บทที่7

1155 Words
“เรื่องนั้นไว้คุณรสไปถามพ่อเลี้ยงเอาเองจะดีกว่าค่ะ พวกป้ากำลังทำอาหารกลางวันค้างกันอยู่ ถ้าคุณรสกับคุณหนูแก้มจะรอพ่อเลี้ยงก็เชิญตามสบายเถอะนะคะ ป้ากับคุณเพียงต้องขอตัวก่อน…” แขไขเอ่ยขึ้นตัดบทก่อนจะหันไปจูงมืออีกคนที่ได้แต่ยืนนิ่งหวังจะให้เดินตามกลับไปที่ครัวด้วยกัน “หล่อนยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!” แต่แค่เริ่มต้นเพียงขยับเท่านั้น ต้นแขนของเพียงจันทร์ กลับถูกแขกของผู้เป็นนายกระชากไว้อย่างแรง “โอ้ย!” แรงกดจากเล็บของอีกฝ่ายทำให้เธอส่งเสียงร้องขึ้นมาเบาๆ เดือดร้อนแม่บ้านสูงวัยที่ต้องออกโรงปกป้อง ด้วยกลัวว่าหากเรื่องนี้ไปถึงหูเจ้านาย จะถูกไล่ออกกันทั้งบ้านโทษฐานดูแลอีกคนไม่ดี “คุณรส!” “ป้าแขอย่ามายุ่ง รสอยากคุยกับผู้หญิงคนนี้ตามลำพัง!” รสสุคนธ์ยังคงไม่ยอมแพ้ สายตาจับจ้องไปยังผู้หญิงตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ยังไงวันนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าแม่นี่เป็นใคร เข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง “มีอะไรกัน!” แต่ก่อนที่จะได้ทำตามใจ เสียงเข้มของเมฆากลับดังขึ้นเสียก่อน ทำให้เธอต้องยอมปล่อยนังผู้หญิงคนนั้นทั้งๆ ที่ไม่อยาก “เมธ!” “เกิดอะไรขึ้น” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีว่าหนูแก้มแกบ่นคิดถึงคุณค่ะ รสก็เลยพาแกแวะมาหา” คนเอาแต่ตัวเก่งตอบก่อนจะผลักบุตรสาวให้เดินออกมาด้านหน้า ซึ่งเด็กน้อยก็ไม่ทำให้มารดาผิดหวัง เธอวิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเมฆา ที่ย่อตัวลงมารับแขนป้อมๆ นั้นเข้าหาตัวในทันที “ไงครับคนเก่ง” เขาถามก่อนจะก้มลงหอมแก้มหอมๆ ให้หายคิดถึง ยอมรับโดยไม่มีข้อมือว่าตกหลุมรักเด็กคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่เห็น “ลุงเมธไปไหนมาค่ะ หนูแก้มคิดถึง” ซึ่งเด็กหญิงดากานดาก็รักคุณลุงเมธของเธอเหมือนกัน เพราะไม่มีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ จึงโหยหาความรักมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ที่มีครบหมดไม่ว่าจะพ่อหรือแม่ “ลุงไปทำธุระมาครับ ว่าแต่หนูแก้มคิดถึงลุงมากไหม” “คิดถึงมากๆ เลยค่ะ ลุงเมธอย่าหายไปนานแบบนี้อีกนะคะ หนูแก้มกับคุณแม่คิดถึง” เด็กน้อยพูดตามคำสั่งของมารดาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้คนที่รู้สึกเอ็นดูหนูน้อยอยู่ก่อนแล้วยิ่งเอ็นดูหนักมากขึ้นไปอีกจนอดไม่ได้ที่จะอุ้มแกออกไปเดินเล่นที่หน้าบ้านโดยมีแม่เด็กอย่างรสสุคนธ์เดินตามหลังไปติดๆ แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองอีกคนพร้อมแสยะยิ้มใส่ แต่แค่นั้นก็มากพอทำให้เพียงจันทร์ตามออกมาดู ภาพของเขากับเด็กคนนั้น… ช่างดูอ่อนโยนจนเธอรู้สึกอิจฉา ยังไม่รวมภาพแม่ของเด็กที่ตอนนี้นั่งเคียงคู่อยู่ข้างๆ มองเผินๆ พวกเขาเหมือนครอบครัวที่มีพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกก็ไม่ผิด แล้วเธอเล่าเป็นใครมายืนแอบมองอะไรอยู่ตรงนี้ หญิงสาวคิดกับตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินหายกลับเข้าบ้านไป “ผู้หญิงคนนั้นใครกันคะ!” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กันตามลำพังรสสุคนธ์จึงตัดสินใจถามขึ้นตรงๆ และหวังว่าเขาจะตอบตรงๆ เช่นกัน “เธอชื่อเพียงจันทร์” ซึ่งอีกคนก็ตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ เท่านั้น “คุณก็รู้ว่ารสไม่ได้อยากรู้แค่ชื่อเธอ!” “แต่เผอิญว่าผมอยากให้คุณรู้แค่นี้” เมฆาพยายามไม่ใส่ใจท่าทีหวงแหนตนเองของอีกคนเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้รสสุคนธ์ไม่พอใจ “เมธ!” “ที่คุณยังเข้าออกบ้านหลังนี้ได้เป็นเพราะอะไรคุณย่อมรู้ดีแก่ใจ เพราะฉะนั้นถ้ายังอยากให้ผมเอ็นดูลูกคุณอยู่ กรุณาอย่ามาล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวของผมครับรส!” เขาตอบกลับด้วยคำพูดที่ฝากเอาไว้ให้คิดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปอุ้มลูกสาวของเธอแนบอก เหมือนที่ชอบทำทุกครั้ง แม้ว่าเขาจะรักลูกของเธอมากแค่ไหน แต่ในใจของเธอกลับอยากได้มากกว่านั้น เธออยากกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาอีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าความหวังนั้นริบหรี่มากแค่ไหนเธอก็ไม่เคยหมดหวัง สักวัน! เธอจะทำให้เขากลับมารักเธออีกครั้งให้ได้! เมฆาพาอดีตคนรักกับลูกสาวออกไปทานข้าวเย็นข้างนอกตามคำขอร้องของหนูน้อยก่อนจะกลับเข้าบ้านอีกครั้งในเวลาดึก สายตาคมเข้มพยายามมองหาใครอีกคนที่ไม่ได้นอนอยู่ที่เตียง กระทั่งพบแผ่นหลังบอบบางของเธออยู่ที่ระเบียง ถึงได้เดินตามออกมาสวมกอดเบาๆ “ชอบที่นี่ไหม” คำถามที่มาพร้อมอ้อมกอดอบอุ่นทำให้คนที่ยังไม่ค่อยจะคุ้นชินกับสัมผัสหวานซึ้งสะดุ้งเบาๆ ไม่รู้ด้วยว่าเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเพราะเธอกำลังคิดถึงเรื่องที่กำลังว่ายวนอยู่ในหัวเลยทำให้ไม่ได้ยินเสียงรถ “ชอบค่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าเพียงได้ทำอะไรบ้าง” เมฆาได้แต่ยิ้มให้คนแก้มป่องในอ้อมกอด ก่อนก้มลงหอมแก้มนวลอย่างอดใจไม่ไหว “ไว้เดี๋ยวจะหางานให้ทำตอนกลางคืนทุกคืนเลยดีไหม” “คุณเมธ! เพียงไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นสักหน่อยค่ะ” คนถูกดุไม่ได้ว่าอะไรนอกจากเคล้าคลออยู่กับกลิ่นอ่อนโยนที่ทำให้เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา จะว่าเป็นกลิ่นสบู่ก็ไม่ใช่เพราะเขาเองก็ใช่ขวดเดียวกันไม่ยักจะมีกลิ่นหอมแบบนี้ติดตัว มันคงเป็นกลิ่นเฉพาะตัวเธอไม่ผิดแน่ “พรุ่งนี้จะพาเข้าไปเที่ยวในฟาร์ม” “จริงนะคะ! ห้ามหลอกให้เพียงดีใจเก้ออีกนะคะ” แววตาประกายที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้เขาจำใจต้องพยักหน้าตอบตกลงอย่างคนต้องมนต์ แม้ว่าใจอยากเก็บเธอไว้ที่บ้านไม่ให้ออกไปให้ใครเห็นก็เถอะ มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะหวง ก็แม่คุณน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่กัน “ก็ถ้าคืนนี้ทำตัวน่ารัก…” สายตาที่ช้อนมองกันนั้นสื่อความหมายให้ได้รู้ว่าคืนนี้เธอคงไม่แคล้วได้นอนดึก แต่ถึงจะรู้เช่นนั้นเพียงจันทร์ก็เลือกที่จะพยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้อีกคนช้อนตัวขึ้น ปลายทางของเขานั้นก็ไม่ใช่ที่อื่นไหนไกล… นอกจากเตียงกว้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD