ผู้ชายวัยกลางคนร่างอวบที่ยืนตรงหน้าเธอ ยกมือหนึ่งขึ้นกุมศีรษะที่เปียกโชก อีกมือก็ชี้หน้า ก่นด่าฟังไม่ได้ศัพท์ ส่วนสาวน้อยของผมถูกเหล่าชายชุดดำที่นั่งร่วมโต๊ะกับเสี่ยแก่ดึงตัวไว้ ไม่รู้ว่าเพื่อกันหนี หรือกันอาละวาดเพิ่ม =_=
“น้องๆ” ผมกระดิกนิ้วเรียกพนักงานเสิร์ฟชายมาสอบถาม และได้ความว่าตาแก่นั่นเป็นขาประจำของร้านที่มาหาความสุขที่นี่เป็นประจำ และเรียกนักร้องคนสวยของผมไปนั่งโต๊ะ แต่ไม่ทันไรก็โดนแต๊ะอั๋ง
“แค่ลูบขาเองพี่ ยัยนั่นดันคว้าขวดเหล้าฟาดหัวแขกเข้าให้ สงสัยจะโดนไล่ออกตั้งแต่ทำงานคืนแรกแหงๆ น่าเสียดาย สวยซะด้วยนะ...”
ฟังไม่ทันจบผมก็เดินดิ่งตรงไปหากลุ่มคนนั่นทันทีเพราะเห็นแวบวาบว่าตาแก่ตัณหากลับนั่นควักปืนออกมาจากเอวหนาๆ ผมเองก็ชักอาวุธออกมาบ้าง... โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดที่เพิ่งถอยมาถูกยกแนบหู พร้อมตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีฮิปฮอปของดีเจ
“ฮัลโหล ผู้กองเหรอ? ตอนนี้อยู่ไหนครับ หน้าผับ? อ๋อๆ เดินเข้ามาเลย พวกผมนั่งอยู่โต๊ะเกือบๆ ติดเวทีแหละ มากันเยอะป่ะเนี่ย?... ทั้งแผนก! โห เดี๋ยวก็ไม่ได้ใครเฝ้าโรงพักหรอกคร้าบ... อ๋อ ให้หมวดตี๋อยู่เวรคนเดียว น่าสงสารนะนั่น...”
ปากก็ตะโกน ตาก็เหล่มองคนกลุ่มนั้นและเห็นว่าตาแก่นั่นค่อยเหน็บปืนไว้ที่เก่า พร้อมหันไปรับผ้าเย็นมาเช็ดหน้าผาก ทำปากจิ๊จ๊ะ ดูจะหงุดหงิดปนกับเจ็บแผล เหอะๆ มันไม่จบแค่นี้หรอก!
“เฮ้ย เจ๊!!”
ผมแสร้งร้องลั่น ใช้โทรศัพท์มือถือชี้หน้าเธอคนนั้นด้วยท่าทางตกอกตกใจ ใบหน้าเรียวสวยใต้หน้ากากจึงหันมองมาพร้อมทุกคนที่อยู่แถวนั้น
“มาได้ไงฮะ รู้เปล่าผู้กองพ่อเจ๊อะกำลังเข้ามาเที่ยวนะ ถ้ามาเจอเข้าเดี๋ยวก็โดนสอบกันทั้งผับหรอก!”
เพราะผมเน้นคำว่า ‘ผู้กองพ่อเจ๊’ ละมั้ง สองแขนเพรียวบางที่ถูกผู้ชายหลายคนจับไว้มั่นจึงถูกปล่อยเป็นอิสระทันที แม้แต่ตาแก่ตัณหากลับก็หันมามองผมพร้อมอ้าปากเหวอ
“หนีเร็ว!”
ผมคว้าแขนเธอฉุดให้วิ่งแบบไม่ให้ใครทันตั้งตัว และดูเหมือนคนพวกนั้นจะไม่โง่กันเท่าไหร่ เพราะเมื่อพวกเราวิ่งออกจากผับมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเอ็ดตะโรดังไล่หลัง ซวยบรรลัย ช่วยโง่นานกว่านี้ซักห้านาทีไม่ได้เลยรึไงวะ!
ร่างบางวิ่งตามผมมาเร็วจี๋ได้ใจเหมือนกัน นักวิ่งทีมชาติปลอมตัวมารึเปล่าเนี่ย เฮ้ย... เฮ้ย... ทำไมยัยนี่วิ่งแซงผมล่ะ =[]=!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย!”
เสียงหนึ่งในพวกที่ตามเรามาร้องลั่น เพราะร่างบางข้างกายผมวิ่งไปพลาง ถอดรองเท้าบูตส้นสูงไปพลาง แล้วโยนไปด้านหลังลงกลางหัวคนดวงกุดนั่นแบบถ้าไม่ฟลุกก็แม่นขั้นเทพ โดยความเร็วไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย อืม... หรือจะเป็นนักบาสทีมชาติอีกอาชีพนึงด้วย?
แล้วมือเล็กก็ขยับเปลี่ยนเป็นจับมือผมกระชากให้วิ่งตามไปแทน โห เสียเชิงชายกว่านี้มีอีกไหม = =^
“ทางนี้”
ผมกระตุกมือดึงเธอผลุบหายเข้าไปในซอกเล็กๆ มืดๆ ข้างร้านขายยาที่มีแผ่นโฆษณารูปสาวหุ่นสวยถือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยืนเซ็กซี่บังอยู่ด้านหน้า
เอาวะ ถ้าคราวนี้รอดก็ถือว่ากู้หน้ากลับมาได้ละ!
เมื่อเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา มือเล็กของคนตรงหน้าก็ผลักตัวผมเข้าหากำแพง และโอบวงแขนรอบคอดึงให้ผมโน้มหน้าลงไปเกือบชิดเรียวปากอิ่มที่เม้มแน่น เฮ้ย... ไม่ใช่เวลานะ ยัยนี่คิดอะไรอยู่วะ
แต่เอาเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนี่ ^ ^
แต่พอผมแตะเอวคอดจับไว้มั่นและโน้มหน้าลงไปชิดมากขึ้น ก็กลับถูกดันศีรษะให้ซุกลงที่ไหล่บางแบบไม่ทันตั้งตัว! พร้อมกับที่เสียงฝีเท้ากรูกันวิ่งผ่านพวกเราไป คนตรงหน้าผละออกห่างจากผมแทบจะทันทีหลังจากนั้น ก่อนจะขยับไปแอบมองด้านนอกอยู่หลังป้าย อ้อ หัวผมมันสูงเลยป้ายนี่เองเลยโดนจับกด โธ่! ก็คิดว่า... อะนะ... ซะอีก
รู้สึกเสียหน้าตงิดๆ - -^ ฮึ่ย! กลับบ้านไปให้เฮียเติ้ลด่าดีกว่า ผู้หญิงเทพแบบนี้ไม่เคยเจอเว้ย!
ผมเดินล้วงกระเป๋าจะก้าวออกมาจากซอกนั้น ร่างบางตรงหน้าก็กลับยืนขวางทางไว้ พร้อมยกมือตั้งฉากโบกไปมาตรงหน้า อะไร? จะว่าไปคุ้นๆ แฮะ...
หรือว่าจะเป็นภาษามือ?
แต่ถ้าจะขอบคุณละก็พูดออกมาไม่ง่ายกว่ารึไง -*-
ผมยิ้มมุมปาก ก่อนกระชากร่างระหงตรงหน้ามากระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหู
“ถ้าอยากใช้ภาษากาย คืนนี้ก็อยู่กับผมทั้งคืนเลยเป็นไง?”
สาวน้อยตรงหน้าผมขืนตัวผละออก พร้อมจ้องมองมาด้วยใบหน้าราบเรียบดุจกระจก ก่อนขยับมือหมุนไปมาข้างหู พร้อมส่ายหน้าช้าๆ
ไม่ได้ยินเหรอ? เป็นใบ้... บ้าน่า
เฮ้อ! แบบนี้ไม่เวิร์กละ ทางใครทางมันเลยละกัน
“ไปนะ” ผมยกมือขึ้นโบกลา ถึงไม่ใช่ภาษามือที่ถูกต้องตรงเป๊ะเธอก็น่าจะเข้าใจละนะ แต่แค่หมุนตัวจะเดินห่างออกมาก็กลับถูกกระชากคอเสื้อให้หันกลับไปอย่างไว
พร้อมกับที่สาวน้อยแปลกหน้าเขย่งกายขึ้นมาจูบผม!
รสจูบนั้นแผ่วเบา หากแต่ยั่วเย้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ หอม หวาน อบอุ่น... น่าหลงใหล... ปลายนิ้วมือนุ่มแตะไล้แก้มผมเบาๆ ก่อนเรียวปากอ่อนละมุนจะถอนออกไปเชื่องช้า แต่ไม่รู้อะไรมันดลใจให้ผมรวบตัวเธอมาแนบกายและประกบริมฝีปากลงไปลิ้มลองรสสัมผัสอ่อนหวานที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดนั้นซะเอง
คนตรงหน้าไม่ดิ้นรน ไม่ขัดขืน เธอกลับโอบวงแขนรอบคอผม ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองโดยไม่คัดค้าน
ลมหายใจหอบสั่นกับเรือนกายอ่อนนุ่มที่เบียดเข้าแนบชิด มันทำให้สติผมกระเจิงหายไปได้อย่างง่ายดายแบบที่ไม่เคยเป็นกับคู่ควงคนไหน
บ้าชะมัด... ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้วสิ...