ทั้งสองเดินเข้ามาในครัวที่มืดสนิทเพชรจึงเดินไปเปิดไฟให้สว่างจ้าจากนั้นก็หยิบเสื่อที่พิงอยู่ข้างผนังมาปูนั่งแล้วเดินไปเปิดตู้กับข้าวหยิบน้ำพริกปลาทูที่แม่เขาทำไว้มาวางลงบนเสื่อ
ส่วนพระพายเมื่อเห็นหม้อต้มตั้งอยู่บนเตาถ่านเธอก็เดินไปเปิดดูว่าข้างในเป็นอะไรเมื่อเห็นเป็นต้มปลาก็เอื้อมมือไปหยิบถ้วยจากนั้นก็ตักต้มปลาใส่ให้เรียบร้อยแล้วเอาไปวางลงบนเสื่อข้างน้ำพริกปลาทู
ก่อนจะเดินไปหยิบกระติบข้าวเหนียวอยู่ในตู้กับข้าว แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามเพชรจากนั้นก็เปิดกระติบหยิบข้าวเหนียวมาปั้น ๆ จิ้มกินกับน้ำพริกปลาทูด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อยไม่สนเลยว่าเจ้าของบ้านจะมองอย่างไรเพราะตอนนี้เธอหิวมาก
ทางด้านเพชรนั่งมองพระพายปั้นข้าวเหนียวแล้วยัดข้าวเข้าปากไม่หยุดจึงอดถามไม่ได้
“บ่ได้กินเข่ามาจักมื้อแล้ว” (ไม่ได้กินข้าวมากี่วันแล้ว?)
“เป็นหยัง?” (ทำไม) พระพายเอ่ยถามขณะที่มือเล็กยังปั้นข้าวเหนียวแล้วยัดใส่ปากไม่หยุด กินแบบไม่ห่วงสวยเลยสักนิด
“คือจั่งปอบลงนี่ละ” (เหมือนปอบเข้าเลยอะ) พระพายได้ยินคำพูดของคนที่เธอแอบชอบก็เกือบสำลักข้าวแต่ดีที่รู้จักกันมานานจึงทำให้ชินบ้างแล้ว
“ก็คนมันหิวเนอะ” (ก็คนมันหินอะ) พระพายเลือกไม่สนใจนั่งกินข้าวต่อหน้าตาเฉย
“อืม ฟ่าวกินสิได้เข้านอน” (อืม รีบกินจะได้เข้านอน) จากนั้นทั้งสองก็นั่งกินข้าวกันต่อเงียบ ๆ ทุกอย่างดูปกติกระทั่งเพชรเปลี่ยนท่านั่งเป็นชันเข่าขึ้นด้วยความเคยชินแต่ลืมไปสนิทว่าไม่ได้นั่งกินข้าวคนเดียวเหมือนทุกวันจึงไม่ทันระวังทำให้กางเกงบ็อกเซอร์ที่สวมใส่อยู่มันรัดจนเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน
ทางด้านพระพายขณะนั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นเพชรเปลี่ยนท่านั่งเธอจึงช้อนตาขึ้นมองทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ในกางเกงของเขามันปลิ้นออกมาด้านข้าง ดวงตาสองข้างของเธอจึงเบิกโพลงขึ้นตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก่อนจะรีบตั้งสติแล้วเอ่ยบอกคนที่อยู่ตรงหน้าไปทันที
“อ้ายเพชรนั่งดี ๆ แหน่ ไข่สิออกแล้ว” (พี่เพชรนั่งดี ๆ หน่อย ไข่จะออกแล้ว) ทางด้านเพชรขณะตั้งใจกินข้าวอยู่พอได้ยินแบบนั้นก็รีบก้มมองเป้ากางเกงตัวเองทันทีเมื่อเห็นลูกบอลกลมกลึงของตัวเองกำลังจะโผล่พ้นกางเกงออกมาข้างนอกอย่างที่พระพายบอกก็ชะงักหน้าเสียไปครู่หนึ่ง แต่เพราะกลัวเสียหน้าจึงพูดบอกคนตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน
“ออกก็ออกไปติละ เห็นก็เอาไปบ่ได้คือเก่านั่นละ” (ออกก็ออกไปสิ เห็นก็เอาไปไม่ได้หรอก) พูดจบเพชรก็นั่งกินข้าวต่อ ส่วนพระพายพอได้ยินแบบนั้นก็ไม่คิดจะขัดปล่อยให้อีกคนนั่งท่าเดิมต่อเพราะเธอจะได้นั่งมองเป้าเขาด้วย
ทางด้านเพชรเมื่อเห็นพระพายนั่งกินข้าวต่อหน้าตาเฉยไม่มีท่าทีเขินอายที่เขานั่งอ้าซ่าแถมยังแอบชำเลืองมองเป้ากางเกงเขาเป็นพัก ๆ อีกต่างหาก เห็นแบบนั้นเพชรจำต้องยอมเปลี่ยนท่านั่งใหม่แทนเพราะทนต่อสายตาของอีกคนไม่ได้
จากนั้นทั้งสองก็นั่งกินข้าวกันต่อกระทั่งอิ่มพระพายจึงเก็บจานไปล้างข้างโอ่งส่วนเพชรก็นั่งปัดยุงเฝ้าเธออยู่เงียบ ๆ เมื่อพระพายล้างจานเสร็จทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านที่ตอนนี้ตาจ่อยกับยายพิณนอนหลับไปแล้ว...