“อ้าขาให้ผมหน่อยคนดี คุณ…แน่นเกินไป!” แม้จะเจ็บแสนเจ็บแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ไม่นานเขาก็เปลี่ยนความเจ็บของเธอเป็นความสุข จนเผลอร้องครางออกมาเบาๆ
แรงขยับโยกของเขารุนแรงเสียจนเตียงไม้ขยับตาม โชคดีที่เขามีนิสัยใช้เงินให้คุ้มค่ากับของที่ซื้อ มันจึงทำให้เตียงไม้ราคาเหยียดแสนนั้นรองรับแรงกระแทกกระทั้นของเขาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และไม่แม้แต่เตียงเท่านั้นที่คุ้มค่าต่อราคาที่เสียไป แม้แต่คนใต้ร่างเองก็เช่นกัน!
เนิ่นนานราวกับว่ามันจะชั่วกัปชั่วกัลป์ในความทรงจำของเพียงจันทร์ก่อนที่ทุกอย่างจะแตกพร่าไปพร้อมๆ ร่างกำยำที่กระตุกเกร็งไปพร้อมๆ กับเธอ
ทุกอย่างดูสงบลงเมื่อพายุรักผ่านพ้น แต่ไม่นานเธอก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนของบางสิ่งที่ยังไม่ถูกชักออกไป
“คุณเมธ…”
“ผมลืมบอกไป ว่าลองผมได้ตื่นแล้วผมลงยาก คืนนี้คุณอาจต้องเหนื่อยหน่อย” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเขา ก่อนที่บทรักครั้งที่สองและสามจะตามมาติดๆ ซึ่งกว่าคนมักมายไม่รู้จักพอจะยอมถอนความแข็งกร้าวออกไปคนน่ารักก็หมดสติคาอกเขาไปแล้ว เดือดร้อนเมฆาที่ต้องอุ้มอีกฝ่ายไปอาบน้ำซ้ำยังเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก่อนจะอุ้มร่างเธอกลับมาส่งที่เตียงอีกครั้ง สายตาอ่อนโยนจ้องมองคนในอ้อมแขนอย่างไม่เข้าใจตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเขาไม่เคยทำกับใคร!
สี่รอบกับผู้หญิงคนเดิมที่แม้แต่จูบยังไม่ได้เรื่อง!
ช่างเป็นเรื่องที่อยู่เหนือความตั้งใจของเขาล้วนๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไปได้ยังไง ทำไปแล้วกี่ท่า แล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนทำอะไรกับเขา!
เขาถึงได้ลืมไปจนหมดสิ้นแม้แต่การป้องกันตัวเอง!
หลังจากผ่านพ้นค่ำคืนหอมหวานเพียงจันทร์ก็ไข้ขึ้นอยู่สองวันเต็มๆ เดือดร้อนคนที่เป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องจับไข้อยู่ไม่สุข เพราะมัวแต่เป็นห่วงคนทางบ้านจนสั่งงานผิดๆ ถูกๆ ไปก็หลายหน โชคยังดีที่เช้าวันที่สามอาการของเธอดีขึ้น แต่เป็นอีกคนที่เปลี่ยนไป
“ป้าแขมีอะไรอยากจะพูดกับผมก็พูดมาตรงๆ เถอะครับ” เมื่อความอดทนสิ้นสุดลงเขาถึงได้ถามขึ้น เพราะทนให้อีกฝ่ายมองกันด้วยสายตาที่เหมือนกับเขาเป็นฆาตกรโรคจิตไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว! พอที!
“เนื้อตัวคุณเพียงมีแต่รอยจูบเต็มไปหมด ต้องให้ป้าบอกไหมคะว่ามีตรงไหนบ้าง!”บอกว่าตรงไหนไม่มีรอยที่เขาทำไว้คงจะง่ายกว่า
ชายหนุ่มคิดตอบในใจ ก่อนจะเกิดอาการพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“คือผม…”
“อย่าให้มันรุนแรงนักจะได้ไหมคะ! ตัวเธอเล็กนิดเดียวแค่นั้น ป้ากลัวเธอจะช้ำในตายเข้าสักวัน!” นั่นใช่เขาว่าจะไม่กลัวเสียเมื่อไหร่
แต่เรื่องนี้จะโทษเขาฝ่ายเดียวมันก็ไม่ถูก ต้องโทษอีกคนที่หวานหอมไปทั้งตัวทำให้เขาอดใจไม่ไหวจนเผลอรุนแรงไปบ้าง
“ผมขอโทษครับ ครั้งหน้าผมจะระวังให้มากกว่านี้” คำตอบนั้นไม่ได้ช่วยทำให้แม่บ้านใหญ่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด มันยิ่งจะทำให้นางอดสงสารคนที่ตอนนี้กำลังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ด้านบนไม่ได้
แต่ครั้นจะให้พูดอะไรก็ไม่กล้า เพราะรู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิ์ที่ว่า!
หลังจากเปิดอกคุยกับแม่บ้านใหญ่ที่เขาเองก็นับถือท่านไม่ต่างอะไรจากญาติผู้ใหญ่ของตัวเองจนเข้าใจกันเมฆาก็พาตัวเองกลับขึ้นมาหา ‘เมียหมาดๆ’ ของตัวเองพร้อมด้วยข้าวต้มที่เขาลงมือทำเอง
“เพียง ตื่นขึ้นมาทานอะไรลองท้องหน่อยเร็ว จะได้กินยา” น้ำเสียงที่คุ้นหูนั้นทำให้คนที่ผล็อยหลับไปค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง โดยมีเจ้าของห้องคอยให้การช่วยเหลือเหมือนทุกที
“ยังเจ็บอยู่รึเปล่า” เมฆาเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง โดยไม่คิดเลยว่าคำถามสั้นๆของเขานั้นมันจะทำให้อีกคนเขินอายจนหน้าแดง
“มะ…ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
“ผมขอโทษ ครั้งหน้าจะไม่ทำรุนแรงแบบนั้นอีก”
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่”
“อย่าพูดแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นผมจะโกรธ” เสียงเข้มกระซิบสั่งก่อนที่เขาจะผละตัวเดินหนีกันไปบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ชอบใจกับสิ่งที่ได้ยิน
เพราะตลอดสามวันที่ผ่านมาเธอถูกสั่งให้อยู่แต่บนห้อง วันนี้เพียงจันทร์จึงถือโอกาสลงมาช่วยป้าแขกับสีนิลทำอาหารกลางวัน แม้คนทั้งคู่จะพยายามเอ่ยปากห้าม แต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะต้านทานความดื้อของเธอได้ กระทั่งเมื่อใกล้ถึงเวลาที่เจ้าของบ้านจะกลับมาทานข้าวเที่ยง เธอถึงได้วิ่งออกมารอรับเขาทันทีที่ได้ยินเสียงรถ ทว่าคนที่เดินเข้ามาในบ้านนั้นกลับกลายเป็นคนแปลกหน้าสองคนแทน
“เธอเป็นใคร!” รสสุคนธ์ตวาดถามพร้อมเดินมาดักหน้าผู้หญิงแปลกหน้าที่เธอไม่เคยเห็นในบ้านหลังนี้มาก่อน สายตาบ่งบอกถึงความเกลียดชังแทบจะทันที เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นสวยกว่า สาวกว่า!
“นี่คุณเพียงจันทร์ค่ะ เป็นคนของนาย” เป็นหญิงชราเสียเองที่เอ่ยตอบก่อนจะดัน ‘คนของนาย’ ให้เข้ามาหลับอยู่ด้านหลังของตัวเอง
“คนของเมธ! หมายความว่ายังไง” อีกฝ่ายยังคงไม่หมดความสงสัยง่ายๆ ตวาดถามต่อและทำท่าจะเดินเข้าหา ติดแต่เพียงขยับ อีแม่บ้านแก่ก็เอาแต่ตัวเองเข้ามาขวาง ออกอาการปกป้องผู้หญิงอีกคนเต็มที่ ภาพนั้นทำให้เธอโกรธจนอยากจะปรี่เข้าไปตบ แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะขืนทำแบบนั้นเมฆาคงไม่มีวันอนุญาตให้เธอมาเหยียบที่นี่อีกแน่