“หมุนซ้ายหน่อยครับน้องมายา อย่างนั้นแหละดีมาก” ร่างบางในชุดสีขาวหมุนตัวถ่ายแบบตามที่พี่ช่างภาพบอกอย่างร่าเริง แค่เห็นรอยยิ้มของเธอภายในกองถ่ายก็พากันชื่นใจ
ไม่เหมือนกับอีกนางนึงที่นั่งหน้านิ่งไม่ยิ้มให้กับใครเลยตั้งแต่มาถึง
“พักก่อนนะคะมายาเหนื๊อยเหนื่อย แฮ่” วิคกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายนี่มันเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็อีแค่ถ่ายแบบสามชุดนี่ต้องพักให้หายเหนื่อยเยอะแยะขนาดนั้นเลยเหรอไง!
ถ้าอ่อนแอมากขนาดนั้นก็นอนเป็นผักอยู่บ้านไป น่ารำคาญ!!!
“เธอเหนื่อยใช่มั้ยงั้นฉันจะได้ถ่ายก่อน ...เลทมาครึ่งชั่วโมงแล้วฉันไม่ชอบ” นางร้ายเบอร์หนึ่งปะทะนางเอกจอมแบ๊วคนอื่นมองก็คงคิดว่าเธอน่ะร้ายที่ไปหาเรื่องยัยแอ๊บแตกคนนี้
น้อยไปน่ะสิ! ยิ่งต้องมาถ่ายงานวันเดียวกับมายาเธอยิ่งต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากขึ้นไม่งั้นกองถ่ายได้พังไม่เป็นท่าแน่
“แต่ว่ามายายังถ่ายไม่เสร็จเลยนะคะวิค ...รอแปปนึงน้าใกล้แล้วแหละ” เสียงหวานใสตั้งใจพูดให้ทุกคนได้ยินและหันไปยิ้มกว้างทำเหมือนโลกนี้สดใสจนหลายๆคนที่ยืนใกล้ๆต่างพากันยิ้มตาม
...ยกเว้นวิคตอเรีย
“ฉันเพื่อนเล่นเธอเหรอ? ...ถ้าอายุขนาดนี้ยังไม่มีสมองคิดว่าการทำงานที่มีคุณภาพมันต้องทำยังไงก็เดินกลับไปที่ที่เธอจากมาซะ
มุขแอ๊บแบ๊วที่เธอใช้มันยิ่งทำให้ตัวเธอดูน่าสมเพสขึ้นกว่าเดิมซะอีก
รู้บ้างมั้ย?” สิ้นคำพูดของวิคทุกคนในกองต่างก็พากันเงียบไม่มีใครกล้าจะพูดอะไรออกมาเลย
“ฮึก ทำไมต้องว่ามายาแรงขนาดนี้ด้วยล่ะ
เราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอคะวิค” น้ำตาเม็ดโตร่วงออกมาหยดแล้วหยดเล่า มายานั่งลงกอดเข่าร้องไห้ที่พื้นจนทีมงานหลายๆคนต้องวิ่งมาดูอาการเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลมไป
“หน้าก็สวยแต่ปากร้ายจัง”
“นั่นสิ ไปว่าเขาทำไมเขาแค่พักเพราะเหนื่อยเอง
ไม่เคยเหนื่อยเลยหรือไง”
เสียงซุบซิบนินทาดังมาจากทั่วทุกทางมันเริ่มจากเบาๆจนกลายเป็นดังเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งกองถ่ายและคำพูดทั้งหมดก็คือประนามคำพูดของนางร้ายคนนี้ว่าทำเกินกว่าเหตุ
“นินทาเสร็จแล้วโทรบอกด้วยนะคะ คุณช่างแต่งหน้า คุณช่างทำผม
คุณคอสตูม ...พี่โต้งคะวิคกลับแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ” ดวงตาดุราวกับเสือจ้องไปที่ทีมงานทีละคนอย่างเจาะจงจนหลายๆคนที่หลบตาไม่กล้าสู้หน้าเธอ
รอยยิ้มสวยและท่าทีที่นอบน้อมมีให้เฉพาะช่างภาพที่เธอเคารพเท่านั้น
...เธอไม่จำเป็นต้องแคร์คนที่ไม่แคร์เธอนี่นา
มันไร้ประโยชน์เกินไป
“เห็นมั้ย!! ปากพาซวยกันหมด
บอกกี่ทีแล้วให้ระวังคำพูดบ้างไม่มีความเป็นมืออาชีพ!!!
เลิกกอง” โต้งตะโกนอย่างเหลืออดเพราะทีมงานของเขาเองก็ทำไม่ถูกทั้งที่เห็นว่าคนที่ทำให้เสียเวลาคือใครแต่กลับโทษแต่วิคคนเดียว
แค่เพราะลุคที่ดูแรง ดูร้าย
และคำพูดที่ตีแสกหน้าคนฟังเลยทำให้ทุกคนมองน้องสาวที่น่ารักของเขาเป็นลบไปหมด
“มายาขอโทษนะคะพี่โต้ง ...ไว้มายาจะไปคุยกับวิคให้เองนะคะ”
นี่ก็อีกคน ถ่ายสองชุดพักไปห้าครั้ง
โต้งพยายามไม่ทำตัวเอนเอียงแต่ครั้งนี้วิคพูดถูกจริงๆ
“อย่าเลยนะ อยู่เฉยๆเดี๋ยวพี่คุยเอง”
โต้งเดินส่ายหน้าออกไปจากกองด้วยความหัวเสีย พอลับตาทุกคนก็วิ่งกันเข้าไปโอ๋มายากันใหญ่เพราะคิดว่านางเอกคนดีของพวกเขากำลังเศร้าใจ
“ไม่เป็นไรนะคะ ? มายาโอเคค่ะ”
มายาเดินออกไปด้านนอกเพื่อตามให้ทันวิคตอเรียเพราะเมื่อกี้ปล่อยในนางด่าอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ยังไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปเลย
...มันไม่แฟร์สำหรับเธอ
“ขี้วีนแบบนี้ไม่มีใครรักหรอกนะ ฮิๆ” ว่าแล้วว่าต้องเดินมาเยาะเย้ย
วิคกอดอกแล้วมองหน้ามายานิ่งๆเธอแค่รำคาญยัยเพื่อนร่วมวงการคนนี้เต็มที
“จะพูดอะไรก็พูดมา ยัยผู้หญิงไร้สมอง”
ตาของมายาวาวโรจน์อย่างโกรธเคือง ใบหน้าบึ้งตังไม่เหมือนกับนางเอกแสนดีในกองถ่ายเมื่อกี้
“คิดว่าบ้านรวยแล้วทำตัวไร้การศึกษายังไงก็ได้งั้นเหรอ? ทุเรศ!!” วิคพยักหน้าแล้วมองด้วยสายตานิ่งเหมือนเดิม
“ก็ยังดีกว่าคนที่เรียนไม่จบมอหกแถมยังมีสามีตั้งแต่ตอนสิบสามละกัน?”
หน้าของมายาซีดเผือดด้วยความตกใจไม่คิดว่าความลับที่ตัวเองปกปิดมาตลอดนั้นจะมีคนรู้
...แถมคนที่รู้ยังเป็นยัยนางร้ายคู่กัดของเธออีก
“พะ พูดอะไรมั่วๆ!! ฉันไม่รู้เรื่องที่แกพูด”
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่แอคติ้งห่วยแตกขนาดนี้จะเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของช่อง
สงสัยต้องให้คุณอาตัดสินใจใหม่ซะดีกว่ามั้ง
“ถ้าไม่จริงทำไมต้องหน้าซีดล่ะ ...จำใส่หัวเธอไว้ว่าวันหลังหัดมีความรับผิดชอบในงานของตัวเองบ้างไม่รู้เหรอไงว่าบุคลิกที่แสดงออกมามันน่าสมเพสขนาดไหน
อยากให้ทุกคนมองเธอในฐานะนางเอกไร้สมองอย่างนั้นเหรอ”
“งะ เงียบไปเลยนะ คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนฉัน”
“เฮ้อ เหมือนพูดกับควาย
ไปล่ะ” วิคส่ายหน้าก่อนจะขับรถออกจากกองถ่ายโดยทิ้งให้มายาอยู่กับคำด่าเมื่อกี้แค่เพียงลำพัง
“แกด่าฉัน!!! อื้อ!!!!”
จะกรี๊ดก็ทำไม่ได้เพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น โอ๊ย หงุดหงิด
เอี๊ยด!!! โครม!!!
“ขับรถภาษาบ้าอะไรเนี่ย!! โกงใบขับขี่หรือไง!!”
วิคตะโกนอย่างหัวเสียเพราะมีรถสปอร์ตราคาแพงขับมาตัดหน้าเธอก่อนจะเบรกกระทันหันทำให้รถเธอไปชนท้ายรถคันนั้นอย่างจัง
“คนสวยลงมาคุยกันหน่อยมั้ยครับ?” กระทิงเดินยิ้มมาแต่ไกลเพราะเขาตั้งใจให้เธอขับรถชนเพื่อที่จะทำตามแผนที่ตัวเองวางไว้อีกครั้ง
“ไม่คุยฉันรีบ!” เธอโยนนามบัตรใส่หน้าเข้าก่อนจะโทรเรียกให้คนขับรถมารับ
ให้ตายเถอะจะไปสายอยู่แล้ว
“งานประชุมทีมที่ทิมเบอร์เหรอ ...ไม่ต้องไปหรอกน่า” คำพูดของเขาทำให้เธอเงยหน้าไปมอง
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงรู้ตารางงานของเธอ?
“นายรู้ได้ยังไง?”
“ก็ผมคือนายจ้างของคุณยังไงล่ะ คนสวย ?”
“?!?”