บทที่4

1463 Words
สามวันมาแล้วที่เขายังไม่ได้เรียกร้องอะไรไปมากกว่าการนอนกอดเธอเฉยๆ หรือไม่ก็ขโมยจูบเธอบ้างเป็นบางครั้งก่อนไปทำงาน! แต่กระนั้นเพียงจันทร์ก็ยังไม่กล้าวางใจเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าวันที่ว่านั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจคือเธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เธอชอบที่ได้เข้านอนพร้อมกันกับเขาแล้วตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของกันและกัน ชอบทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ชอบทั้งๆ ที่ก็รู้ดีแก่ใจว่าตัวเองมีค่าแค่ไหน “คุณเพียง! เป็นอะไรไปคะ ไม่สบายรึเปล่า” เสียงของป้าแขที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเย็น ที่ดังขึ้นเรียกสติเธอได้ในทันที “ผู้หญิงชื่อรส เขาเป็นใครเหรอคะป้าแข” มันทำให้เธอเผลอถามถึงใครบางคน ที่มักได้ยินชื่อของอีกฝ่ายจากคนอื่นบ่อยๆ ออกมา “ตายจริง! คุณเพียงไปเอาชื่อนี้มาจากไหนคะ” “เพียงแอบได้ยินคนงานในไร่พูดถึงเธอค่ะ เธอเป็นใครเหรอคะ” “ถ้าป้ายอมเล่าให้ฟัง คุณเพียงต้องสัญญามาก่อนนะคะว่าจะไม่บอกใครว่าได้ยินเรื่องนี้มาจากป้า! ถ้านายรู้ป้าโดนดุแน่ๆ ค่ะ” เมื่อเห็นชัดว่าสีหน้าของอีกคนจริงจังแค่ไหนเธอจึงรีบพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวก็ไม่คิดที่จะถามอะไรเขาอยู่แล้ว ด้วยจำได้ดี ถึงกฎทั้งสามข้อที่เขากำชับสั่งไม่ให้ลืมไม่เว้นวัน! “เพียงสัญญาค่ะ” “คุณรสเธอเคยเป็นคนรักของพ่อเลี้ยงค่ะ พ่อเลี้ยงรักเธอมากจนถึงขั้นลงทุนคุกเข่าขอแต่งงานเลยนะคะ แต่ยังไม่ทันได้แต่งก็ดันจับได้คาหนังคาเขาว่าคู่หมั้นของตัวเองแอบคบชู้ แถมชู้ที่ว่าก็ยังเป็นคนสนิทของตัวเองอีก ตอนนั้นป้าล่ะสงสารพ่อเลี้ยงเหลือเกินค่ะ คนหนึ่งก็ผู้หญิงที่รักจนถึงขั้นอยากจะสร้างครอบครัวด้วย อีกคนก็คนสนิทที่แกรักเหมือนเพื่อน สุดท้ายแกก็เลือกที่จะถอนหมั้นค่ะ เพราะรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้” ความจริงที่ได้รู้ทำให้ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าอดีตของเขาจะร้ายแรงขนาดนี้ หรือเพราะเรื่องนี้เขาถึงได้ไม่คิดที่จะรักใครอีกเพราะยังคงเจ็บกับรักครั้งเก่าในอดีตอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เห็นด้วยที่เขาจะปิดกั้นใจตัวเองเพียงเพราะถูกผู้หญิงที่เขาเคยรักมาก หรืออาจจะยังรักอยู่ทรยศหักหลัง “แล้วตอนนี้พวกเขาสองคน…” “คุณรสเธอเป็นถึงลูกสาวผู้ว่า พอทางฝั่งพ่อเธอรู้เรื่องเข้าก็เลยบังคับให้แต่งงานกัน แต่สงสัยเวรกรรมจะตามทันจู่ๆ คุณปืนก็เกิดอุบัติเหตุชีวิตก่อนหน้าที่คุณรสจะคลอดลูกไม่กี่วัน ตอนนั้นเห็นจะมีแต่พ่อเลี้ยงนี่แหละค่ะที่คอยช่วยเหลือทั้งงานศพ ทั้งคอยดูแลจนคุณรสเธอคลอดลูก ถึงตอนนี้คุณรสเธอก็ยังเทียวไปเทียวมาที่นี่อยู่บ่อยๆ แถมยังเอาลูกมาเป็นข้ออ้าง เลยทำให้พ่อเลี้ยงใจอ่อนยอมเปิดบ้านต้อนรับเพราะเอ็นดูลูกเขา ทั้งๆ ที่แม่เด็กก็ทำกับตัวเองเจ็บแสบเสียขนาดนั้น” หนนี้เพียงจันทร์ได้แต่ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี ด้วยรู้ดีว่าตัวเองอยู่ที่นี่ในสถานะไหน ถึงแม้ว่าทุกอย่างที่ได้รู้จะทำให้ตกใจมากก็เถอะ “คุณเมธเขาคงจะรักคุณรสมากเลยนะคะ” “รักรึเปล่าอันนี้ป้าเองก็ไม่รู้หรอกนะคะ แต่นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วก็ยังไม่เห็นคุณเมธจะยอมใจอ่อนสักที ป้าว่าที่ยังยอมให้สองแม่ลูกเข้ามาพัวพันกับตัวเองอยู่ก็คงเพราะเอ็นดูคุณหนูแก้มเธอมากกว่า รายนั้นน่ะน่ารัก น่าเอ็นดูค่ะ ใครได้เห็นเป็นอันต้องอดเอ็นดูไม่ได้ อีกเดี๋ยวคุณเพียงก็คงได้เจอ” คนได้ฟังได้แต่ยิ้มรับก่อนจะหันกลับมาช่วยหยิบผักไปล้างเหมือนที่ชอบทำอยู่เป็นประจำทุกวัน “อย่าเลยค่ะคุณ ประเดี๋ยวนายหัวรู้เข้าป้าจะถูกดุเอาอีก” เดือดร้อนหญิงชราก็จำต้องรีบร้องห้ามเพราะเพิ่งถูกสั่งเข้มถึงเรื่องนี้มา “ป้าแขก็อย่าบอกเขาสิคะ” แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่านางจะพูดหรือขอร้องยังไง หญิงสาวที่บางทีก็น่ารัก บางทีก็ดื้อเงียบก็เหมือนจะไม่ฟังกันอยู่ดี เธอยังคงตั้งอกตั้งใจแย่งงานทุกคนในบ้านทำเหมือนเช่นทุกวัน “คุณเขาน่ารักเนอะป้า ไม่ถือตัวเลยสักนิด ต่างจากยัยคุณรสคนละเรื่องเลย ฉันกับคนอื่นๆ เชียร์คุณเพียง“ สีนิลอดไม่ได้ที่ต้องหันไปกระซิบเบาๆ กับผู้เป็นป้า เพราะหากถามความเห็นซึ่งทุกคนในบ้านก็เห็นพ้องต้องกันว่าเพียงจันทร์เหมาะกับตำแหน่งนายหญิงของที่นี่มากกว่าคุณรสสุคนธ์เป็นไหนๆรายนั้นนอกจากจะถือเนื้อถือตัวแล้วนั้น บางครั้งเวลาที่เจ้านายเผลอ ก็มักจะชอบจิกหัวใช้พวกตนอยู่บ่อยๆ ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้านก็ไม่ผิดทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นแค่แขก “ข้าก็ว่าอยู่” หนนี้นอกจากผู้เป็นป้าจะไม่เอ็ดที่สู่รู้ไปยุ่งเรื่องเจ้านายแล้วนั้นยังเห็นพ้องตรงกันอีกด้วย แต่ไม่ว่าใครจะคิดเป็นอย่างไหน สุดท้ายแล้วคนที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ได้นั้น เห็นทีจะเป็นแต่ผู้เป็นนายเท่านั้น วันนี้เมฆากลับดึกกว่าทุกวัน เพราะเขาเพิ่งได้แม่ไก่พันธุ์ดีมาจึงเรียกประชุมลูกน้องมือดีเพื่อวางแผนการสร้างผลผลิตที่ดีให้คุ้มกับเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลที่เพิ่งเสียไป ซึ่งกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลาพักผ่อนของทุกคนไปนานหลายชั่วโมง รวมถึงเวลาพักผ่อนของเขาด้วย ความคิดที่ว่าป่านนี้ร่างนุ่มนิ่มที่ทำได้แค่เพียงนอนกอดเฉยๆ มาตลอดสามวันคงกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเป็นอันชะงักเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วพบกับร่างบอบบางในชุดนอนสีขาวนั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น จนหันมาเห็นเขารอยยิ้มอ่อนหวานก็ถูกส่งมาให้กัน “ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอนอีก” เขาถามพร้อมมอสำรวจอีกคนไปพลางๆ ยอมรับว่ากว่าจะพาตัวเองผ่านไปแต่ละคืนมันไม่ง่ายเลย หากหล่อน ‘น่ารัก’ น้อยกว่านี้อีกนิดเขาคงไม่ลำบากแบบนี้! ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้อง ‘ทน’ ทั้งๆ ที่มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าที่เขาเสียเงินตั้งมากมายขนาดนั้นเพื่อต้องการสิ่งใดจากเธอ “เพียงนอนไม่หลับค่ะ คุณเมธทานอะไรมารึยังคะ” เสียงหวานร้องตอบก่อนจะถามกลับอย่างอดเป็นห่วงไม่ไหว เธอถามทั้งๆ ที่ก็พอจะรู้มาจากป้าแขแล้วว่าวันนี้เขาเรียกประชุมหัวหน้าคนงานตั้งแต่เย็น และวันไหนหากมีการเรียกประชุมเกิดขึ้นเขาก็มักจะกลับบ้านดึก สิ่งที่ทำให้เป็นห่วงคือเขาอาจยังไม่ได้กินอะไรมา และเธอในฐานะ ’สินค้า’ ที่เขาอุตส่าห์ทุ่มทุนซื้อมาด้วยราคาแพงก็อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์กับเขาบ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องอยู่เฉยๆ ในบ้านหลังนี้ “กินกับคนงานมาแล้ว ขึ้นข้างบนกันเถอะ เหนียวตัวอยากอาบน้ำจะแย่” เธอยิ้มรับก่อนจะอาสาเข้าไปผสมน้ำให้เขาอาบ จนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ออกมายืนรอที่เตียง เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องเขา “เพียงได้ยินมาจากสีนิลว่าอีกสองวันจะมีรถที่ไร่เข้าเมือง เพียงขอออกไปซื้อของใช้กับสีนิลได้ไหมคะ” หญิงสาวเปิดฉากถามขึ้นทันทีที่ร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่นัก แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นแต่ก็อดหน้าแดงไม่ได้อยู่ดี “ไม่ให้ไป!” แน่นอนว่าเมฆาปฏิเสธกลับทันที ไม่ใช่เพราะกลัวอีกฝ่ายจะหนี แต่เพราะเขาหวง ไม่อยากให้คนตรงหน้าไปไหนไกลตา! “คุณเมธ…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD