กรวรรธจอดรถที่ลานหน้าบ้านสาวเจ้าเพราะได้รับการอำนวยความสะดวกสำหรับการเปิดประตูรั้วหน้าบ้านจากหนุ่มน้อยเพิ่มบุรุษ
"สวัสดีครับพี่เกมวันนี้จะมาติวหนังสือให้ผมใช่มั๊ยครับ" เพิ่มบุรุษยกมือไหว้แขกผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
"ใช่แล้ววันชาติ มาช่วยพี่ยกของจากหลังรถหน่อยซิ" กรวรรธพูดพร้อมกับเดินไปเปิดกระโปรงหลังรถแล้วทยอยหยิบของออกจากรถ
"โอ้เยอะจัง นี่กินได้เป็นเดือนเลยนะพี่ ซื้อมาทำไมเยอะแยะ เสียดายตังค์" เพิ่มบุรุษบ่นอืดเพราะไม่อยากให้คนพี่สิ้นเปลือง
"ก็จะได้ไม่ต้องออกไปบ่อย ๆ ไง ซื้อมาตุนไว้ เพื่อวันไหนพี่มาขอข้าวกินวันชาติจะได้ทำให้พี่กินได้ไง" กรวรรธพูดพร้อมกับโยกศีรษะคนน้องเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดูเพราะเขาไม่มีพี่น้องที่ไหน นอกเสียจากเจ้านายที่รักเหมือนน้องชายอีกคนซึ่งก็เกินวัยที่จะมาโยกศีรษะเล่นอย่างเอ็นดูแบบนี้ได้แล้ว
"อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน"
"อยากกินผัดผักบุ้งไฟแดง แกงส้มผักรวม แล้วก็น้ำพริกปลาทูกับผักต้ม น้ำพริกเอาไม่เผ็ดมากนะครับ อยากไปหมดเลย" เพิ่มบุรุษพูดอย่างอารมณ์ดี
ด้านเพ็ญสุดาแอบยิ้มเบา ๆ ที่เห็นน้องชายยิ้มร่าเริงอย่างที่ไม่เคยเป็นแอบขอบคุณแขกที่มาเยือนในใจที่ทำให้บรรยากาศในบ้านดูมีสีสันขึ้น
"อ้าว เจ้าวันพระมาช่วยยายสนเข็มเย็บผ้าหน่อยลูก ยายสนเข็มไม่ได้สักที จะเย็บชายเสื้อให้ตาผลหน่อยมันรุ่ยไปนิดเดียวเองจะทิ้งก็เสียดายผ้ายังดีอยู่เลย" ยายบัวลอยร้องเรียกหลานสาวเสียงเจื้อยแจ้วส่วนคนที่ถูกเรียกก็ยิ้มปุ้ยเข้าไปหาอย่างน่ารัก
"ไหนดูซิ๊ จะสนให้ อะนี่เรียบร้อยแล้ว แล้วจะเย็บได้มั๊ยนี่ สนเข็มยังสนไม่ได้" เพ็ญสุดาถามขึ้นอย่างนึกสงสัย
"เย็บได้เว้ย แค่สนเข็มไม่ได้แค่คั้น ฝีเข็มสวยเป๊ะไม่แพ้จักรอุตสาหกรรมเลยนะเว้ยจะบอกให้" ยายบัวลอยยืดอกพูดอย่างหมายมั่นในใจ
"เหรอจ้ะยาย….." เพ็ญสุดาแล้วลากเสียงยาวอย่างล้อเลียน
"ก็เออซิว๊ะ! ไป ๆ สนเข็มเสร็จแล้วจะไปไหนก็ไป อ้อ ไปตามตาแกมากินข้าวด้วยอยู่ในสวนนู่น กลับมาจากวัดได้ไม่เท่าไรก็เข้าไปขลุกอยู่แต่ในสวน ถ้าเห็นผักอะไรพอเก็บได้ก็เก็บมา" ยายบัวลอยบ่นไปตามประสา
"จ้า…..จะไปตามให้เดี๋ยวนี้แหละจ้า" ว่าแล้วเพ็ญสุดาก็เดินตรงไปที่สวนหลังบ้านเพื่อไปตามผู้เป็นตาเข้าบ้านเพราะใกล้ค่ำแล้วกลัวงูเงี้ยวเขี้ยวขอจะกัดเอา
ด้านกรวรรธมองคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วแอบยิ้มเบา ๆ เขารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้เหยียบย่างเข้ามาในบ้านหลังนี้ คล้ายกับคุ้นเคย เคยอยู่มานานอย่างบอกไม่ถูก แต่ในขณะที่หันหน้ากลับมาที่โต๊ะอาหารสายตาก็พลันเหลือบไปเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันที่สนามหน้าบ้านท่าทางน่าสนุก เขาจึงนึกถึงคำพูดของหลวงตาชราภาพรูปนั้นขึ้นทันที
กรวรรธได้แต่คิดคำนึงในใจ
ทันใดนั้นเด็กน้อยที่วิ่่งเล่นกันอยู่หน้าบ้านก็หยุดชะงัก หันมามองที่เขายิ้ม ๆ
..นั้นปะไร กุโดนเข้าให้แล้วมมั๊ยล่ะ.. แค่คิิดในใจก็ถึงเหรอไม่ต้องมายิ้มเลย
ด้านเพิ่มบุรุษเห็นผู้ที่รักเสมือนพี่ชายนิ่งไปจึงร้องเรียก
"พี่เกมเป็นอะไรไปครับ นิ่งไปเลยทำยังกะเห็นผี" นั่นยิ่งทำให้คนฟังยิ่งอึ้งไปใหญ่
"ไม่มีอะไรหรอก คิดอะไรเพลิน ๆ รีบเด็ดพริกเร็ว ๆ เข้าเถอะ เครื่องพร้อมรอพริกนี่แหละ แล้วตำเลยนะ เดี๋ยวพี่ผัดผักบุ้งรอ" กรวรรธแกล้งพูดเสียงเข้ม กลบเกลื่อน กรวรรธแอบบ่นในใจ
"ครับผม" คนน้องพูดยิ้ม ๆ
สองคนพี่น้องไม่แท้ช่วยกันทำกับข้าวสองสามอย่าง ขาดแต่ผักต้ม สองตาหลานก็มาจากสวนพอดีและถือผักติดมือมากำเขื่อง ๆ
"ผักต้มเสร็จหรือยัง นี่มีผักตำลึงแล้วก็ยอดมะระ ต้มจิ้มน้ำพริกอร่อยเด็ดจ้า เดี๋ยวขอล้างแพร๊บ.." เพ็ญสุดาร้องเรียกสองหนุ่มที่กำลังช่วยกันทำกับข้าวอย่างขมีขมัน และส่งกลิ่นหอมฉุยทั่วบ้านยั่วน้ำลายคนได้กลิ่นไปตาม ๆ กัน
"รออยู่ครับ แต่มะระเดี๋ยวต้มแยกนะเพราะมันขมเผื่อมีใครไม่ชอบรสขม" กรวรรธพูดยิ้ม ๆ เหล่ตามาทางเด็กหนุ่มแล้วยกยิ้มมุมปาก
"จ้า ทราบแล้วจ้าว่าคุณเพิ่มบุรุษเค้าไม่กินของขม โตขึ้นถ้าดื่มเหล้านะพี่จะตีให้มือหักเลย ไม่กินผักขม ๆ แต่กินเหล้าที่ขม ๆ นี่" เพ็ญสุดาพูดเป็นการป้องปรามน้องชายเอาไว้ก่อน
"……." ไม่มีคำพูดใดจากหนึ่งบุรุษนอกจากปากขมุบขมิบอย่างล้อเลียน
"หึหึ เดี๋ยวต้มไข่อีกอย่างแล้วกัน แก้เผ็ด เข้ากันดีกับน้ำพริก" กรวรรธได้แต่หัวเราะขำในลำคำเบา ๆ เหมือนกัน ไม่กล้าออกสิทธิ์ออกเสียงเดี๋ยวคะแนนตก
หลังจากกับข้าวทุกอย่างเสร็จแล้วทั้งห้าคนก็นั่งกินข้าวล้อมวงกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะที่บ้านจะมีโต๊ะยาวสำหรับนั่งได้ 6-8 คน และเพียงพอสำหรับสมาชิกใหม่
"กินข้าวเสร็จก็อยู่คุยกันก่อนนะพ่อเกม ตาอยากคุยด้วย" ตาผลกล่าวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังจากนั่งกินเงียบ ๆ มานาน
"อ่ะ ครับ ได้ครับ"
"นั่นซิ กลับค่ำหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง ใช่มั๊ยจ๊ะ" ยายบัวลอยสำทับยิ้ม
"ตายายเผื่อคุณเค้ามีธุระที่ไหนจะเป็นการรั้งเค้าไว้หรือเปล่า" เพ็ญสุดากล่าวขึ้นอย่างเกรงใจ
"พี่ไม่มีธุระที่ไหนครับ อยู่ได้ถึงค่ำมืดเลย" กรวรรธตอบอย่างไม่ปิดปัง เพราะเขาเคลียร์ทุกอย่างมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว
"ออ ค่ะ งั้นกินเสร็จก็ไปคุยกับตาเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูกับวันชาติเก็บกวาดเอง นี่ผลไม้เผื่ออยากกิน"
"ครับ ขอบคุณครับ" ว่าแล้วคนตัวโตที่สุดก็รับจานผลไม้จากมือคนตัวเล็กแล้วรีบเดินตามตาผลไปที่หน้ามุกทันทีเพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอนาน