หลังจากที่ลงมาด้านล่างฝ่ายบุคคลก็เรียกทุกคนเข้าไปพบ และกล่าวขอบคุณที่ให้ความสนใจมาสมัครที่บริษัทนี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทางบริษัทได้เลิกไว้แล้วสองคน จากนั้นก็แจกเอกสารคืนให้กับคนที่ไม่ผ่านคัดเลือก ส่วน ภัทรา เธอก็ลุ้นว่าจะมีของตัวเองไหม สุดท้ายก็ไม่มี เหลือเธอกับเพื่อนที่มาสมัครพร้อมกันอีกคน
“แสดงความยินดีด้วยนะคะ หากสะดวกพรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย”
“รับผู้ช่วยบัญชีสองคนเลยหรือค่ะ”
ด้วยความสงสัย เธอเลยถาม เพราะเท่าที่จำได้ ผู้หญิงที่นั่งข้างเธอเขาก็มาสมัครแผนกเดียวกันกับเธอ
“รับแค่คนเดียวค่ะ”
“แล้วทำไม….”
“อ๋อ ลืมบอกไป น้อง ภัทรา ใช่ไหม เราเห็นว่าประสบการณ์น้องดี เลยให้ลงอีกตำแหน่ง เป็นเลขาท่านรอง”
ภัทรา ที่ได้ยินเธอถึงกับขมวดคิ้ว เธอไม่ได้ลงตำแหน่งเลขาสักนิด ดันได้ อีกอย่างเธอไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่เอาเถอะอย่างน้อยๆ ก็ได้งาน
“ขอโทษนะคะ แต่หนูไม่เคยทำตำแหน่งนั้นนะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เรามีคนช่วยสอน”
ในเมื่อบริษัทเล็งเห็นความสามารถของเธอ ภัทราก็ไม่อาจค้าน ดีซะอีกจะได้มีประสบการณ์เพิ่ม
หลังจากที่กลับมาจากสมัครงาน เธอก็ไม่ลืมที่จะเล่าให้เพื่อนฟังว่าได้งานใหม่ เริ่มงานพรุ่งนี้ เป็นที่น่ายินดีนัก
line
อิ้ง: ดีวะ ถือว่ามึงได้งานเร็วนะ สมัครปุ๊บได้ปั๊บ โชคดีสุดๆ
ภัทร: นั้นดิ ไม่น่าเชื่อ
อิ้ง : เริ่มงานที่ใหม่ หวังว่าจะได้เจอสิ่งใหม่ๆ ด้วย ขอให้โชคดีนะเพื่อน
ภัทร : อืม…ขอบใจมึง
หลังจากที่คุยกันในไลน์แล้ว ภัทราก็วางมือถือลง พรุ่งนี้จะเป็นการเริ่มงานใหม่ ที่ใหม่ พร้อมทั้งชีวิตใหม่ของเธอจริงๆ เสียทีแต่…..
“ผู้ชายคนนั้น ทำไมเขาไปอยู่ที่นั่นได้วะ อย่าบอกนะว่ากำลังหนีเสือ ปะ จระเข้ ชีวิตคงไม่อับจนหนทางหรอกใช่ไหม ภัทรา”
เมื่อนึกถึงใบหน้ายียวนของคนที่ได้พบในเมื่อเช้า กับคิดถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อน ให้ตายเถอะ ขุนลุก!
วันเริ่มงาน
ถือได้ว่าเป็นเช้าที่สดใสมาก เพราะคนที่กำลังจะเริ่มงานใหม่กับบริษัทใหญ่โต ถือได้ว่าเป็นมิตรหมายอันดี
ภัทรามาแต่เข้าเพื่อที่จะให้ฝ่ายบุคคลส่งตัวเธอไปที่ห้องท่านรอง หากจะพูดอีกอย่าง ก็เป็นเรื่องตื่นเต้นไม่น้อย เพราะเธอมาเป็นเลขาท่านรองประธานของบริษัท คงดูดีมากๆ คิดแล้วก็ยิ้ม
“น้องค่ะ พร้อมหรือยังเดียวพี่จะพาขึ้นไปหาพี่แก้วตาข้างบน”
“พะ พร้อมค่ะ”
เมื่อตอบรับไปแล้วก็เดินตามพี่พนักงานไปที่ชั้นบน ที่นี้มีสี่ชั้น ชั้นบนจะเป็นผู้บริหารทั้งหมด อีกอย่างเขามีลิฟต์คงไม่ต้องเดินให้ปวดน่อง
“พี่แก้วตา! หนูพาพนักงานใหม่มาฝากค่ะ”
ทันทีที่พี่ฝ่ายบุคคลแนะนำ ภัทรา ก็ไม่รอช้าที่จะยกมือขึ้นไหว้ ส่วนพี่คนนั้นก็ไหว้ตอบ จากนั้นพี่ฝ่ายบุคคลก็กลับลงไปตามเดิม
“ชื่ออะไรละเรา” พี่แก้วตาเอ่ยถาม
“หนูชื่อ ภัทรา ค่ะ เรียกภัทรก็ได้”
พี่แก้วตาพยักหน้า ก่อนจะนำเอกสารที่ภัทราต้องสานต่อมาวาง จากนั้นก็พาเธอไปที่โต๊ะทำงานพร้อมบอกงานที่จะต้องทำวันนี้
“เอกสารชุดนี้ อ่านให้ละเอียดก่อนที่จะเอาไปให้ท่านรองเซ็น หากมีผิดพลาดตรงไหน หนูก็แก้ไขได้เลย”
“พี่แก้วคะ ท่านรองดุหรือเปล่า เจ้าระเบียบมากไหม”
พี่แก้วตาทำหน้าเหมือนจะตอบยาก ไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไรในตัวของท่านรองหนุ่ม จนกระทั่ง
“เดี๋ยวเข้าไปก็รู้เอง หากมีอะไรก็เดินไปถามพี่ได้ ไม่ต้องถามท่านรองนะ”
“อ๋อ…ว่าแต่ ท่านรองมาแล้วใช่ไหมคะ”
“มาได้สักพักแล้วจ๊ะ เอกสารชุดไหนที่ต้องให้ท่านรองเซ็น หนูก็ถือเข้าไปได้เลย จะได้ส่งให้แผนกอื่นทำต่อ”
ภัทรา พยักหน้าตอบรับ ไม่รู้ว่าท่านรองจะดุหรือเจ้าระเบียบแค่ไหน แต่ที่ในหัวเธอคิดคือ ชายสูงวัยที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน หวังว่าจะได้เป็นเลขาที่มีเจ้านายใจดี…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูอยู่สามครั้ง แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านในไม่ได้ตอบรับอะไร เขาหมุนเก้าอี้หันหลังให้ประตู จากนั้น ภัทรา ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเดินมาวางเอกสาร
“ขออนุญาตค่ะ ท่านรอง ดิฉันเอาเอกสารมาให้เซ็นค่ะ”
พูดจบเธอก็ก้มหน้าลง ส่วน ท่านรองอัศวินก็ค่อยๆ หมุนตัวเองมา พร้อมยกยิ้มแล้วกล่าวทักทายเลขาคนสวย
“สวัสดีครับคุณเลขา!!”
**กรี๊ดสิค่ะ กรี๊ด กรี๊ดเลย???