แผนหลบหนี

999 Words
ตอน แผนหลบหนี กองไฟมอดดับไปนานเท่าไหร่แล้วไม่อาจรู้ได้ เหลือเพียงควันสีขาวจางๆ ลอยขึ้นมาจากเถ้าของถ่านสีแดงที่ยังหลงเหลืออยู่ หญิงสาวลุกขึ้นบิดเนื้อบิดตัวขับไล่ความเมื่อยล้าออกจากร่างกาย เต็นท์ของชายหนุ่มที่เขากางเมื่อคืนก็หายไปด้วยพร้อมกับเจ้าของมัน พันธิตราฉวยเอากระบอกไม้ไผ่ที่ยังพอมีน้ำเหลืออยู่รินมันออกลูบหน้าลูบตา เรียกความสดชื่นให้กับร่างกาย นกน้อยตัวหนึ่งบินมาเกาะกิ่งไม้เหนือกงขังส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วราวกับกำลังทักทายเพื่อนใหม่ ลำตัวของมันมีสีทองปีกสีเทามีขลิบสีแดงแปลกตา หัวของเจ้านกน้อยมีสีดำจะงอยปากสีทอง ที่น่ารักที่สุดก็คือแก้มของมันมีสีขาว ก้นของมันมีสีแดงขณะที่ปลายหางเป็นสีดำ หญิงสาวชาวกรุงมองนกน้อยอย่างหลงใหลในความสวยงามของมันที่ธรรมชาติช่างรังสรรค์ได้อย่างลงตัวไร้ที่ติ “เจ้านกน้อยแกช่างมีอิสระดีเหลือเกิน อยากบินไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบ ฉันเป็นคนแท้ๆ กลับถูกขังราวกับสัตว์โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีความผิดอะไร” หญิงสาวรำพึงรำพันกับตัวเองอย่างคนสิ้นหวัง “เจ้าชื่อว่าอะไรนะนกน้อย…” “มันชื่อนกกะรองทองแก้มขาว” เสียงผู้รู้ดังมาเป็นคำตอบแทนเจ้านกสีสวย นกน้อยบินหนีไปทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้ๆ อย่างอารมณ์เสีย ที่ทำให้เพื่อนใหม่ของเธอบินหนีไป “ฉันไม่ได้ถาม! ทีไอ้เรื่องที่ถามทำไมไม่พูด สติยังดีหรือเปล่า” หญิงสาวตะคอกใส่ แต่แทนที่ชายหนุ่มจะอยู่ในอารมณ์เดียวกันกับเธอ เขากลับหัวเราะชอบใจในความเกรี้ยวกราดของเชลยสาวราวกับเป็นสิ่งน่าขบขัน “ไม่คิดเลยนะว่าคุณครูสาวสวยจะอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ผมล่ะอดนึกเป็นห่วงพวกเด็กๆ ลูกศิษย์ของคุณขึ้นมาซะแล้วสิ ว่าพวกแกจะติดนิสัยไม่น่ารักแบบนี้ไปด้วยหรือเปล่า” ในน้ำเสียงและสายตาของชายหนุ่มมองเธอด้วยความชิงชังรังเกียจหนักหนา “เป็นห่วงตัวเองเถอะ ถ้าฉันออกไปได้เมื่อไหร่นะแกไม่มีทางปากดีแบบนี้แน่” “ผมต้องกลัวสินะ” ชายหนุ่มเลิ่กคิ้ว “ปล่อยฉันออกไปสักเดี๋ยวได้ไหม ฉันปวดท้องเบาจะราดอยู่แล้ว” หญิงสาวกัดฟันแค่นเสียงบอกเขา ในขณะเดียวกันก็นึกไปว่าเขาต้องรู้เรื่องราวส่วนตัวของเธอไม่น้อย “หึ…” ชายหนุ่มทำเสียงขึ้นจมูกมองเชลยสาวแล้วส่ายหน้าไปมา ผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงใบหน้ายามไร้เครื่องสำอางไม่ได้ทำให้ความงามของหญิงสาวลดทอนลงแต่อย่างใด มันกลับทำให้เธอสวยในแบบธรรมชาติโดยไร้สารเคมีมาปรุงแต่งไม่เหมือนบรรดาหญิงสาวในเมืองที่เขาเคยเห็น แม่ ผู้หญิงพวกนั้นยามล้างเครื่องสำอางออกแล้วบางคนดูจืดชืดอย่างกับศพเดินได้เลยทีเดียว “ผมขอเตือนเอาไว้ก่อนนะถ้าคิดจะมาเล่นเหลี่ยมกับผมล่ะก็ คุณเจ็บตัวแน่!” ชายหนุ่มขู่ฟ่อก่อนจะคว้าลูกกุญแจที่เหน็บเอวอยู่ ไขกรงขังปล่อยตัวหญิงสาวให้เป็นอิสระ ร่างสูงใหญ่ฉุดข้อมือของหญิงสาวลากให้เดินตามเขาไป มือของเขาแข็งหยังกับคีมเหล็กบีบข้อมือน้อยๆ ของเธอจนปวดหนึบไปหมด หญิงสาวเบ้ปากเดินตามชายหนุ่มมองแผ่นหลังที่ดูกว้างและใหญ่โตของเขา เธอสูงเพียงแค่หน้าอกของเขาเท่านั้น กลิ่นกายของผู้ชายลอยมาปะทะจมูกของหญิงสาวก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาในร่างกาย แม้ยามอยู่ใกล้กับโมไนยคู่หมั้นของเธอก็ยังไม่เคยมีความรู้สึกอะไรแบบนี้เกิดขึ้นสักครั้ง “จับเบาๆ ได้ไหมเนี่ยฉันเจ็บนะ” หญิงสาวทำหน้ายู่ร้องบอกคนที่จับกุมเธออยู่ ราวกับร่างกายเธอไม่ได้สร้างขึ้นมาจากเลือดเนื้อซะอย่างนั้น “อย่ามาทำสำออย!” ชายหนุ่มเหลียวหลังกลับมาบอกเสียงห้วนจัด เขาพาหญิงสาวเข้าไปในป่าที่รกครึ้มและหยุดลงยังโคนต้นไม้ขนาดใหญ่ใบหนาทึบ จนแทบจะไม่มีแสงของดวงอาทิตย์ลอดผ่านลงมาได้ หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัวคิ้วสวยย่นเข้าชนกันด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเชิดหน้าจ้องคนที่พามาด้วยความสงสัย “ไหนล่ะห้องน้ำ” “ห้องน้ำงั้นเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มหยันที่มุมปากพลางส่ายหน้าไปมา กับประโยคคำถามและสีหน้าพาซื่อของสาวชาวกรุงเชลยของเขา ชายหนุ่มหยิบเอาพลั่วสนามออกมาจากเอวแล้วยื่นให้ พลางคิดในใจว่าคงต้องมีอีกหลายสิ่งอย่างที่ผู้หญิงคนนี้จะเรียนรู้ในป่าแห่งนี้ในฐานะนักโทษของเขา “ทำความเข้าใจซะใหม่นะ ที่นี่มันในป่านะครับคุณหนู ใครที่ไหนมันจะบ้ามาสร้างห้องน้ำแสนสุขไว้ที่นี่ คิดว่าถ้าสร้างเอาไว้แล้วจะมีลิงช้างบ่างชะนีเข้ามาใช้บริการหรือไงครับ นี่พลั่วอุปกรณ์สำหรับเข้าห้องน้ำของคุณ คิดว่าผมคงไม่ต้องสาธิตวิธีการใช้มันให้คุณดูหรอกนะ เดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิงซะเปล่าๆ” ชายหนุ่มยักคิ้วให้อย่างยียวน กระตุ้นให้หญิงสาวทั้งโมโหและอายจนหน้าแดงก่ำ เธอคว้าเอาพลั่วสนามที่ชายหนุ่มยื่นให้ไปถือไว้ในมือ มองเขาด้วยความเกลียดชังนึกอยากจะใช้พลั่วในมือแทงอกเขาสักสิบแผล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD