หลังจากลงจากรถของเจเดนแล้วเปรี้ยวก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เดินมาถึงห้องเช่าของตัวเอง ร่างบางทิ้งตัวนอนบนที่นอนเล็กๆ เอามือก่ายหน้าผากด้วยความเครียดเพราะคิดหนักเรื่องหางานทำ ถึงเธอจะไม่ได้จ่ายค่าเทอมเนื่องจากได้ทุนแล้วแต่ก็ต้องหาเงินเพื่อมาใช้จ่ายประจำวันของตัวเองแถมยังต้องเตรียมเงินไว้จ่ายดอกเจ้าหนี้ที่ไม่รู้ว่าจะมาทวงเธอเมื่อไหร่ เพราะถ้าเธอไม่มีจ่ายเจ้าหนี้พวกนั้นก็จะเอาตัวเธอไปขัดดอกซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเธอยอมตายดีกว่า
“ไม่เป็นไรยัยเปรี้ยว พรุ่งนี้เลิกเรียนก็ค่อยไปหางานใหม่ มันต้องมีสักที่ที่จะรับเราทำงานล่ะนะ อย่าพึ่งท้อ ไม่ได้เป็นแบบนี้ครั้งแรกสักหน่อย”
เปรี้ยวลุกขึ้นนั่งพูดปลอบใจตัวเองอย่างฮึกเหิมแล้วลุกขึ้นมาอ่านหนังสือเรียน สิ่งที่ทำให้เธอดีขึ้นเวลาเครียดก็คือการอ่านหนังสือและการโฟกัสกับการเรียนสักพักก็อาบน้ำเข้านอน
เช้าวันต่อมาเปรี้ยวก็แต่งตัวไปเรียนปกติโดยเลือกที่จะเดินไปเรียนถึงแม้ว่าจากมหาลัยกับห้องเช่าเธอจะห่างกันถึงหกกิโลแต่เธอก็กัดฟันทนเหนื่อยเดินมาเรียนตั้งแต่เช้าเพราะต้องประหยัดเงิน อะไรที่พอจะงดใช้เงินได้เธอก็จะทำ กว่าเธอจะเดินมาถึงมหาลัยก็เกือบแปดโมง ด้วยความที่ทางที่เธอเดินมาต้องเข้าประตูฝั่งตึกวิศวะเพราะใกล้กว่าอีกทางเปรี้ยวจึงต้องเดินมาทางนี้ ร่างบางเดินมาหยุดที่ป้ายคณะวิศวะหน้าตึกจากนั้นก็นั่งยองๆ ยกมือไหว้แล้วลูบเกียร์วิศวะตรงป้ายทันที
“สาธุ ขอให้ได้แฟนวิศวะหล่อๆ รวยๆ และที่สำคัญขอเกียร์ใหญ่ๆ ด้วยนะคะ สาธุๆๆ”
เปรี้ยวพูดขอพรขณะที่ลูบเกียร์ป้ายอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าเจเดนนั้นยืนมองเธออยู่เพราะตอนที่เธอนั่งลงลูบป้ายเขาก็เดินมาพอดีจึงทำให้เขาได้ยินทุกประโยคที่เธอพูดถึงกับส่ายหน้าเอือมระอาใส่เธอ
“ปัญญาอ่อน”
เปรี้ยวถึงกับหันไปมองเจเดนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เมื่อเจเดนพูดจบก็เดินไปทันทีแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเปรี้ยววิ่งมาดักหน้าเขาไว้ก่อน
“เอ้า! คุณเรียนที่นี่หรอคะ บังเอิญจัง งืออ เรียนวิศวะด้วย”
เปรี้ยวพูดกับเจเดนด้วยรอยยิ้มแต่เจเดนกลับไม่ยิ้มตอบเธอเลยสักนิด แถมยังเดินหนีเธอโดยไม่พูดอะไร ทำเอาเปรี้ยวถึงกับหน้าเสียเมื่อเขาไม่ยอมพูดกับเธอ
“คนหล่อเค้าเป็นแบบนี้ทุกคนเลยมั้ยเนี่ย อย่าให้เจออีกนะเดี๋ยวจะทำให้ยอมพูดด้วยให้ได้เลย”
เปรี้ยวพูดขึ้นอย่างไม่ยอมขณะที่ยืนมองเจเดนเดินเข้าไปในตึกเรียน จากนั้นก็รีบเดินไปยังตึกคณะพยาบาลของตัวเอง เมื่อมาถึงห้องเรียนเปรี้ยวก็นั่งคนเดียวซึ่งเป็นเรื่องปกติ เธอไม่มีเพื่อนสนิทหรือเรียกได้ว่าไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำ เพราะมาเรียนได้สองอาทิตย์พอเพื่อนในห้องรู้ว่าเธอเป็นแค่เด็กทุนจนๆ ก็ไม่มีใครคบเธอเลยสักคน บางกลุ่มไม่ได้เกลียด พูดคุยได้แต่ก็ไม่ได้สนิทชวนไปไหนมาไหนแค่คุยในห้องเรียนแค่นั้น ยกเว้นกลุ่มของเบลที่ทั้งเหยียดและแสดงท่าทางรังเกียจเปรี้ยวออกมาชัดเจนเพราะแก๊งนี้เรียกได้ว่าคุณหนูลูกผู้ดีกันทั้งแก๊ง ส่วนตัวเปรี้ยวเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบเธอเพราะตัวเธอเองก็ไม่คิดจะเข้าไปวุ่นวายกับสังคมคนรวย เธอไม่เคยสร้างภาพว่าตัวเองนั้นมีฐานะถึงจะน้อยใจโชคชะตาตัวเองที่เกิดมาอับจนไม่ได้ฐานะร่ำรวยแต่ก็ไม่เคยลดค่าตัวเอง และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เบลและเพื่อนๆ นั้นเกลียดเปรี้ยวนั้นก็คือรูปร่างหน้าตาของเธอที่สวยเด่นกว่าทุกคนในห้อง ทั้งผิวที่ขาวออร่า หุ่นผอมเรียว บวกกับใบหน้าหมวยจิ้มลิ้มทำให้เบลนั้นอิจฉาเปรี้ยวที่เธอนั้นสวยกว่าตัวเองแถมผู้ชายที่เธอชอบส่วนมากก็ไปจีบเปรี้ยวหมดแต่เปรี้ยวกลับปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่มาจีบเพราะรู้ว่าพวกเขานั้นไม่ได้เข้าหาเธอเพราะรักจริงแต่เข้าหาเธอเพราะแค่อยากได้ร่างกายเธอเท่านั้น
“นี่พวกเราวันนี้รุ่นพี่งดทำกิจกรรมรับน้องนะ วันนี้ได้กลับบ้านเร็วจ้า”
ทุกคนในห้องถึงกับร้องเฮขึ้นด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่ารุ่นพี่งดทำกิจกรรมรับน้องเพราะหลังเลิกเรียนพวกเธอต้องเข้ากิจกรรมรับน้องจนเกือบห้าโมงเย็นถึงจะเสร็จ เช่นเดียวกันกับเปรี้ยวที่ดีใจมากไม่ต่างจากเพื่อนเพราะจะได้มีเวลาไปเดินสมัครงานเร็วกว่าเดิม สักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาเปรี้ยวจึงนั่งฟังอาจารย์อย่างตั้งใจ หลังจากเรียนเสร็จบ่ายสามเปรี้ยวก็รีบกลับไปเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวกับกางเกงยีนส์ใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อไปเดินสมัครงาน และก็โชคดีที่มีร้านนั่งชิวรับเธอเป็นเด็กเสิร์ฟ เปรี้ยวจึงรีบรับงานอย่างเร็วแล้วเริ่มทำงานทันที
“ต้องใส่ชุดแบบนี้เสิร์ฟหรอคะพี่จี้”
เปรี้ยวเอ่ยถามจี้ที่ทำงานเสิร์ฟเหมือนกันเมื่อเจ้าของร้านเอาชุดเดรสเกาะอกสีแดงมาให้เธอใส่
“ใช่จ้า ที่นี่พนักงานเสิร์ฟเค้าให้แต่งแบบนี้ล่ะ อะ พี่ให้ยืมรองเท้าส้นสูงใส่ผ้าใบคงไม่เข้ากับชุด หน้าน้องเปรี้ยวไม่ต้องแต่งเลยนะเนี่ย สวยหวานแล้ว เปลี่ยนชุดแล้วรีบมาหาพี่นะเดี๋ยวเจ๊เค้าจะบ่นให้ เร็วๆ นะ”
“ค่ะ”
เปรี้ยวตอบกลับจี้เสียงเบาพร้อมกับทำหน้าหวั่นใจเพราะเธอไม่เคยใส่ชุดสั้นแบบนี้มาก่อน แต่ก็สูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งครั้งเพื่อเรียกความกล้าตัวเอง
“เอาน่ะยัยเปรี้ยว แค่เดินเสิร์ฟแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เลิกงาน”
เปรี้ยวพยายามพูดปลอบใจตัวเองแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความไม่มั่นใจเพราะเธอไม่เคยใส่โชว์แบบนี้มาก่อน
“อร๊ายย! น้องเปรี้ยวสวยมากเลย มาๆ ไปเสิร์ฟเครื่องดื่มโต๊ะนั้นกับพี่กัน”
จี้พูดชมเปรี้ยวไม่ขาดปากเพราะเด็กสาวตรงหน้านั้นสวยมากจริงๆ จากนั้นก็ดึงเปรี้ยวไปเริ่มทำงานทันที จากแรกๆ ที่รู้สึกเกร็งๆ กับการใส่ชุดสั้นเดินเสิร์ฟก็เริ่มปรับตัวได้จึงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังมีกลุ่มผู้ชายโต๊ะหนึ่งจ้องมองเธอด้วยสายตาหืนกระหายอยู่
“ขออนุญาตวางเครื่องดื่มที่คุณลูกค้าสั่งเพิ่มนะคะ”
เปรี้ยวพูดขออนุญาตลูกค้าด้วยรอยยิ้มแล้วค่อยๆ วางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะอย่างระวัง
“ดื่มสักแก้วหน่อยสิน้อง ถือเป็นการขอบคุณที่บริการดี”
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีทางร้านไม่ให้ดื่มของลูกค้าค่ะ”
เปรี้ยวปฏิเสธลูกค้าด้วยน้ำเสียงสุภาพแล้วตั้งท่าจะเดินไปก็ต้องชะงักเมื่อโดนลูกค้าคนนั้นจับแขนไว้ก่อน เธอจึงสลัดแขนออกอัตโนมัติตามสัญชาตญาณระวังตัวของเธอ จนทำให้ลูกค้าคนนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่เธอ ด้วยความที่เปรี้ยวไม่อยากมีปัญหาไม่อยากโดนไล่ออกจึงพยายามระงับอารมณ์โกรธตัวเองลง
“ดื่มแค่แก้วเดียวนะคะ พอดีดิฉันต้องไปทำงานต่อค่ะ”
“แก้วเดียวก็เพียงพอแล้ว อะ”
ลูกค้าหนุ่มยิ้มกริ่มอย่างพอใจเมื่อเปรี้ยวยอมดื่ม เพราะเขาใส่ยาปลุกอารมณ์ไว้และดิวกับเจ้าของร้านไว้แล้วว่าจะเอาเปรี้ยวกลับห้องไปด้วย เมื่อลูกค้ายื่นแก้วให้เปรี้ยวจึงรับไว้และตั้งท่าจะดื่มรวดเดียวหมดแก้วก็ต้องชะงักเมื่อมีคนมาจับมือเธอไว้ก่อน
“ขอโทษนะคะ เห็นทีน้องคงจะดื่มไม่ได้ พอดีฉันต้องพาน้องสาวฉันกลับบ้านค่ะ”
เจด้าพูดกับลูกค้ากลุ่มนั้นด้วยรอยยิ้มแล้วหยิบแก้วเหล้าจากมือเปรี้ยววางลงบนโต๊ะ ทำเอาเปรี้ยวได้แต่ยืนงงเพราะเธอไม่รู้จักเจด้าแต่ก็ขอบคุณเจด้าในใจที่ทำให้เธอไม่ต้องดื่มเหล้า
“ไม่ให้น้องสาวดื่ม พี่สาวต้องดื่มแทนนะครับคนสวย โอ๊ยย! นังบ้า ปล่อยกูนะ”
ลูกค้าชายคนนั้นพูดกับเจด้าด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วยื่นมือจะจับใบหน้าสวยของเจด้าก็ต้องร้องเจ็บออกมาเสียงดังเมื่อโดนเจด้าหักข้อมืออย่างแรง
“หึ แรงมีแค่นี้ยังกล้าวางยาคนอื่นอีก ทุเรศ ไปกันน้อง”
พูดจบเจด้าก็ผลักลูกค้าคนนั้นจนเซล้มแล้วจับมือเปรี้ยวเดินไปทันที
“เดี๋ยวค่ะพี่ พอดีหนูยังไม่เลิกงานเลย หนูกลัวเจ้าของร้านจะว่าเดี๋ยวหนูไม่ได้ค่าแรง”
เปรี้ยวดึงเจด้าไว้ทันทีเมื่อเจด้ากำลจพาเธอเดินออกจากร้าน
“เดี๋ยวพี่จ่ายแทน มากับพี่เถอะ ยัยเจ้าของร้านนั่นมันตั้งใจจะขายน้องให้ไอ้ลูกค้าหื่นนั่นแล้ว”
เปรี้ยวถึงกับเบิกตากว้างตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเจด้าจึงยอมเดินไปกับเจด้าพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้ารู้สึกจุกอกไม่น้อยที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ที่เจด้ารู้เพราะกำลังจะไปคุยเรื่องงานกับเจ้าของร้านแต่เผลอไปได้ยินลูกค้าชายคนนี้พูดกับเจ้าของร้านก่อน เธอจึงปฏิเสธไม่ร่วมงานด้วยทันทีเพราะไม่ชอบทำงานกับคนนิสัยแบบนี้
“เอ่อ พี่คะ หนูต้องกลับไปเอากระเป๋ากับชุดของหนูหลังร้านค่ะ”
เมื่อเจด้าพาเปรี้ยวเดินมาถึงรถของเธอก็ต้องรีบพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่ากระเป๋าตัวเองยังอยู่ในนั้น เจด้าจึงหันมายิ้มให้เธอทันที
“ไม่ต้องไปเอาเองหรอก พี่ให้คนไปเอาให้แล้ว นั่นไง”
เปรี้ยวหันหลังไปมองทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเจด้า ก็เห็นผู้ชายชุดดำถือถุงชุดกับกระเป๋าของเธอเดินมา
“ของคุณผู้หญิงครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เปรี้ยวยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับของตัวเองมา จนเจด้าได้แต่ยิ้มเอ็นดูกับความนอบน้อมของเปรี้ยว
“กลับไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวด้าจะพาน้องเค้าไปส่งเอง”
เจด้าเอ่ยสั่งลูกน้องของพ่อตัวเองที่ส่งมาดูแลเธอด้วยน้ำเสียงสุภาพเพราะอายุเยอะกว่าเธอ
“ครับคุณหนู”
ลูกน้องของเจด้าโค้งรับคำสั่งแล้วเดินไปขึ้นรถอีกคันทันที
“ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน”
เจด้าพูดชวนเปรี้ยวด้วยรอยยิ้ม เปรี้ยวจึงยิ้มตอบแล้วขึ้นรถทันที การกระทำของเจด้าทำเอาเปรี้ยวรู้สึกดีไม่น้อยเพราะดูก็รู้ว่าเจด้าฐานะดีไม่น้อยแต่กลับมาช่วยคนอย่างเธอทั้งที่ไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ