อัศวิน จ้องมองเลขาตรงหน้า ให้ตายเถอะไม่เจริญหูเจริญตาสักนิด พี่แก้วตาที่ใส่แว่นหนาเป็นเซ็นแถมอายุน่าจะสี่สิบกลางๆ แถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ ยังกะจะไปปฏิบัติธรรม
“คุณวิน จ้องพี่ทำไมคะ มีอะไรสงสัยหรือเปล่า”
“เจ๊ ผมไม่เอาพี่แก้วตาได้ไหม อย่างน้อยๆ ก็ขอให้สาวกว่านี้เถอะ ผมมาทำงานก็เครียดมากพอแล้ว อย่าให้เครียดหนักขึ้นเพราะเห็นแสงธรรมจากพี่เขาเลย”
“ไอ้วิน ปากแก่นี่นะ!!” อัสมา โพล่งเสียงใส่น้อง
“ขอโทษพี่แก้วด้วยนะคะ คือเจ้าวินมันจะปากเสียแบบนี้แหละค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไม่ถือ หากคุณวินอยากได้เลขาใหม่ ก็ตามใจเถอะค่ะ ส่วนงานพี่บอกผ่านเลขาคนใหม่ก็ได้ไม่มีปัญหา”
“ใช่ครับพี่พูดถูก”
“เงียบไปเลย ไอ้น้องคนนี้”
ภัทรา ตัดสินใจลาออกจากงานเพราะทนเห็นหน้าอดีตคนรักไม่ได้ แต่เธอก็ยังไม่ได้งานใหม่ที่ไหน ทุกวันก็ยังคงอยู่แต่ในห้อง สมัครงานไปเรื่อยเธอค้นหาตามอินเตอร์เน็ตที่รับสมัครงาน จนกระทั่ง เจอกับบริษัท ATNจำกัด
“นี่มันบริษัทเครื่องหนังนี่วา น่าลองแหะ!”
แผนกที่บริษัทรับ มีสองตำแหน่ง เลขาและผู้ช่วยฝ่ายบัญชี แน่นอนว่าเธอไม่ได้จบเลขา การบัญชีการเงินที่เธอจบมา ตรงสาขาซะด้วย
ภัทรา จัดเตรียมเอกสารที่จะมาสมัครด้วยตัวเอง เพราะเธอคิดว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้คงไม่ใช่แค่เธอแน่
รุ่งเช้า
ภัทรา มาถึงบริษัทตั้งแต่เช้า การแต่งตัวของเธอก็ดูเรียบร้อยเหมาะแก่เป็นพนักงานที่บริษัท เวลาผ่านไปตามคาด คนมามากกว่าสิบ แต่รับแค่สองตำแหน่งว่าง ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นคนที่โชคดีคนนั้นหรือเปล่า
ทุกคนเดินเข้ามาที่ฝ่ายบุคคล กรอกเอกสารเรียบร้อยก็ยื่นใบสมัคร จากนั้นก็รอสัมภาษณ์ ระหว่างที่รอ เธอดันอยากเข้าห้องน้ำ รู้สึกปวดท้อง เมื่อมองดูแล้วก็ไม่น่าจะถึงคิวตน เลยแอบเดินไปเข้าห้องน้ำทำทุกอย่างเรียบร้อยก่อนที่จะเดินออกมา เป็นจังหวะที่ท่านรองคนใหม่เดินเข้ามาพอดี ภัทราเธอเอาแต่ก้มหน้าจัดแจงเสื้อผ้าเลยไม่ทันได้มองว่าคนที่กำลังเดินอย่างเร่งรีบจะชนกันเข้า
พรึบ
“ขอโทษค่ะ”
เธอขอโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ส่วนอัศวินก็มองดูตัวเองว่ามีส่วนไหนเสียหายไหม เพราะวันนี้เขามีประชุมเช้า
“ไม่เป็นไร”
เมื่อเสียงตอบนั้นดังขึ้น ภัทรา ก็เงยหน้ามองพร้อมรอยยิ้ม แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันใด เพราะคนตรงหน้า
“นี่คุณ….”
“ยัยขี้เมา!!”
ภัทรา ตกใจยืนนิ่งทำไมโลกมันกลมได้ขนาดนี้ บริษัทมีออกจะเยอะแยะ ทำไมต้องมาเจอผู้ชายคนนี้ด้วย
“อย่าบอกนะว่ามาสมัครงาน จะว่าไปเขารับแค่เลขา หรือจะมาสมัครผู้ช่วยบัญชี แต่หน้าโง่อย่างนี้ไม่น่ารู้เกี่ยวกับตัวเลข คุณทำงานที่นี่เหรอ”
“ปากดีเหมือนเดิม คิดเองตอบเอง ฉันคงไม่ต้องบอกเธอละมั้งว่ามาทำอะไร แล้วเธอละยัยขี้เมา มาทำอะไร”
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกว่ามาสมัครงาน”
“จริง ดูฉลาดขึ้นเยอะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอมาทำอะไร โชคดีแล้วกัน!!”
อัศวิน ยกยิ้มมุมปาก พร้อมทำหน้ายียวนกวน ก่อนที่เขาจะเดินหนีไป ส่วน ภัทรา เธอก็ยังคงสงสัยอยู่อย่างนั้น ว่าเขาดูหน้าโง่ แต่เข้าตัวเองซะได้ ยัยภัทร
เวลาผ่านไป ที่ภัทรายังคงนั่งรออยู่หน้าห้อง ฝ่ายบุคคล ส่วนคนที่ขึ้นไปด้านบนห้องทำงาน กับนึกขึ้นได้ ในเมื่อโลกมันหมุนโคจรมาเจอกันแล้ว ก็คงไม่ต้องเลี่ยงมันต่อไป
อัศวิน เรียกฝ่ายบุคคลขึ้นมาพบ พร้อมทั้งให้นำเอกสารผู้ที่สมัครมาด้วย เมื่อเอกสารวางตรงหน้าอัศวินก็ไม่รอช้าที่จะรื้อมัน
“คุณวินหาอะไรหรือค่ะหรือว่ารู้จักคนที่มาสมัคร”
อัศวินยังไม่ตอบ เอาแต่รื้อหาเอกสารของภัทรา จนกระทั่ง..
“อยู่นี่เอง…ภัทรา บุญนิวัฒน์ “
เขาแสยะยิ้มเพียงแค่มุมปาก เมื่อเห็นใบสมัครงานของคู่อริก็ว่าได้ จากนั้นสายตาคม ก็กวาดมองรายละเอียดทั้งหมดที่เธอกรอกไว้
“อายุยี่สิบสาม จบบัญชี หึ หึ”
เมื่อลดเอกสารแล้ววางมันลง ชายหนุ่มก็พูดขึ้นเสียงเข้ม
“เอาคนนี้มาเป็นเลขาผม ส่วนคนอื่นบอกกลับบ้านไป”
“แต่ว่า เรายังไม่ได้สัมภาษณ์เลยนะคะ”
“นั้นมันเรื่องของพวกคุณ ส่วนเรื่องของผม เด็กคนนี้ต้องมาเป็นเลขาผม ไม่ทราบว่าฝ่ายบุคคล ติดขัดตรงไหนครับ”
ใครจะไปกล้าติดขัดกับท่านรองได้ ในเมื่อเป็นคนเลือกเลขาเองฝ่ายบุคคลก็คงต้องทำตามที่ได้รับคำสั่ง
**โอ้ยย มีใครคิดเหมือนไรท์บ้าง พระนางคู่นี้เหมาะสมกันที่สุด??
ขอคนละ1เม้นให้ไรท์ชื่นไจหน่อยนะ ?