ทุกอย่างมันเริ่มที่ผับ และจบลงที่โรงแรม ‘เกือบ’ เหมือนทุกครั้ง
แต่สาบานได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ผมจะไม่เล่าให้ใครฟังเด็ดขาด! จะเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิต! ให้มันหายไปพร้อมผมวันตายของผมเลยยิ่งดี! ให้ตายสิ! - -^ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไม่ยอมถอดหน้ากากออกจนนาทีสุดท้ายละก็ ผมจะร่างภาพเธอออกประกาศตามหาในอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำ!
ร้ายนักนะ ยัยตัวแสบ!!
“วันเสาร์แบบนี้ไม่ไปเที่ยวรึไง นั่งเกะกะอยู่ได้”
“...”
“อะไร มองหน้าแบบนั้นจะสู้เรอะ -O-”
พอร่างบางตรงหน้าตวัดสายตามองเขม่น ผมก็รีบยกเท้าขึ้นวางบนโซฟาให้เฮียเติ้ลดูดฝุ่นที่พรมโดยไม่ตอบโต้ (เพื่อสวัสดิภาพของตัวผมเอง) เฮ้อ... เมื่อไหร่จะมีชายหนุ่มผู้โชคร้ายมาทำให้ชีวิตเฮียผมสดใสซะทีนะ อันที่จริงผมว่าเฮียเติ้ลในร่างหญิงกับหน้าอกหน้าใจสุดแสนจะเพอร์เฟคสำหรับผู้ชายเรานั่นก็ดึงดูดสายตาไม่ใช่เล่นอยู่นา นี่ถ้าผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็อาจมีหลงผิดบ้างละ =_=
แต่ไม่รู้ทำไมไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบแกซักคน? หรือมีแต่ผมไม่รู้? เพราะผมเองก็ไม่ได้นั่งเฝ้าเฮียอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอะนะ
“เออ ผลสอบออกแล้วนี่ เป็นไงบ้าง”
“วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงเฮียไง”
ตอบไปโดยไม่ละสายตาจากจอโทรทัศน์ สองมือก็กดจอยสติ๊กย้ำๆ พยายามจัดการกับบอสใหญ่ในเกมเพลย์ฯ เก่าเก็บที่งัดออกมาเล่นแก้เซ็งอย่างยากลำบาก เมื่อก่อนทำไมผ่านได้วะ หรือฝีมือผมจะอ่อนด๋อยลงล่ะเนี่ย - -^
“ด่านนี้มันมีสูตร จำไม่ได้รึไง”
เสียงใสดังห้วน พร้อมร่างบางขยับมานั่งชิดผมและช่วยกดจอยสติ๊กในมือรัวๆ จัดการกับบอสนั่นจนล้มหงายท้องไปแบบไม่มีคำว่ายาก
โอว เทพ! เฮียเทพมาก มีอะไรในโลกนี้ที่เฮียผมทำไม่ได้มั่งเนี่ย
“อ๊าก ขอบคุณนะเฮีย”
ผมปล่อยจอยสติ๊กให้เฮียถือไว้ พร้อมหันไปกอด หอมแก้มเฮียเติ้ลฟอดใหญ่ และถูก ‘ถีบ’ เต็มตีนที่หน้าอกอย่างไว! จนกระเด็นมาชิดอีกฟากของโซฟา
จุก... โคตร... ทำไมเฮียทำ T^To
“ทำบ้าอะไรยะ! อี๋... ต้องไปอาบน้ำมนต์ล้างซวยซักเจ็ดวัดแล้ว” เฮียเติ้ลทำหน้าสะอิดสะเอียนแบบเต็มสตรีมพร้อมถูแก้มอย่างรังเกียจจนแดงเป็นปื้น “ถ้าทำแบบนี้อีก คราวหน้าฉันจะจับแกมัดห้อยหัวลงมาจากชั้นสอง คอยดู!!” หลังจากชี้หน้าคาดโทษผมเรียบร้อย อาเฮียจอมโหดก็สะบัดก้นเดินหนีพร้อมทำท่าขนลุกขนชันไปตลอดทาง
เหอ... สาบานได้ว่าผมต้องทำตามคำสั่งนั่นอย่างเคร่งครัด เรื่องพูดจริงทำได้ต้องยกให้เฮียผม อย่างเรื่องจับมัดห้อยหัวจากชั้นสองนั่น ตอนเป็นเด็กผมเคยโดนกับต้นไม้แบบนับครั้งไม่ไหว ผมละภาวนาก่อนนอนทุกคืน ขอเฮียเติ้ลผมเกรียน แสนมาดแมนคนเดิมคืนมาเหอะ
ตอนนั้นแกโหดน้อยกว่านี้เยอะ =_=!!
อันที่จริงผมค่อนข้างดื้อและไม่ยอมคนหรอกนะ จะยอมให้ก็แค่เฮียคนเดียวนี่แหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ... ก็เฮียน่ะทำทุกอย่างเพื่อผมมาตลอดหกปีนี้นี่นะ พอพ่อกับแม่แป๋วไม่อยู่... เฮียก็เลือกที่จะออกจากโรงเรียนมาทำงานเพื่อส่งผมเรียน เอาเงินที่ได้จากการถ่ายแบบถ่ายโฆษณาให้ก็ไม่รับ ปล่อยให้ผมใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ส่วนตัวเองทำงานงกๆ ไม่บ่นซักคำ
หกปีก่อน บ้านผมไฟไหม้...
เหตุการณ์นั้นทำให้ผมกับเฮียเสียพ่อกับแม่แป๋วไปในกองเพลิง...
เฮียรอด... เพราะไปทำรายงานและค้างบ้านเพื่อน
ผมรอด... เพราะหนีออกไปตระเวนท่องราตรีเป็นครั้งแรกในรอบสิบหกปี
บ้านเราวอดเกือบทั้งหลัง
ตอนนั้นเฮียเรียนอยู่ ม.6 เทอมสุดท้าย แต่ก็ต้องเป็นคนจัดการบรรดามรดกที่พ่อกับแม่แป๋วทิ้งไว้ให้เรา เคลียร์หนี้สินที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าบ้านเรากำลังแย่ขนาดนั้น ด้วยการขายหุ้นทั้งหมดของพ่อ แต่ไม่ยอมทิ้งร้าน ‘น้องหมาตาแป๋ว’ กิจการเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเพราะความรักสัตว์ของพ่อ แล้วตอนนั้นแม่แป๋วมาสมัครงาน
และจากนั้นพวกเราทั้งสี่คนก็กลายมาเป็น ‘ครอบครัว’
พอเรียนจบ ม.ปลาย เฮียก็สละสิทธิ์การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย เพราะต้องทำงานหาเงินให้ผมเรียนต่อ... จนเมื่อสองหรือสามปีก่อนนี่ล่ะมั้งที่ผมเห็นเฮียลงเรียนรามคำแหงเพราะผมได้งานนายแบบเลยช่วยแบ่งเบาภาระเฮียในส่วนของตัวเองได้บ้างและมีเฮียเองก็เวลาว่างมากขึ้น
หกปีมาแล้วที่เฮียพยายามบริหารเงินที่ได้จากการขายหุ้นของพ่อและที่ทำงานงกๆ เพื่อให้เหลือเงินมาซ่อมแซมบ้านที่ถูกไฟไหม้ (แต่ผมเรียกสร้างใหม่มากกว่า) ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย!
ไม่อย่างนั้นป่านนี้บ้านนั้นคงซ่อมเสร็จไปนานแล้ว...
((เฮ้ย ไอ้ต๊ะ งานที่มึงให้กูหามันได้มาไม่ครบว่ะ ใบสมัครห่านี่ดันตกน้ำคลองตอนวิ่งหนีไอ้พนักงานบ้าเลือดนั่น พอจะอ่านออกแค่ที่อยู่อะ มึงจะเอามั้ย?))
“จัดมา”
ผมจดที่อยู่ตามคำบอกของกังฟูทางโทรศัพท์ไปพลาง ขมวดคิ้วไปพลาง และเมื่อจดเสร็จก็เป็นอันต้องเบิกตากว้าง บ้าว่ะ! ข้อมูลของยัยตัวแสบนั่นที่ไอ้กังฟูมันอุตส่าห์เสี่ยงตายไปขโมยออกมาจากผับให้...
...ทำไมเป็นบ้านเลขที่ใกล้กับบ้านเก่าผมที่ถูกไฟไหม้เลยล่ะ!
เพราะความอยากล้างอายมันไวกว่าทุกสิ่ง แค่ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้นผมก็ซิ่งรถมาจอดอยู่ใกล้บ้านยัยแสบนั่นแล้ว พอเดินย่องไปเมียงมองก็พบว่าบ้านหลังนั้นเงียบมาก ไม่มีใครอยู่มั้ง มาถึงนี่แล้วก็ถือโอกาสไปดูบ้านเก่าที่เฮียบอกว่าซ่อมใกล้เสร็จแล้วซะก่อนดีไหมนะ?
อยู่หมู่บ้านถัดไปนี้เองนี่นา...
แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร ประตูบ้านก็เปิดผางออกจนผมผลุบหัวหลบกับกำแพงแทบไม่ทัน ก่อนค่อยโผล่ออกไปแอบมองผ่านช่องรั้ว สาวน้อยผิวขาว แต่งหน้าจัดจ้าน ผมหนาจัดสีดำยาวตรงถึงกลางหลัง สวมแว่นตากันแดดอันโตนั่นไม่ผิดแน่
ยัยตัวแสบ... คราวนี้เธอเสร็จฉันละ!
“ไงจ๊ะที่รัก ©”
ทันทีที่เธอก้าวผ่านประตูรั้วบ้าน ผมก็ยื่นหน้าไปยิ้มหวานใกล้เสียจนได้เห็นริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบสีแดงตัดกับสีผิวอ้าออกน้อยๆ อย่างตกใจ ก่อนที่เธอจะขยับกายจะวิ่งหนี
แต่ยังช้ากว่าผมที่คว้าแขนเธอรั้งไว้!
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ อ่านปากออกใช่มั้ย?”
ผมยังปั้นหน้ายิ้มหวานทั้งที่หางคิ้วกระตุก ขณะที่เธอยิ้มแหย และยอมให้ผมฉุดกระชากลากตัวมาถึงรถ พร้อมทั้งยอมเข้าไปนั่งที่ข้างคนขับแต่โดยดี
พลบค่ำ กว่าผมจะจอดรถที่ข้างสระน้ำกว้างท่ามกลางแสงไฟระยับ และเปิดไฟในรถ หันไปยิ้มหวานแฝงรอยอาฆาตให้ยัยปีศาจในร่างนางฟ้าที่ยังนั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้า ไม่ว่อกแว่ก
“ของของฉันอยู่ไหน”