ตอน
พ่อครัวหัวป่าก์
หญิงสาวถามกลับแบบอยากลองของ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้จะรู้เรื่องราวของเธอมาน้อยแค่ไหนกัน
“งั้นก็ตั้งใจฟังให้ดีนะ คุณหนูพันธิตราปัจจุบันอายุยี่สิบสี่ปี บุตรสาวเพียงคนเดียวของนายเวทิศ ดำรงค์เทวะ เจ้าของบริษัท TT OIL ประเทศไทย เจ้าพ่อในวงการธุรกิจการปิโตรเลียมอันดับหนึ่งของเมืองไทย จบการศึกษาด้วยเกียตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ จบมาก็เปิดโรงเรียนอนุบาลบริเวณชุมชนใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันของครอบครัว ขัดกับความคาดหวังของบิดาที่จะมาดูแลสืบทอดธุรกิจของตระกูล ฉากหน้าเป็นหญิงสาวผู้ใจบุญช่วยเหลือเด็กยากไร้ด้อยโอกาส มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาติดพันมากมายล่าสุดก็หมั้นกับท่านรัฐมนตรีโมไนย พงษ์ไพศาล รัฐมนตรีหนุ่มหล่ออนาคตไกลที่มีประวัติไม่ค่อยขาวสะอาดเท่าไหร่นัก” พูดจบเขาก็ยักคิ้วให้
“แกเป็นใครกันแน่ ไอ้คนขี้ขลาด ต้องการอะไรจากฉัน”
หญิงสาวตะเบ็งเสียงใส่ชายแปลกหน้า มือน้อยของเธอกำแน่น
“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก รู้เอาไว้แค่ว่าผมเป็นเจ้าหนี้กรรมของพวกคุณ ที่ตามทวงความยุติธรรมเท่านั้นก็พอ อ้อ… อีกเรื่อง ถ้าคุณคิดจะหนีอีกครั้งล่ะก็ ผมจะมอบบทลงโทษอันสาสมที่คุณจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”
ชายหนุ่มเค้นเสียงอย่างน่ากลัวก่อนจะเดินหันหลังจากไป
พันธิตราทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบายประเดประดังเข้ามาในหัว ชายคนนี้เขาโกรธแค้นใครมีเรื่องอะไรถึงต้องจับตัวเธอมาแบบนี้ หรือว่ามันจะจับตัวเธอมาเรียกค่าไถ่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงอีกไม่นานเธอก็จะเป็นอิสระ แต่ดูจากลักษณะแล้วชายผู้นี้ไม่น่าจะเป็นโจรเรียกค่าไถ่เลย แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็ช่างสิ่งเดียวที่ควรคิดก็คือหาทางหลบหนีออกไปจากเงื้อมมือของเขาให้ได้
“เชอะ! คิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะกลัวคำขู่ของนายน่ะ”
หญิงสาวเบ้ปากให้ชายหนุ่ม เธอเห็นเขากลับไปนั่งก่อกองไฟพร้อมกับเตรียมภาชนะคล้ายกับหม้อต้ม ง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อกลางวันโดยไม่ได้สนใจหันมามองเธออีกเลย เวลาผ่านไปเพียงไม่นานกลิ่นหอมก็โชยออกมาจากอาหารที่รังสรรค์โดยฝีมือชายคนป่า หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อกลิ่นหอมชวนกินลอยเข้ามาเตะจมูกจนทำให้น้ำลายสอ ก่อกวนให้ท้องไส้ของเธอร้องขึ้นมาด้วยวันนี้อาหารยังไม่ตกถึงท้องเลยแม้แต่น้อย
“นี่ ทำอะไรกินน่ะหอมเชียว”
“ต้มซุป…” เสียงตอบกลับมาห้วนๆ คล้ายรำคาญ
“ทำเผื่อฉันด้วยใช่มั้ย”
ชายหนุ่มเงยหน้ามองเชลยสาวของเขาที่ส่งยิ้มให้อย่างประจบทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ดวงตากลมโตของเธอส่งประกายวับวาว ชายหนุ่มแสยะยิ้มผ่านหนวดเครารกครึ้มของเขาอย่างมีแววเจ้าเล่ห์ นี่ก็คงเป็นหนึ่งในมารยาหญิงสินะ! เขาคิดในใจ ไม่รู้ว่าไม้นี้ใช้ได้ผลมามากมายเท่าไหร่แล้ว สำหรับพวกผู้ชายโง่ๆ หลงในรูปลักษณ์อันงดงามจับตาของแม่สาวชาวกรุงนี่ แต่อย่าหวังว่ามันจะใช้ได้ผลสำหรับคนอย่าง
‘รอนโรเบิร์ต เคคิราวีนเซ่’
ชายหนุ่มผู้โชกโชนผ่านมานักต่อนักกับเหล่าสาวใหญ่สาวน้อยหลากหลายแบบ ทั้งในวงการบันเทิง นางแบบและเหล่าไฮโซที่ดูเฉิดฉายมีหน้ามีตาในวงสังคมชั้นสูง ที่บรรดาผู้มีอันจะกินตั้งกลุ่มของพวกเขาขึ้นมา เพื่ออวดความร่ำรวยของตนเองพวกหล่อนก็เป็นเพียงเครื่องเล่นสนุกๆ ทางเซ็กส์ของเขาเท่านั้น หลังจากขึ้นเตียงแล้วเสร็จภารกิจ ชายหนุ่มแทบจะไม่เหลียวมองพวกหล่อนอีกเลย
“หิวแล้วงั้นเหรอ” พ่อครัวหัวป่าถามเสียงห้วน ดวงตายิ้มขำ
“อืมมห์… หิวสิ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า”
สาวน้อยพยักหน้ารับ เธอคิดว่าบางทีการทำตัวน่ารักไร้เดียงสาอาจจะช่วยให้เขาไว้วางใจและเปิดช่องว่างให้เธอหลบหนีไปได้อีกครั้ง
“เอ้านี่ หิวก็กินซะ”
ชายหนุ่มตักอาหารฝีมือของเขาใส่ภาชนะแล้วเดินมายื่นให้หญิงสาว ผ่านช่องวางของกรงขังเข้าไป เชลยสาวของเขาหลับตาพริ้มสูดกลิ่นหอมของอาหารจานเด็ดเข้าไปท่าทางมีความสุข กล่าวคำขอบคุณพร้อมรอยยิ้มสดใสน่ารัก ชายหนุ่มขมวดคิ้วให้กับท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ เขาส่งยิ้มตอบแทนคำขอบคุณของหญิงสาว หากรอยยิ้มนั้นขึ้นไปไม่ถึงดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองเธอด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะคาดเดา
“โห อร่อยจัง นายนี่ก็ฝีมือใช้ได้นะ”
หญิงสาวตักอาหารเข้าปาก รสชาติของมันไม่คุ้นเคย แต่ก็นับว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับสถานการณ์ในแบบที่เป็น เชฟอาหารป่ากลับไปนั่งที่เดิมของเขายกน้ำแกงซดเสียงดังอย่างเอร็ดอร่อย มีบางช่วงที่เขาเหลือบกลับไปมองหญิงสาวด้วยแววตาขันๆ พันธิตรายกถ้วยน้ำแกงขึ้นซดบ้างพร้อมทั้งเอามือลูบท้องไปมาส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม เขาไม่รู้ว่ามันเป็นรอยยิ้มผูกมิตรเพื่อหวังผลของเธอหรือไม่ กระนั้นรอยยิ้มที่เห็นก็มีผลทำให้คนใจหินแทบละลายไปกับรอยยิ้มน่ารักของเธอ และต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่หลงเสน่ห์ของเธอเข้า
“เอาอีกหรือเปล่า”
รอนโรเบิร์ตถามเมื่อเห็นเธอวางภาชนะลงหลังซดน้ำแกงเข้าไปโฮกใหญ่
“พอแล้วล่ะฉันอิ่มแล้วขอบใจนะ เนื้ออะไรน่ะอร่อยดีจัง”
“ก็เนื้อของไอ้ตัวที่มันจะกัดคุณเมื่อเช้านี้ไง หากินไม่ได้ง่ายๆ นะต้องขอบใจคุณด้วยซ้ำที่พาผมไปเจอมันเข้า”