รชาใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วยืนแอบฟังเงียบๆด้วยความสงสัยและพอจะมองออกหลายอย่างออก ก่อนจะสูดหายใจแล้วตั้งใจเดินเข้าไปขัดจังหวะพวกเขาสองคนพร้อมกับสีหน้ามึนงงกับแววตาตกใจที่จ้องมองกันเพียงไม่กี่วินาทีของคุณวี เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรแล้วนั่งลงบนเตียงให้คุณวาดิมได้มองร่องรอยเล็กน้อยจากการปะทะที่อยู่นอกแผนจนได้แผลมาแบบนี้
“ที่เอวไปโดนอะไรมา”
“สะเก็ดระเบิด”
“เธอไปทำอะไรมากันแน่ห่ะ แล้วนี่ไปกับใครบ้าง?”
“ไปกับพี่ชาย รถนั่นก็ของขวัญให้ฉันที่เก่งจนสามารถหนีออกมาจากบ้านได้ อีกไม่กี่วันพี่ชายฉันจะมาหาอีกครั้งและฉันคงบอกคุณไม่ได้ว่าเรานัดเจอกันที่ไหน ทุกอย่างเป็นความลับ”
“คงไม่ใช่แค่ระเบิดใช่ไหม?”
“อื้อ”
“ที่ฉันให้ไปมันไม่พอรึไงรชา เธออยากได้เท่าไรก็บอกมาสิฉันจะให้เดี๋ยวนี้เลย! ทำไมต้องไปเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ด้วยห่ะ เธอไม่คิดว่าฉันจะเป็นห่วงจนแทบบ้ารึไง!!”
“โกรธเหรอ?”
“ใช่! ฉันโกรธมากด้วยรชา!!”
“ฉันไม่หนีไปไหนตอนนี้หรอกน่าไว้ใจกันบ้างสิ”
“ตอนนี้ไม่ทิ้งฉันไป แต่ในอนาคตก็จะทิ้งใช่ไหม!?”
“ก็…”
“ไม่ว่าจะเป็นตอนนั้นหรือตอนนี้เธอก็ใจร้ายกับฉันตลอดเลยนะรชา มันจะมีสักครั้งไหมที่เธอมองฉันเป็นคนสำคัญบ้าง กลับมาทำให้ฉันมีความหวังอีกครั้งแล้วก็คิดจะทิ้งกันไปดื้อๆนี่นะ เธอไม่คิดว่าฉันจะเจ็บมั้งเหรอที่โดนเธอทิ้งซ้ำๆแบบนี้!”
วีนิ่งเงียบไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเพราะเรื่องในอดีตเขาไม่เคยรู้เลย เขาพึ่งจะรู้ว่าคุณวาดิมรักน้องรชามาตั้งสามปีก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง แล้วเรื่องจะทิ้งอีกครั้งก็พึ่งจะรู้เหมือนกัน! ก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันไปมากกว่านี้ก็ขอตัวกลับไปนอนพักเพราะนี่ก็เช้าแล้ว
เรื่องของผัวเมียก็ให้เคลียร์กันเอง
ลูกน้องไม่ควรยุ่ง
วาดิมนั่งทำแผลเงียบๆไม่รู้ว่าจะพูดอะไกับเด็กหัวรั้นที่ไม่เคยจะเชื่อฟังอะไรเลย เธอเอาแต่ใจตัวเองทุกอย่างและทำเหมือนว่าเขาไม่สำคัญอะไร รอยช้ำที่แขนเล็กค่อนข้างเยอะแล้วพรุ่งนี้มันน่าจะบวมกว่านี้ด้วย เขาจะพาเธอไปหาหมอเพื่อตรวจเช็คอาการทุกอย่างด้วยตัวเองกันเด็กหนีหากให้วีพาไป แล้วต้องถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าอยากจะไปงานเลี้ยงด้วยกันไหม หรือว่าอยากจะพักที่บ้านแทน
ให้ตายสิ! มีวิธีไหนที่จะขังเธอไว้ได้บ้าง
เขากลัวเธอหนีไป
รชามองคนที่นอนนิ่งเงียบที่โกรธกันมากด้วยเรื่องที่เป็นความลับที่ยังไม่สามารถจะเปิดเผยได้ แต่เธอเชื่อว่าไม่เกินสองวันเขาก็น่าจะหาข่าวได้และพอเดาอะไรออกมากขึ้น กฏของครอบครัวคือห้ามเปิดเผยความลับให้กับคนนอกรู้เรื่องเด็ดขาดไม่อย่างนั้นเขาจะถูกปิดปาก แต่กฏไม่ได้บอกว่าห้ามบอกใบ้ให้รู้ ดังนั้นเธอไม่พูดออกไปชัดแต่ก็สามารถทิ้งร่องรอยเล็กๆให้เขาสามารถประติดประต่อเองได้
เธอไม่อยากจะทำให้เขารู้สึกแย่แบบนี้
แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี
เธอล้มตัวลงนอนเงียบๆโดยที่มีระยะห่างระหว่างเรา จากนั้นค่อยๆขยับตัวเข้าไปนอนกอดเขาที่นอนนิ่งเพราะโกรธกัน แต่ผ่านไปได้ไม่ถึงนาทีก็กอดกลับมาแล้วจูบหน้าผากเธอซ้ำๆไม่หยุด สีหน้าที่มองเต็มไปด้วยความกังวลชัดเจน แววตาสั่นไหวอย่างหนัก เธอขยับเข้ามาจูบที่แก้มของเขาแผ่วเบาแล้วยิ้มกว้างให้เผื่อจะสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่ว่าแววตาของเขายังคงเศร้ามากเหมือนว่ามีเรื่องที่กำลังเก็บกดอยู่ภายในใจ
“รู้ใช่ไหมว่าฉันรักเธอมากขนาดไหน?”
“อื้อ”
“ให้ฉันตายแทนก็ยังได้เลยรชา”
“แต่ฉันไม่ได้อยากให้คุณตายสักหน่อย ฉันช่วยให้คุณรอดมาได้จนถึงวันนี้คุณก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ไม่ว่าวันข้างหน้าจะมีฉันหรือไม่มีก็ตาม คุณวาดิมต้องอยู่ให้ไหวนะ”
“ตัวแค่นี้ใจร้ายจังเลยนะ”
“คุณก็คลั่งรักอย่างมีสติบ้างสิ”
เขายิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดูเมียตัวเล็กที่เข้ามาง้อได้แบบน่ารักมากและในเวลาไม่ถึงนาทีเขาหายโกรธเธอไปหมดเลย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมเรื่องที่เธอพูดหรอก เขามั่นใจว่ารชาไม่ยอมเผยความลับง่ายๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นกฏภายในครอบครัวเพราะอาจจะไม่ปลอดภัยเอาได้หากข้อมูลรั่วไหล แต่สิ่งที่เธอพูดก็เป็นการบอกใบ้ให้เขาไปค้นหาคำตอบเองมากกว่า
ยัยเด็กแสบนี่เหลี่ยมใช่ย่อยเลยนะ
ยิ่งรู้ก็ยิ่งหลงมากขึ้น
เราจูบกันอย่างอ่อนหวานแล้วเด็กไร้เดียงสาที่พึ่งจะเรียนรู้วิธีการจูบก็ทำได้แบบน่ารัก โต้ตอบแบบเงอะงะไม่ประสีประสาแต่กลับปลุกเร้าอารมณ์ให้ลุกฮือไปด้วยความต้องการ ทุกสัมผัสของเธอปลุกเร้าอารมณ์ดิบให้ตื่นขึ้นมาเพื่อมอบความปราถนาแสนร้อนแรงให้เธอรับเอาไว้คนเดียว
เช้านี้จะบอกรักให้หมดแรงหนีเลย
เด็กดื้อของเขา
ชุดนอนที่พึ่งจะใส่หลุดออกจากตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่นาทีและเริ่มต้นบทรักแสนอ่อนโยนเพื่อที่เมียจะได้ไม่เจ็บมากเกินไป เขารู้สึกดีกว่าใครว่าเธอยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องนี้แต่มันไม่มีวิธีอื่นแล้วที่จะรั้งเอาไว้ให้อยู่ด้วยกันนานๆ เขาต้องการทำให้เราผูกพันกันมากจนทิ้งไม่ลง แม้ว่าคนที่รู้สึกมากกว่าจะเจ็บปวดหนักหน่วงหลายเท่าก็ตามหากผิดหวัง เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจมาอยู่ด้วยกันตลอดไป
เธอเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
แม่นกน้อยตัวแสบ
“อ่า…เจ็บแผล”
“ฉันทำแรงไปเหรอ?”
“นอนแบบนี้แล้วทับแผล อื้ม…คุณวาดิม”
เขาเปลี่ยนท่าเพื่อให้เธอเจ็บแผลน้อยลงและเราถึงสวรรค์ไปด้วยกัน ทุกจังหวะกระแทกกระทั้นเต็มไปด้วยความสุขแสนเสียวซ่านจนแทบบ้าแต่ต้องพยายามควบคุมสติไม่ให้เตลิดจนเผลอทำอะไรรุนแรงเกินไป เมียเด็กตัวเล็กแสนน่ารักร้องครางดังลั่นได้โคตรเพราะ ยิ่งครางเป็นชื่อของเขายิ่งน่าฟัง
นับว่าเช้านี้สดใสกว่าทุกวัน
เธอไม่น่าจะได้นอนพักง่ายๆหรอก
เวลาผ่านเลยไปจนถึงช่วงบ่ายสองกว่าๆวาดิมถึงได้ตื่นนอนแล้วกอดเมียตัวแสบด้วยความรักและหวงมาก เขาเก็บเรื่องเธอเป็นความลับมาได้ตั้งนานแต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็เล็ดลอดออกไปทำให้ต้องวางแผนอีกครั้งเพื่อรักษาความปลอดภัยให้เธอ เขาจูบหน้าผากเมียแผ่วเบาก่อนจะลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ แล้วส่งข้อความบอกวีให้มาหาที่ห้องทำงานได้เลย แต่ก่อนจะเดินออกจากห้องเมียดันตื่น
เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอตื่นง่าย
“คุณวาดิมจะไปไหน?”
“ไปคุยงาน นอนต่อเถอะ”
“อยากกินพิซซ่าชีสแน่นๆเอาเครื่องล้นๆเลย”
“เดี๋ยวฉันสั่งมาให้กิน แล้วจะมาปลุก”
“คุณวาดิมหายโกรธแล้วเหรอ?”
“เธอใช้อะไรมาง้อฉันล่ะ”
“พึ่งรู้ว่าแก่แล้วยังชอบกินนมอยู่”
“แค่นมเมียเท่านั้นแหละ”
“บ้า! คุณโกรธยากแต่หายโกรธง่ายมากเลย”
“ใครจะโกรธเมียได้นานล่ะ”
เขาจูบหน้าผากเมียแผ่วเบาอีกครั้งแล้วดึงผ้าห่มให้มิดชิดยิ่งขึ้นเนื่องจากว่ารชาไม่ได้ใส่เสื้อผ้านอน ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเธอก็หลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้าและอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงเขาจะมาปลุกไปกินพิซซ่าที่เธอบอก เรื่องเอาใจเมียเด็กเขาทำได้เต็มที่อยู่แล้ว เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เธอมีความสุขในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เขาตั้งใจทำให้เธอรักกันบ้างแม้สักน้อยนิดก็ยังดี
ไม่สำคัญเลยว่าเขาจะรักเธอมากเท่าไร
แค่เธอรักเขาก็พอแล้ว
วาดิมเดินไปที่ห้องทำงานแล้วสั่งกาแฟมาสองแก้วเพราะอีกไม่กี่นาทีวีจะตามมา เขาหยิบกล่องคุกกี้มาเปิดออกด้วยความหนักใจในรสชาติที่ไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงดี เขาหยิบมากินชิ้นหนึ่งพอดีกับที่วีเปิดประตูเข้ามาเพื่อคุยเรื่องสำคัญ แววตาของวีที่มองคุกกี้เหมือนยาพิษทำให้รู้สึกตลกนิดหน่อยนะ
“กินได้จริงๆเหรอครับคุณวาดิม”
“ก็…กินได้ ฉันก็ยังไม่ตายนี่ เอาสักชิ้นไหมล่ะ?”
“อย่าเลยครับ ผมไม่อยากแย่งเดี๋ยวคุณวาดิมจะไม่มีอะไรกินเล่นตอนทำงานดึกๆ”
“รชาตั้งใจทำเชียวนะ”
“ถ้าตั้งใจมากกว่านี้ไม่ใช่แค่คุกกี้ที่ไหม้นะครับ ครัวอาจจะไม่เหลือด้วยซ้ำ”
“พูดโอเวอร์ไปได้ เมียฉันยังเด็กเลยทำอะไรไม่ค่อยเป็นเฉยๆ เดี๋ยวโตอีกนิดก็ทำเก่งเองแหละ”
“สิบแปดไม่เด็กแล้วนะครับ คุกกี้ก็สูตรง่ายๆแค่นี้เอง”
“ง่ายอะไรเล่าวี! ขนาดฉันยังทำไม่เป็นเลย รชาทำได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งมากแล้วนะ”
“ครับ เก่งก็เก่ง” อวยเมียสุดๆไปเลยนะคุณวาดิม แล้วคุกกี้สองกล่องนี้ต้องใช้เวลากินกี่เดือนถึงจะหมดก็ไม่มั่นใจเลย เพียงนึกถึงรสชาติขมปนหวานก็สยองแล้ว กลิ่นเดียวที่รู้สึกได้คือกลิ่นไหม้ นี่ยังไม่รวมกับเนื้อสัมผัสที่แข็งกระด้างจนกัดแทบไม่เข้าด้วยนะ เขาไม่อาจหาญจะแบ่งคุกกี้มากินหรอก
คุณวาดิมความรักบังตามากเกินไป
หลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น
“นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดตัวใหม่ที่ผมหามาได้ครับ กล้องตัวนี้พึ่งติดเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยไม่มีใครรู้”
“ยัยเเสบเก่งใช้ได้เลย”
“จำได้ว่าถูกสะเก็ดระเบิดด้วยใช่ไหมครับ?”
“อื้ม”
“นี่ข่าวล่าสุดที่สายของเรารายงานมา แต่ว่าไม่ยืนยันนะครับว่าเป็นฝีมือน้องรชาด้วยรึเปล่า แต่ถ้าเทียบกับเวลาที่ใช้ในการเดินทาง เวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นและช่วงที่กลับบ้าน ทุกอย่างสอดคล้องกันหมดเลย”
“รู้ไหมว่าใครเป็นคนจ้าง?”
“รู้ครับ แต่น่าจะติดต่อยากพอสมควร ฝั่งนั้นกำลังเจอปัญหาใหญ่อยู่คงไม่ไว้ใจใครง่ายๆ”
วาดิมมองภาพจากกล้องวงจรปิดเพียงตัวเดียวในบ้านที่มีภาพเมียเด็กเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ แต่นี่มันการันตีได้ว่าเธอมีฝีมือมากพอสมควร แล้วจากนั้นก็อ่านรายงานรวมถึงรูปถ่ายสิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนด้วยความหนักใจมาก ทุกอย่างสอดคล้องกันไปหมดเลย เหตุการณ์นั้นอยู่ภายในคฤหาสน์หรูแห่งหนึ่งที่มีการปะทะกันอย่างหนักในช่วงตีสาม มีระเบิดในช่วงเกือบจะตีสี่ แต่ชนวนเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ เขาเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกัน
“คุณวาดิมว่าใช่ไหมครับ”
“ใช่”
“สรุปเป็นใครกันแน่ครับ?”
“ฉันยังบอกไม่ได้ตอนนี้ รู้ไว้แค่รชาไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป”
“ใจคอจะเก็บเป็นความลับทุกอย่างเลยเหรอครับ?”
“มันจำเป็น” เขายังไม่รู้เรื่องเมียของตัวเองมากเท่าไรแต่เดี๋ยวจะหาทางติดต่อกับคนที่จ้างทีมนี้ให้ได้ เขาต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเมียให้มากที่สุดเพราะวันหนึ่งที่เธอทิ้งกันไปจะได้ตามหาเจอ เขาไม่มีทางยอมอยู่คนเดียวตลอดไปหรอก รชาเป็นของเขาแล้ว เธอก็ต้องเป็นของเขาคนเดียวตลอดไป ไม่ว่าเธอไปหายไปที่ไหนเขาก็จะตามกลับมาอยู่ด้วยกันให้ได้
จะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง
แม่นกน้อยจะต้องอยู่กรงทองเท่านั้น