B*TCH 1
‘นางร้ายหน้าแซ่บแผลงฤทธิ์!! วีนเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเหตุไม่พอใจการตัดเย็บ!!...อ่านเพิ่มเติม’
‘ฉะกลางกองถ่าย นางร้ายสบถลั่น!! ถ้าสมองมีแค่นี้ก็ไปตายแล้วเกิดใหม่!!...อ่านเพิ่มเติม’
ปึก
กองนิตยสารมากมายถูกโยนวางตรงหน้าของวิคตอเรีย เธอเพียงแค่ปรายตามองแล้วก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“วิค ...อาบอกแล้วไงว่าวิคควรต้องใจเย็นกว่านี้ แบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อตัวเราเลยนะ” เธอกรอกตามองอย่างเบื่อหน่าย ไม่ให้เธอวีน? แล้วจะให้ทำอะไรกับพวกสมองเบาพวกนั้นล่ะ!
...Damn it!!
“แล้วไงคะ วิคแค่ท้วงสิทธิ์ที่เป็นของตัวเองก็แค่นั้น อย่างแบรนด์เสื้อผ้าเขาตกลงให้วิคไปเดินชุดฟินนาเล่แต่พอวันจริงกลับให้ไปใส่ชุดว่ายน้ำ ...แบบนี้คือคนมีสมองหรือเปล่าคะอา”
“ส่วนกองถ่ายวันก่อนยัยนางเอกคนนั้นก็เล่นไม่ผ่านซะที จะห้าสิบเทคเข้าไปละยังไม่ได้เลยสักนิดเดียว มันเสียเวลาวิคค่ะ ...แล้วที่วิคพูดไปมันก็ถูกแล้ว ...ถ้าสมองมีแค่นี้ก็ควรต้องไปตายแล้วเกิดใหม่ หรือไม่จริงล่ะคะ?”
สิ่งที่เธอทำมันก็ถูกต้องแล้วนี่นา คนอย่างวิคตอเรียไม่มีทางให้ใครมาล้ำเส้นของตัวเองเด็ดขาด ถ้าไม่ทำให้เธอเดือดร้อนมีเหรอที่เธอจะไปด่า
...เธอไม่ใช่คนบ้าซะหน่อยที่หาเรื่องไปทั่ว!
“โอเคๆ อาเข้าใจแล้ว อาจะพยายามแก้ข่าวให้แล้วกันนะ” อีกครั้งแล้วสินะที่เขาต้องใช้อำนาจของฝ่ายบริหารจัดการเรื่องทั้งหมดให้เงียบลงไปอีกครั้ง
“จริงๆอาไม่ต้องทำก็ได้นะคะ วิคชินแล้ว ...พวกนักเลงคีย์บอร์ดก็ได้แต่สร้าง Fake Account ขึ้นมาแต่พอเอาเข้าจริงก็หดหัวอยู่ในกระดองเท่านั้นแหละค่ะ” พีทแทบจะเอามือกุมขมับกับคำพูดของหลานสาวตัวเอง
นับวันวิคจะยิ่งเป็นเหมือนพี่สาวของเขาเข้าไปใหญ่แล้วสิเนี่ย ไอ้ความไม่ยอมคนเนี่ยได้มาเต็มๆเลยแถมท่าทางที่เต็มไปด้วยอีโก้นี่ก็สูงลิ่วเหมือนกัน
“แต่ที่นี่ไม่เหมือนอเมริกานะวิค ...หลานจะต้องนอบน้อมกว่านี้ผู้ใหญ่เห็นจะได้เอ็นดูเรา” ผู้ใหญ่เอ็นดูงั้นเหรอ? หึ น่าขำสิ้นดี
“ผู้ใหญ่ที่ว่านี่หมายถึงสปอนเซอร์ที่เข้ามาเกณฑ์นักแสดงในค่ายเราไปนอนด้วยน่ะเหรอคะ ...ถ้าต้องโดนเอ็นดูแบบนั้นคงขอบายดีกว่าค่ะ อาไม่มีเรื่องอะไรพูดต่อแล้วใช่มั้ยคะงั้นวิคขอตัว ?” วิคตอเรียเดินออกมานอกห้องก็เจอกับพวกพนักงานที่ยืนแอบฟังอยู่
...พวกน่าสมเพชวันๆเอาแต่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
“คุณอาคะ พนักงานที่นี่ดีจังเลยนะคะเอาเวลาทำงานมาแส่เรื่องของเจ้านายแบบนี้ ...น่าปลื้มใจแทนคุณอาจริงๆค่ะ ?” เธอยิ้มมุมปากแล้วเดินไปที่ลานจอดรถก่อนจะขับรถออกไปด้วยความรวดเร็ว
พวกพนักงานที่อยู่หน้าห้องก็ได้แต่หน้าชากันเป็นแถบเพราะรู้อยู่ว่าคุณวิคตอเรียเป็นคนยังไง
“เข็ดกันมั้ยล่ะพวกเธอ ...ฉันบอกแล้วว่าเรื่องคนอื่นต้องสอดให้มันน้อยกว่านี้ชีวิตจะได้ไม่เดือดร้อน” เลขาหน้าห้องของพีทซึ่งเป็นคนเก่าแก่เอ่ยปรามพวกรุ่นน้อง
เธอทำงานกับครอบครัวนี้มานานทำไมจะไม่รู้นิสัยคุณวิคตอเรีย ถ้าเป็นเรื่องงานเธอจะจริงจังมากและไม่ชอบให้มีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ...แต่พอเมื่อไหร่ที่ต้องมีการจัดสังสรรค์กันภายในคุณวิคถือว่าเป็นคนที่น่ารักคนนึงเลย
แต่พูดไปก็คงไม่มีใครเข้าใจอยู่ดีเพราะมัวแต่นั่งเจ็บใจที่ตัวเองโดนด่าเมื่อกี้ ...อืม ก็อย่างที่คุณวิคพูดจริงๆน่ะนะ
“ก็ไม่เห็นต้องพูดแรงขนาดนี้ป่ะป้า ...ไม่เห็นจะเหมือนคุณมายาน่ารักพูดเพราะกว่าตั้งเยอะ”
“อืม จะคิดยังไงก็ตามใจแต่งานฉันต้องได้วันนี้นะจ๊ะ แม่นกน้อยทั้งหลาย” พอทวงถามงานทุกคนก็วงแตกกระจายกันไปคนละทางเลยนะ
...ให้มันได้อย่างนี้สิลูกน้องฉัน!
“วันนี้แผลงฤทธิ์อะไรอีกล่ะวิค อาพีทเขาเครียดจนแทบจะเอาหัวโหม่งโลกแล้วนะลูก” วิคกรอกตามองบนรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย พอเข้ามาในบ้านได้แค่แปปเดียวพ่อก็เดินมาเหน็บเธออีก
“พ่อก็รู้แล้วนี่คะแล้วจะมาถามวิคทำไมอีก ...วันนี้วิคแค่มาเก็บของค่ะจะไปนอนคอนโด”
“งั้นมาหาพ่อก่อนสิ พ่อมีอะไรจะให้” กล่องกำมะหยี่สีแดงถูกยื่นตรงหน้าของเธอ วิครับมาก่อนจะเปิดดู
...ก็แค่กำไลข้อมือทองคำขาว พ่อหวังว่าเธอจะตื่นเต้นกับเรื่องแบบนี้เหรอ?
“ค่ะ แล้วยังไงคะ?”
“พ่อให้มันเป็นสมบัติของย่า ...เก็บมันให้ดีนะลูก” วิคพยักหน้ารับแล้วเก็บมันเข้ากระเป๋าก่อนจะขอตัวขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าบางส่วน
แกร๊ก
“โอย ใครอีกเนี่ย ...มัม วิคบอกกี่ครั้งแล้วอ่ะว่าถ้าจะเข้ามาก็ต้องให้เจ้าของห้องอนุญาตก่อน” วันนึงเธอจะต้องหงุดหงิดกับเรื่องพื้นฐานเล็กน้อยแบบนี้อีกกี่ครั้งเนี่ย!!
...Why everyone hasn’t kind of manners?!? (ทำไมทุกคนถึงไม่มีมารยาทแบบนี้)
“ฉันแค่ต้องการแน่ใจว่าแกจะไปดูตัวกับลูกชายเพื่อนของฉัน”
“คราวที่แล้วมัมไม่เข็ดใช่มั้ยที่วิคด่าไอ้หัวลูกชิ้นไปอ่ะ ...แล้วลูกเพื่อนมัมแต่ละคนอย่างกับคนไม่เต็ม ถ้าเลี้ยงลูกแล้วได้แค่นี้ก็เอาขี้เถ้ายัดปากไปตั้งแต่เด็กอ่ะดีแล้ว ภาระสังคม!” โจแอนเริ่มจะเอือมกับคำพูดแบบนี้ของลูกสาวเธอแล้วนับวันจะยิ่งเหมือนเธอไปทุกที
“ปากแกนี่มันร้ายไม่ผิดฉันเลยนะ ...ยังไงแกก็ต้องไปเพราะฉันสั่ง” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ค้านอะไร แม่ก็เดินออกไปซะแล้ว
“ไปก็ไป ...ถ้าไม่เวิร์คก็ด่าอีกรอบแค่นั้นแหละ” จากที่วิคเดาดูแม่ไม่น่าจะมีเพื่อนเยอะขนาดนั้นเพราะปากแม่กับปากเธอก็ร้ายพอกันนั่นแหละ
...จะมีใครเขาอยากคบด้วยล่ะ เหอะๆ
“แหม หนูวิคตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีกนะเนี่ย ...นี่ลูกชายน้าชื่อเวสจ้ะรู้จักกันไว้นะลูก” วิคตอเรียถอนหายออกมาเป็นครั้งที่ร้อย เธออดทนได้นานมากขึ้นเป็นพิเศษเพราะพ่อมาขอร้องไว้ว่าไม่อยากให้เธอโวยวายไปมากกว่านี้
หมับ!
“ทำบ้าอะไรของนาย!” ไอ้บ้านี่มันลวนลามเธอ! วิคจับมือของเวสขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วเอาน้ำซุปร้อนๆราดลงไปที่มือชั่วๆของมัน
...กล้าดียังไงมาจับต้นขาของเธอ
“อ๊ากกก แม่ผมร้อน!!” พ่อแม่ของวิคตอเรียหน้าซีดเผือดเพราะลูกสาวสุดที่รักก่อเรื่องอีกแล้ว
“เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย! ลูกฉันเจ็บตัวแล้ว นังเด็กบ้า!” วิคหยิบแก้วน้ำเปล่าสาดไปที่หน้าเพื่อนแม่คนนั้นก่อนจะยืนจ้องหน้าอย่างอวดดี
“ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมลูกถึงได้กุ๊ยแบบนี้ ...ตอนนี้หายสงสัยแล้วล่ะ เพราะต้นตระกูลมันเป็นยังไงตัวมันก็คงจะเป็นแบบนั้น แล้วโทษนะคะคนปกติทั่วไปไม่มีใครตั้งชื่อลูกว่าของเสีย (Waste)หรอกค่ะ แต่เอาจริงๆก็ถือว่าเหมาะนะคะเพราะเขาก็ขยะจริงๆ หึ!”
“ยัยวิคขอโทษน้าเขาเดี๋ยวนี้ลูก” วิคตวัดสายตาไปมองพ่อกับแม่อย่างไม่ยอม
“ไม่ค่ะ ...คนปกติไม่ขอโทษขยะค่ะ แล้วเรื่องนี้วิคไม่ผิดมันมาจับขาวิคก่อน ...แล้วเลิกคิดไปให้ข่าวว่าฉันอ่อยแล้วนายไม่เล่นด้วยนะเพราะมันลดเกรดฉันมากเลยแต่ถ้ายังดื้อจะทำอยู่ ...รับรองว่านายเจอดีแน่ไอ้ปลาไหลอเมซอน!!”