“เด็กๆจ้ะ ช่างเขาพร้อมแล้วนะ” เป็นจังหวะพี่ทีมงานเรียกหญิงสาวพอดีกฤตภัทรเลยไม่ต้องตอบคำถามของปรีณาภา
“โอเคค่าพี่กุ๊กไก่พวกเรากำลังไปค่ะ ไปกันดาด้า ชิชาอยากดูเบื้องหลังการทำงานจะแย่แล้ว” ปรีณาภาหันมาจับมือเพื่อนสาวแล้วพากันเดินเข้าฉากไป
“จ้ะ ไปกัน”
“ท่านี้เลยค่ะคุณน้อง”
“ค่ะ” ดาด้าทำท่าทำทางโพสตามที่พี่ๆบอก พี่ๆออกปากชมกันใหญ่ว่านางแบบสวยเหมาะสมกับเสื้อผ้าทุกชุดเลย
“สวยๆ ดาด้าสวยมาก” ปรีณาภาทำหน้าที่อวยเพื่อนเต็มที่ ด้านกฤตภัทรยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเบื้องหลังอัตโนมัติ เขาเองก็ไม่เคยเห็นการทำงานแบบนี้เหมือนกัน ทุกคนดูเป็นมืออาชีพมากมีการจัดวางลำดับสิ่งที่ควรทำก่อนหลัง ช่างภาพนอกจากจะถ่ายภาพแล้วยังสอนให้นางแบบโพสท่าอีกด้วย แม้ตอนแรกยังดูมีความไม่เป็นธรรมชาติในท่าทางอยู่บ้างแต่คนหัวไวอย่างดาด้าก็สามารถปรับตัวเข้ากับงานได้อย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วจ้ะ เปลี่ยนอีกชุดได้เลยค่ะ ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายแล้ว”
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“ดื่มน้ำก่อนไหม” กฤตภัทรยื่นขวดน้ำให้กับดาด้าได้ดื่ม หญิงสาวถ่ายติดกันมาสามเชตแล้วแต่ยังไม่ได้พักเลย
“ขอบคุณนะ” ดาด้ารับขวดน้ำไปเปิดฝาดื่มทันที กฤตภัทรเหมือนจะรู้ว่าเธอกระหายน้ำแค่ไหน เหนื่อยแต่ยอมรับเลยว่าสนุกมากแถมพี่ๆยังใจดีทุกคนเลย เพื่อนร่วมงานดีแบบนี้งานก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
“ให้แต่ดาด้าไม่ให้ชิชาดื่มบ้างหรอกฤต” ปรีณาภาแกล้งถามออกไปหน้างอ
“ได้ข่าวว่าดื่มอยู่ตลอดนะ”
“ฮ่าๆ ล้อเล่นดื่มจนอยากจะเข้าห้องน้ำอีกแล้วเนี่ย”
“อยากเข้าก็ไปเข้าสิจะทนทำไม”
“งั้นดาด้าไปเปลี่ยนชุดคนเดียวก่อนนะเดี๋ยวชิชาขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“จ้ะ ชิชาไปเถอะด้าไปคนเดียวได้”
“โอเคจ้ะเดี๋ยวจะรีบกลับมานะ”
หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น พอเธอยกขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายของมารดาเธอจึงกดรับทันที ท่านโทรมาถามเกี่ยวกับงานถ่ายแบบในวันนี้โดยที่ผู้เป็นพ่อยังไม่รู้ แต่สัญญาณในตัวตึกไม่ดีเอาเสียเลยเธอเลยต้องออกไปคุยด้านนอกตัวอาคาร
“คุณแม่ขางานถ่ายแบบก็น่าสนุกเหมือนกันนะคะ”
“ถ่ายได้ลูกแต่ถ้าจะยึดเป็นอาชีพแม่ไม่แนะนำ” วงการบันเทิงมันมีเบื้องลึกเบื้องหลังมีแต่ความอิจฉาริษยาลูกรักของเธอไม่เหมาะกับวงการนี้แน่นอน
“แบบนั้นชิชาก็ไม่กล้าหรอกค่ะชิชาไม่อยากให้คุณพ่อระเบิดลง” ที่เธอตอบกลับมารดาไปอย่างนั้นก็เพราะว่าเคยมีครั้งหนึ่งคุณลุงชวิศเอ่ยชวนหลานสาวไปเล่นละครต่อหน้าคนเป็นพ่อ นายหัวชรัณเกิดความไม่พอใจขึ้นมาทันทีเพราะเขาไม่อยากให้ลูกเข้าไปอยู่ในแสงสีแบบนั้นแถมไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ผู้เป็นพ่อจึงยื่นคำขาดว่าลูกทั้งสามคนจะเข้าวงการบันเทิงไม่ได้ถ้ายังดื้อดึงจะถูกตัดหางปล่อยวัดซึ่งลึกๆแล้วเธอก็รู้ว่าคนเป็นพ่อตัดใจแบบนั้นไม่ได้จริงๆหรอก
“จ้ะ เชื่อฟังคุณพ่อเขาก็ดีแล้ว แม่ไม่กวนแล้วดีกว่าลูก คุณพ่อของหนูเดินมานู้นแล้ว”
“ค่ะ รักแม่ปรีคนสวยนะคะ”
“จ้ะ แม่ก็รักหนูเหมือนกัน เอาไว้วันหยุดจะพาน้องไปเที่ยวหานะลูก”
“ได้เลยค่ะ” หลังจากวางสายเธอมองออกไปที่ถนนก็พบว่ามีคุณยายคนหนึ่งกำลังจะข้ามถนนแต่ก็ยังไม่สามารถข้ามได้สักทีเธอเลยอาสาจะช่วยคุณยายเอง
“มาค่ะเดี๋ยวหนูพาข้ามนะคะคุณยาย”
“ขอบใจนะแม่หนู หนูเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ” คุณยายกล่าวขอบคุณด้วยความซึ้งใจ นอกจากจะมีน้ำใจแล้วยังหน้าตาสะสวย หญิงสาวจับจูงคุณยายเดินข้ามถนนโดยที่มีรถยนต์คันหนึ่งหยุดรถให้เธอพาท่านข้ามได้อย่างสบายๆ เธอจึงโค้งศีรษะเป็นการขอบคุณคนขับ รอยยิ้มสดใสราวกับสายรุ้งหลังพายุฝนกระจ่างใสจนจนมองหัวใจสะดุด เจ้าของรถยนต์หรูที่จอดไม่ใช่ใครแต่เป็นกันย์ดนัยนั่นเอง ตอนแรกเขาเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณยายเหมือนกันแต่ยังไม่ทันได้ลงไปช่วยก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาคุณยายแล้ว เขามองจนเธอสามารถพาคุณยายข้ามถนนไปได้สำเร็จ รู้สึกชื่นชมในความมีน้ำใจของหญิงสาวแล้วก็ขับรถจากไป ดีใจที่สังคมอันโหดร้ายนี้ยังมีคนดีๆหลงเหลืออยู่
“ไปไหนมาชิชา ดาด้าถ่ายเสร็จแล้วกำลังเข้าไปเปลี่ยนชุด” กฤตภัทรถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะเดินไปตามเพื่อนที่บริเวณห้องน้ำหญิงแล้วก็ไม่เจอ
“พอดีออกไปคุยโทรศัพท์แล้วก็พาคุณยายข้ามถนนน่ะ”
“ข้ามถนน? เธอนี่เป็นคนดีจริงๆ” กฤตภัทรพยักหน้าขึ้นลงเบาๆนับถือน้ำใจของหญิงสาวมากๆ ถ้าเธอไม่มีน้ำใจเธอก็คงไม่แบ่งชีสสรุปต่างๆให้เขากับดาด้าหรอก
“ใช่ไหมล่ะ ดาด้ามาแล้ว” ดาด้ากลับมาใส่ชุดเดิมของตนเองแล้วแต่ใบหน้ายังแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอยู่
“ชิชา ขอบคุณมากเลยนะรู้ไหมว่างานนี้ดาด้าได้เงินตั้งสองหมื่น” ดาด้าบอกเพื่อนสาวน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ ทำงานวันเดียวได้เท่าทำงานสองเดือน
“ว๊าว! จริงหรอดีใจด้วยนะดาด้า”
“ถ้าไปทำงานที่ร้านอาหารก็เกือบสองเดือนเลยนะถึงจะได้เท่านี้”
“ชิชาอยากทำบ้างแต่ไม่มีโอกาส”
“ชิชาไม่ได้ลำบากอะไรอย่าทำให้เหนื่อยเลยนะเพราะแค่สรุปชีสให้ด้ากับกฤตก็แย่แล้ว” จบประโยคของหญิงสาวทุกคนก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เรื่องงานผ่านไปด้วยดีแต่จะทิ้งเรื่องเรียนไม่ได้เด็ดขาด