่ แม้แต่น้ำสักหยดก็ยังไม่มีตกถึงท้องเขาด้วยซ้ำ
“คุณหิวแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมจะไปยกอาหารมาให้” อีกฝ่ายที่หลุบตามองตามเสียงท้องของเปอร์พูดขึ้น ก่อนจะผละตัวออกห่างแล้วเดินออกไปจากห้องอีกครั้ง ซึ่งในนาทีนั้นเปอร์ก็คิดได้ว่าเขาควรจะอาศัยจังหวะนี้ในการหลบหนี ยอมไปตายเอาดาบหน้ายังดีเสียกว่าอยู่ร่วมกับมนุษย์หมาป่าเป็นฝูงแบบนี้
“ทุเรศจริง ๆ” เขาบ่นให้ตัวเองเบา ๆ เมื่อเปอร์เพิ่งจะได้มีเวลาสำรวจตามเนื้อตัวของตัวเองแล้วพบว่าร่างกายของเขากำลังมอมแมมมากแค่ไหน
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะให้ความสำคัญมากนัก เพราะสิ่งที่เขาควรให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือเส้นทางที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี่ โดยที่ไม่ให้มีใครจับได้ต่างหาก
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ เปอร์ก็ค่อย ๆ เปิดประตูห้องนอนออกไปด้วยความเบามือ เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้มันเกิดเสียง เวลาเดียวกันเขาก็มีการชะโงกหน้ามองซ้ายขวา เพื่อหาว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า ซึ่งพอเปอร์เห็นว่าทางสะดวก เขาก็รีบย่องเบาเดินออกมาจากห้องทันที
ทุกอย่างมันง่ายกว่าที่คิด... เมื่อเวลาต่อมาเท้าเปล่าของเปอร์ที่ไม่รู้ว่ารองเท้าหายไปไหนได้สัมผัสกับพื้นดินเรียบร้อยแล้ว ทว่าพอเปอร์เดินออกมาข้างนอก เขาก็พบกับความพิศวงอีกครั้ง เมื่อข้างนอกบ้านพักของคาร์เตอร์ เขาพบว่ามันเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมตั้งอยู่กลางป่าดิบชื้นแห่งนี้
หรือว่าเขาควรจะไปขอความช่วยเหลือดี? วูบหนึ่งมันมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเปอร์ แต่พอเขาคิดได้ว่ายังไงคนที่อยู่ที่นี่ก็ต้องช่วยเหลือพวกพ้องของตัวเองอยู่แล้ว นั่นจึงทำให้เปอร์เลือกที่จะพับความคิดนั้นเก็บเอาไว้ ก่อนที่เขาจะหันมองซ้ายขวา เพื่อหาลู่ทางที่จะทำให้เขาออกไปจากที่นี่ได้
“ทางนี้แหละมั้ง” เขาพึมพำเสียงแผ่ว เมื่อสายตาหันไปเจอเส้นทางเล็ก ๆ เหมือนมีคนถางเอาไว้ ซึ่งพอเห็นเช่นนั้นเปอร์ก็รีบเดินไปทางนั้นโดยปราศจากความลังเล
เขาคิดแค่ว่าเขาต้องทำยังไงก็ได้ให้ออกไปจากตรงนี้ให้ไกลที่สุด จนมนุษย์หมาป่าอย่างเคียหรือคาร์เตอร์ตามกลิ่นเขาไม่เจอ แต่หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเขานั้นก็ค่อยว่ากันอีกที
มิน่าล่ะ... ทำไมผู้คนถึงได้หลงอยู่ในป่านี้ปีหนึ่งหลายสิบชีวิต นั่นก็เป็นเพราะว่าไม่ว่าจะหันไปทางไหน พยายามใช้ความสังเกตและทำสัญลักษณ์เอาไว้ด้วยความรอบคอบเพียงใด ยังไงเสียมันก็ได้วกกลับมาที่เดิมอย่างไม่รู้จักจบสิ้นอยู่ดี
“ฮ—แฮ่ก กลับมาที่เดิมอีกแล้วเหรอ นี่มันรอบที่สี่แล้วนะเว้ย!” เปอร์ที่กำลังเดินหอบจากการเดินป่าพูดกับตัวเองด้วยความอารมณ์เสีย เมื่อเขาเดินกลับมาเจอต้นไม้ที่เขาเคยทำสัญลักษณ์เอาไว้อีกแล้ว
“หิวน้ำจัง” เขาว่าต่อพร้อมทิ้งตัวนั่งลงกลางป่าอย่างหมดแรง โดยในนาทีนั้นเปอร์ก็อยากจะร้องไห้ออกมาเสียดื้อ ๆ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจุดจบของตัวเองมันจะเป็นแบบนี้
“ห้ามร้องไห้... ห้ามร้องไห้เด็ดขาด ฮ—ฮึก ฮืออออ” จังหวะที่พยายามกลั้นน้ำตา เพราะคิดว่าต่อให้ร้องไห้ไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร ทันใดนั้นเสียงปล่อยโฮของเปอร์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เมื่อเขารู้สึกสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูก เปอร์นั่งกอดเข่าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร เนื่องจากยังไงเขาก็ต้องตายอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เขาคิดแบบนั้นจนกระทั่งหมาป่าที่แสนคุ้นตาปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง
โดยมันเองก็หอบหายใจเหมือนอย่างเปอร์ คล้ายกับว่าตัวมันเองก็กระวนกระวายตามหาเขาเช่นกัน
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” เพียงแค่เห็นคาร์เตอร์ในร่างหมาป่า เปอร์ที่กำลังนั่งร้องไห้อย่างสิ้นหวังก็แปรเปลี่ยนอารมณ์เป็นความหงุดหงิดโดยพลัน แล้วคว้าเอาก้อนหินที่อยู่ใกล้มือเขาที่สุดขว้างไปใส่หัวหมาป่าตัวยักษ์อย่างพอดิบพอดี จนส่งผลทำให้มันส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ เนื่องจากความเจ็บ
“เจ็บมากหรือเปล่า?”
“ก็ไม่เท่าไร”
“...”
“แค่เลือดออกเอง”
“ประชดเหรอ?”
“เปล่า ผมก็แค่พูดตามที่ตัวเองเป็น” ว่าจบ คาร์เตอร์ก็ชี้นิ้วไปยังศีรษะของตัวเองที่ในตอนนี้มันกำลังถูกสำลีปิดเอาไว้อยู่ เมื่อเปอร์เพิ่งจะทำแผลให้อีกฝ่ายเสร็จ หลังเขาเป็นคนสร้างบาดแผลให้คาร์เตอร์เอง
“ผมไม่ขอโทษหรอกนะ เพราะคุณโผล่มาตอนที่ผมกำลังหงุดหงิดพอดี” เปอร์บอกกลับไปเสียงนิ่ง แม้ลึก ๆ แล้วเขาจะรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ทำให้อีกคนถึงกับเสียเลือด แต่เปอร์ก็ไม่คิดจะขอโทษอยู่แล้ว เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะคาร์เตอร์
“ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากคุณอยู่แล้ว” คาร์เตอร์ตอบกลับมา จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งสองอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดขึ้นอีก
“ว่าแต่คุณหิวมากหรือเปล่า?”
“หิวสิ เพราะตลอดทั้งวันนี้แม้แต่น้ำสักหยด ผมก็ยังไม่ได้กินเลย” เปอร์ตอบทันที ขณะเดียวกันท้องของเขาก็เริ่มส่งเสียงอีกครั้ง เพื่อบอกว่ามันต้องการอาหารมากแค่ไหน
“งั้นก็ออกไปกินข้าว เคียทำอาหารไว้ให้คุณได้สักพักแล้ว แต่ว่าก็ทน ๆ กินเอาแล้วกันนะ เพราะตอนนี้มันเย็นชืดหมดแล้ว”
“ไม่ยกมาให้กินแล้วหรือไง” เปอร์ถามกลับไป
“ไม่ล่ะ ผมปล่อยให้คุณเดินไปกินเองแล้วผมไปนั่งเฝ้าน่าจะเข้าท่ากว่า” อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมลุกขึ้นยืนเต็มสูง ตั้งท่าจะเดินนำเปอร์ออกไปจากห้องนอนอีกครั้ง หลังเวลานี้คาร์เตอร์ได้พาเขากลับมาที่บ้าน โดยเปอร์เองก็ต้องยอมเดินตามอีกฝ่ายกลับมาด้วยความจำยอม เพราะตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว หากเขาอยู่ในป่ากลางค่ำกลางคืนโดยปราศจากไฟ มันก็น่าจะเป็นเป้าโจมตีของสัตว์ป่าได้ง่าย
“ขาดเหลืออะไรก็บอก” คาร์เตอร์ว่าพร้อมวางอาหารไว้ตรงหน้าเปอร์ โดยมันก็เป็นเห็ดย่างเหี่ยว ๆ กับขนมปังแข็ง ๆ ที่ไม่มีความเข้ากันเอาเสียเลย
“นี่มันเป็นเนื้ออะไร?” เปอร์ถาม เมื่อระหว่างที่เขาพยายามเคี้ยวขนมปังที่แสนจะเหนียวอย่างสุดกำลัง สายตาของเขาก็ดันเหลือบไปเห็นเนื้อย่างที่ไหม้เกรียมจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นเนื้อสัตว์เข้าพอดี หลังมันถูกวางไว้ข้าง ๆ กับเห็ดย่างของเขา แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเขาในตอนแรก
“มันเป็นเนื้อมนุษย์”
“...”
“ผมพูดเล่น มันเป็นเนื้อวัวปกติแบบที่มนุษย์ทั่วไปเขากินกันนั่นแหละ” คาร์เตอร์รีบเฉลยความจริงให้ฟัง เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเปอร์ไม่ได้รู้สึกขบขันกับมุกตลกของเจ้าตัวเลย ตรงข้ามกัน... มันกลับสร้างความผวาให้กับเปอร์เสียมากกว่า เนื่องจากเขาคิดว่ามนุษย์หมาป่าหากโมโหหิวขึ้นมา มันก็คงจับเขากินเป็นอาหาร
“เคียทำอาหารมนุษย์ได้ไม่เก่งนัก หน้าตาอาหารมันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น” อีกฝ่ายว่า ขณะที่ดวงตาคมก็คอยจับจ้องการกินอาหารของเปอร์ตาไม่กะพริบ
“ไม่เป็นไร ขอแค่มันทำให้ผมไม่หิวก็พอ” เปอร์ตอบกลับไป เนื่องจากเขารู้ดีว่าสถานะของเขาในเวลานี้ มันไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก
“แล้วคุณจับผมมาแบบนี้ คุณจะทำยังไงกับผมต่อ? จะกินผมเหรอ” เปอร์ถามในสิ่งที่กลัว ซึ่งคาร์เตอร์ก็ส่ายหน้าปฏิเสธกลับมาทันที
“เราไม่กินเนื้อมนุษย์ เพราะรสชาติมันคาว”
“...”
“ผมเคยได้ยินคนที่นี่เขาเล่าต่อ ๆ กันมาน่ะ แต่ยังไม่เคยลองด้วยตัวเองเลยสักครั้ง” อีกฝ่ายว่าจากนั้นคาร์เตอร์ก็เป็นฝ่ายถามเปอร์กลับบ้าง “ตอนที่เคียเข้าไปคุยกับคุณ เธอพูดเรื่องอะไรบ้างล่ะ? ไม่ใช่คุณรู้อยู่แล้วเหรอว่าผมต้องการอะไรจากคุณ”
“เธอก็มีพูดถึงอยู่บ้าง แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นผมด้วย” เปอร์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจแล้วว่าต่อ “เพราะอันที่จริงคุณเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลยนะ ทั้งในร่างหมาป่าหรือในร่างมนุษย์ อีกอย่างที่นี่แทบจะเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมด้วยซ้ำ แล้วมันจะไม่มีใครคิดอยากผสมพันธุ์กับคุณเลยหรือไง”
“ผมควรจะสนใจตรงไหนก่อนดีนะ ระหว่างคำถามของคุณกับคำชมของคุณ” คาร์เตอร์พึมพำพร้อมฉีกยิ้มกว้าง คล้ายกับเจ้าตัวพึงพอใจที่ได้รับคำชมจากเปอร์
“มันใช่เรื่องไหม ตอนนี้ผมกำลังจริงจังอยู่นะ!” เปอร์เอ่ยทั้งคิ้วขมวด โดยคราวนี้จากที่ตอนแรกคาร์เตอร์แค่ระบายยิ้มออกมาเฉย ๆ อีกฝ่ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแทน
“อันที่จริงมันก็ไม่ได้หมายความว่ามันต้องเป็นคุณเท่านั้นหรอก แต่ผมต้องการมนุษย์สักคนต่างหาก”
“...”
“มนุษย์ที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ไม่ใช่มนุษย์ที่มีเชื้อสายหมาป่าอยู่ในตัว” คาร์เตอร์ให้เหตุผล ขณะที่เปอร์ก็ได้แต่นิ่งเพื่อรับฟังเท่านั้น ก่อนที่เขาจะถามบางอย่างกลับไปด้วยความข้องใจ
“แล้วทำไมคุณถึงเล็งแค่ผมล่ะ ในเมื่อมันไม่จำเป็นต้องเป็นผมก็ได้”
“...”
“คุณตามผมมาตั้งแต่ที่บ้านจนถึงตอนนี้ที่ผมมาเที่ยวกับครอบครัว...ที่เป็นเขตของคุณ คุณก็ยังตามผมอยู่แถมยังลากผมมาที่นี่อีก แบบนี้มันหมายความว่ายังไง?”
“ก็ถูกใจไง” คาร์เตอร์ให้เหตุผลกลับมาเพียงสั้น ๆ ซึ่งเหตุผลของอีกฝ่ายก็ทำให้เปอร์เป็นฝ่ายนิ่งไปบ้าง
“...”
“กลิ่นของคุณ เสียงของคุณ หน้าของคุณมันล้วนแต่ทำให้ผมอยากผสมพันธุ์ทั้งนั้น ขอโทษที่ต้องพูดตามตรง... แต่ตั้งแต่ที่ผมเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ผมก็รู้สึกตายด้านขึ้นมา ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจริงจังมาก เพราะผมต้องขึ้นเป็นจ่าฝูง” คาร์เตอร์อธิบายต่อ ขณะที่เปอร์ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธกลับไปรัว ๆ เนื่องจากต่อให้อีกฝ่ายรู้สึกตายด้านทางเพศจริง ๆ มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาสักหน่อย
“นั่นมันเรื่องของคุณ ต่อให้มันเป็นความจริง มันก็เรื่องของคุณ”
“ไหนคุณบอกว่าผมหล่อ”
“ผมไม่ได้บอกว่าคุณหล่อ ผมแค่บอกว่าคุณไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไรต่างหาก”
“ช่างเถอะ... ยังไงมันก็ไม่ต่างกันหรอก” คาร์เตอร์พูดปัดอย่างไม่สนใจและถามในสิ่งที่เจ้าตัวอยากรู้ “คุณไม่อยากผสมพันธุ์กับหมาป่าหน้าตาหล่อ ๆ เหรอ”
“ฟังนะ มนุษย์ปกติเขาไม่ผสมพันธุ์กับสัตว์หรอก” เปอร์ตอบทันที ก่อนที่เวลาต่อมาเขาจะเบิกตากว้างเล็กน้อย เนื่องจากคำพูดถัดมาของคาร์เตอร์ มันสร้างความตกใจให้กับเขา
“แต่ผม56นะ”