จากนั้นทั้งสองก็นั่งกินข้าวกันต่อกระทั่งอิ่มพระพายก็เก็บจานไปล้างข้างโอ่งส่วนเพชรก็นั่งปัดยุงเฝ้าเธออยู่เงียบ ๆ เมื่อพระพายล้างจานเสร็จทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านที่ตอนนี้ตาจ่อยกับยายพิณนอนหลับไปแล้ว
“อีหล่านอนในห้องอ้ายเด้อ เดี๋ยวอ้ายนอนข้างนอกเอง” (พายนอนในห้องพี่นะ เดี๋ยวพี่นอนข้างนอกเอง)
“ได้” หลังจากตกลงกันเรียบร้อยพระพายก็เดินตามเพชรเข้าไปในห้องนอนของเขาที่ดูรกไม่ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าไรซึ่งต่างจากห้องนอนพายุพี่ชายของเธอมากแต่เธอก็ไม่ถือสาอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย
“นอนได้บ่?” (นอนได้ไหม?) เพชรหันไปถามพระพายที่เดินตามหลังเขาเข้ามาในห้อง
“เป็นหยังคือสินอนบ่ได้ล่ะ” (ทำไมจะนอนไม่ได้ล่ะ) พอได้ยินคำตอบของคนตัวเล็กเพชรก็เดินไปหยิบมุ้งมากางให้เธอทันที
ทางด้านพระพายเอาแต่ยืนจ้องมองแผ่นหลังกำยำของคนด้านหน้าไม่หยุดกระทั่งเจ้าของเรือนร่างนั้นหันมามองเธอเมื่อเขากางมุ้งเสร็จแล้ว
“นอนอย่างเดียวอย่าเยี่ยวฮดใส่บ่อนอ้ายเด้อล่ะ” (นอนอย่างเดียวอย่าเยี่ยวรดที่นอนพี่นะ)
“อ้ายเพชร! หนูบ่แม่นเด็กแล้วเด้สิมาเยี่ยวฮดใส่บ่อนอีหยัง” (พี่เพชร! หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะจะมาเยี่ยวรดที่นอนอะไร) เมื่อได้ยินคำพูดของอีกคนพระพายก็รีบเถียงกลับไปด้วยสีหน้าจริงจังทันที
“บ่ฮู้ล่ะ บอกไว้ก่อน” (ไม่รู้ล่ะ บอกไว้ก่อน) พูดจบเพชรก็เอื้อมมือไปจับประตูห้องก่อนจะปิดลง ส่วนพระพายเมื่อเห็นเพชรเดินออกไปข้างนอกแล้วเธอก็กวาดดวงตามองสำรวจภายในห้องขนาดเล็กอีกครั้ง
ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟในห้องแล้วมุดเข้าไปในมุ้งจากนั้นก็ทิ้งศีรษะลงบนหมอนขิดสีแดงด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเพราะไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะได้มานอนอยู่ในห้องของเพชร…
ทางด้านเพชรหลังจากกางมุ้งด้านข้างที่นอนแม่เขาเรียบร้อยก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หน้าโทรทัศน์ขึ้นมาดูว่ามีแบตเตอรี่ไหมเพราะพรุ่งนี้ต้องไปเลี้ยงควายให้พ่อจึงต้องเช็กดูก่อน หากไม่มีจะได้ชาร์จทิ้งไว้ไม่งั้นพรุ่งนี้ไม่มีโทรศัพท์ไว้เปิดวิทยุฟังตอนเลี้ยงควายแน่
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดจนไฟหน้าจอมันสว่างจ้าเมื่อเห็นว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ใกล้หมดแล้ว เพชรจึงจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งเพราะสายชาร์จมันอยู่ในนั้น
มือหนาเตรียมจะยกขึ้นเคาะประตูเพื่อให้คนที่อยู่ในห้องเปิดแต่ก็ต้องชะงักเพราะกลัวว่าพ่อกับแม่เขาจะตื่นจึงเลือกที่จะลองหมุนลูกบิดประตูดูก่อนหากเปิดไม่ได้จริง ๆ ถึงค่อยเคาะ เพชรเลื่อนฝ่ามือจับลูกบิดจากนั้นก็ผลักประตูเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดายเนื่องจากพระพายไม่ได้ล็อกประตู
เมื่อเปิดเข้าไปในห้องสำเร็จเพชรก็ชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะไม่คิดว่าพระพายจะนอนเร็วขนาดนี้ เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากรบกวนเธอจึงเลือกกดโทรศัพท์ให้ไฟหน้าจอมันสว่างก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างมุ้งดวงตามองร่างเล็กที่นอนตะแคงหันหลังให้เขาอยู่ มือหนาจึงเปิดมุ้งขึ้นแล้วมุดเข้าไปข้างในเพื่อเอาสายชาร์จที่อยู่บนหัวนอนของพระพาย
แต่พอเข้าไปข้างในก็ต้องชะงักเมื่อแสงไฟหน้าจอโทรศัพท์สาดส่องเห็นร่างเล็กผิวขาวเนียนที่นอนอยู่ ตาคมจึงไล่มองเรือนร่างของน้องสาวเพื่อนกระทั่งถึงใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มก็ไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย…
แต่พอได้สติเพชรก็รีบสะบัดหน้าแรง ๆ เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นใครไม่ควรคิดอะไรกับน้องเพื่อนไปมากกว่านี้ ถึงจะเผลอใจไปแล้วก็ตามแต่ก็พยายามย้ำเตือนสติตัวเองเพื่อไม่ให้มันถลําลึกไปมากกว่านี้ เมื่อได้สติเพชรก็โน้มตัวไปใกล้ ๆ พระพายเพื่อหยิบสายชาร์จแบต ทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกคนตื่น…
ทางด้านพระพายขณะนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อรับรู้ถึงที่นอนยุบตัวเธอก็รีบลืมตาขึ้นทำให้เห็นแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์สว่างจ้าจึงรีบหันไปมองคนที่อยู่ทางด้านหลังทันทีทำให้สบตากับเพชร
คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกเอาแต่นอนเม้มปากแน่นเมื่อจู่ ๆ ก็เห็นคนที่แอบชอบมาตั้งนานเข้ามาในห้องอีกครั้งแถมตอนนี้เขายังโน้มตัวลงมาหาเธออีกต่างหาก
พระพายนอนคิดไม่ตกในหัวตีกันจนยุ่งเหยิงก่อนที่ดวงตากลมโตจะเลื่อนมองลงยังหน้าอกกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ จากนั้นก็ยกมือขึ้นลูบหน้าอกของเพชรเบา ๆ
ทางด้านเพชรพอได้สบตากับคนที่นอนอยู่ใต้ร่างมันก็ไม่อาจถอดถอนสายตาไปไหนได้เลย ยิ่งมือเล็กยกขึ้นลูบหน้าอกเขาก็เหมือนปลุกกำหนัดในตัวให้ตื่นเพชรจึงขยับตัวลงไปแทรกกลางหว่างขาของพระพายฝ่ามือใหญ่ ๆ ดันขาทั้งสองข้างของเธอออกกว้าง ๆ จากนั้นก็เอ่ยถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงกระเส่า...