“...มึงสนใจผ้าแพรเหรอวะไอ้ภูผา”
“เปล่า กูไม่ได้สนใจน้องเขา แล้วมึงก็ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของกูด้วย ตอนนี้มึงต้องจัดการความรู้สึกกับความคิดของมึงก่อน”
“แล้ว...ถ้าผ้าแพรชอบมึงต่อไปเรื่อย ๆ”
“ก็สิทธิ์ของเขา”
“แล้วถ้ามึงชอบผ้าแพรล่ะ”
“ก็สิทธิ์ของกู เหมือนที่มึงแอบชอบเขามันก็เป็นสิทธิ์ของมึง มีใครห้ามมึงไหมล่ะ?”
“...”
“ไม่มีใครห้ามเว้ย แล้วก็ไม่มีใครห้ามไม่ให้มึงไปจีบเขาด้วย ที่กูพูด ๆ มาเนี่ยเพราะกูอยากให้มึงเข้าใจว่าใครจะรักจะชอบใครมันก็สิทธิ์ของเขา มึงชอบได้แต่มึงจะตามขวางไม่ให้เขาไปชอบหรือคบใครไม่ได้”
“...อืม” มันเงียบจนผมระแวง หวังว่าคำพูดของผมคงทำให้มันคิดได้
“ทำงานเถอะว่ะ เดี๋ยวกูต้องไปธุระต่อ กูมีนัด”
“อืม”
“มึงเข้าใจที่กูพูดไหมวะไอ้เอ็ม” ผมว่าจะไม่พูดต่อแล้ว แต่เห็นอาการของมันแล้วผมไม่ไว้ใจ
“เข้าใจ กูขอเวลาทำใจหน่อยสิวะไอ้ห่า”
“อืม ถ้ามึงเข้าใจก็ดี”
#PHUPHA END
#PHAPRAE TALK
“...” โคตรซึม ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ขนาดเวลาผ่านมาเป็น 10 นาทีสภาพจิตใจของฉันยังไม่โอเคเลย
Line !
TiSa : ฮาโหล~
Pha_Prae : ว่า
TiSa : ทำไรยะ
Pha_Prae : 😭
TiSa : ??
Pha_Prae : 😭😭😭
TiSa : เป็นไร
Pha_Prae : เป็นบ้าแล้วแก ว่างไหมโทรหาหน่อย
TiSa : เค ๆ
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...ทิสา
ติ๊ด!
“ทิสา~ ฮือ~” ทันทีที่กดรับสายฉันก็ส่งเสียงฮือออกไปทันที ไม่ส่งเสียงเฉย ๆ ด้วยแต่นอนดิ้นไปดิ้นมาบนเตียงอีกแล้ว
“เดี๋ยว ๆๆ เกิดอะไรขึ้น เล่าก่อนฉันไม่เข้าใจ”
“ฉันทำตามที่แกแนะนำแล้ว” ฉันตั้งสติแต่ก็บอกทิสาออกไปด้วยเสียงที่งอแงมากพอสมควร
“จริง?”
“อือ โทรไปหาพี่เอ็มเองเลย”
“หูย~ คนจริง แล้วยังไงทำไมต้องทำเสียงเศร้า นี่อย่าบอกนะว่าพี่เอ็มยืนยันว่าพี่คนนั้นชอบฉันเหมือนเดิม แกฟังฉันนะผ้าแพร พี่ภูผาคนนั้นไม่ได้ชอบฉันชัวร์! แกโดนพี่เอ็มกันซีน”
“...ไม่ได้โดน เขาบอกแล้วว่าไม่ได้ชอบแก”
“อ้าว แล้วทำเสียงเศร้าทำไม พี่เขามีแฟนแล้วรึไง”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วจะเศร้าเพราะ?”
“ก็ฉันถามใช่ไหมล่ะว่าพี่ภูผาชอบแกรึเปล่าเขาก็ตอบว่าไม่ได้ชอบ ทีนี้ฉันตื่นเต้นฉันก็เลยรีบบอกไปเลยว่าฉันชอบพี่เขา แต่แกรู้ไหมว่าความจริงแล้วใครเป็นคนรับสาย” พูดไปก็เสียงเศร้าไปด้วย อยากจะร้องไห้ให้น้ำตาไหลออกมาล้างความอาย แต่ไม่รู้ต้องร้องเท่าไหร่ถึงจะล้างอายออกไปได้ T^T
“นี่ อย่าบอกนะว่า...”
“อือ”
“เฮ้ย! เรื่องจริง?”
“อาฮะ” ฉันตอบเพื่อนพร้อมกับเบะปาก หลับตาด้วยความเศร้า
“ฮ่า ๆๆ ผ้าแพรแกโป๊ะเหรอ? ฮ่า ๆๆ”
“ฮือ~ อย่าหัวเราะฉันสิทิสา ฉันโคตรอายเลยแกรู้ไหม แถมพี่เขาก็ย้ำถามฉันด้วยว่าตกลงฉันชอบเขาเหรอ ทิสา~ เพื่อนอาย”
“ฮ่า ๆๆ โอ้ย~ ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี”
“แกอย่าขำสิ ฉันโคตรอายเลยะเว้ย” T^T
“ฮ่า ๆๆ โก๊ะมาก~ ไม่รู้รึไงว่าไม่ใช่พี่เอ็ม”
“ไม่รู้ ก็แย่งเขาพูดก่อนเพราะไม่อยากคุยนาน เขาพูดสั้น ๆ ด้วย อีกอย่างฉันก็ไม่ได้จำเสียงพี่เอ็มได้แม่นขนาดนั้นนี่แก ฮือ~ ทิสาเพื่อนจะทำยังไงดี”
“ทำยังไง ไม่ต้องทำอะไรเลย ดีซะอีกตอนนี้พี่เขาก็รู้แล้วว่าแกชอบเขา ไม่ต้องพยายามทำให้เขารู้เลยนะ”
“น่าอายจะตายไป”
“เออเข้าใจ เพราะฉันนึกออกว่าแกต้องบอกแบบไม่ธรรมดา ไม่มีสติเหมือนคนอื่นแน่ ๆ” ทิสาพูดไปกลั้วหัวเราะไปด้วยยิ่งทำให้ฉันอายมากขึ้น
“ฉันจะเลิกชอบเขา ฉันจะไม่มีทางให้เขารู้ว่าฉันมีตัวตนบนโลกนี้อีกต่อไป”
“บ้าเหรอ ฮ่า ๆๆ เขารู้วันนี้หรือวันหน้าก็ต้องรู้เหมือนกัน เรื่องแค่นี้เองจะถอยทำไม”
“ไม่เอาหรอกแก ฉันจะตัดใจ ฉันอายจริง ๆ นะ”
“ตลกแล้วผ้าแพร”
“ไม่ตลก ฉันอายเขามาก แกมาเป็นฉันแกไม่เข้าใจหรอก” ฉันชอบเขานะคะแต่เหตุการณ์วันนี้ทำให้ฉันอับอาย ต่อให้ไม่คิดตัดใจก็ไม่รู้ว่าจจะเดินไปทางไหนต่อดี T_T
“เขาอาจจะเป็นเนื้อคู่แกนะ”
“ถ้างั้นฉันจะนอนแคะขี้มูกเกาตูดรอให้ถึงเวลาอย่างที่แกบอกก็แล้วกัน”
“เฮ้อ!” ทิสาถอนหาใจออกมาด้วยความเอือมมั้งคะ แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่กล้าแม้แต่มองหน้าเขาในระยะไกลได้หรอก ฉันชอบเขาแต่ให้ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของโชคชะตาก็แล้วกัน T^T
-หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-
ฉันว่าเหตุการณ์วันนั้นเขาคงเล่าให้พี่เอ็มฟังแล้วล่ะค่ะ เพราะพี่เอ็มก็หายไปเลย ไม่ได้อาลัยอาวรณ์พี่เอ็มนะคะ แต่ฉันอายมากกว่าที่มีคนรู้เห็นเหตุการณ์นี้
เฮ้อ! ถึงจะบอกว่าตัดใจแต่เชื่อไหมว่าฉันพยายามส่องโซเชี่ยลมีเดียของเขาทุกช่องทางเลย ยิ่งส่องยิ่งชอบ ฉันหลงรูปของเขาเหมือนผู้หญิงโรคจิตเลย -_-!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...พี่เอ็ม
“...” ฉันเอาแต่มองหน้าจอ เพิ่งนึกถึงพี่เอ็มไม่กี่นาทีพี่เอ็มก็โทรมาเลยเหรอ?
ติ๊ด!
“ฮัลโหล”
“แพรว่างรึเปล่า” เสียงดูเครียดจังเลยค่ะ
“ก็...ว่างค่ะ พี่เอ็มมีอะไรเหรอคะ” ฉันไม่ค่อยอยากคุยเพราะฉันอายมาก
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ไม่นานหรอก”
“...ค่ะ” ทำไมพี่เอ็มต้องทำเสียงจริงจังด้วยวะ มีเรื่องอะไรรึเปล่า
“แพร...ชอบไอ้ภูผาเพื่อนพี่ใช่ไหม” อะ...อะไรนะ? ฉันโคตรอายเลยนะคะ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันยังไม่หายอายแม้แต่นิดเดียว พยายามจะใช้เวลารักษาความอายแต่กลับโดนพี่เอ็มโทรมาตอกย้ำซะได้ แล้วเขาก็เหมือนกันจะเล่าให้เพื่อนตัวเองฟังทำไม
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องอายหรอกพี่รู้ พี่แค่จะโทรมาสารภาพความจริง”
“คะ? สารภาพอะไรนะคะ?” งงค่ะ
“เรื่องที่พี่โกหกว่าไอ้ภูผาชอบทิสาไง” อ๋อ ฉันก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่กล้าถาม ไม่รู้จะถามยังด้วย
“ยังไงคะ?”
“คือ...” พี่เอ็มเริ่มเล่าทุกอย่างให้ฉันฟังช้า ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เล่าว่าเขาเห็นสายตาของฉันที่มองพี่ภูผา เห็นพี่ภูผามองฉันเขาก็เลยอยากหาทางกันไม่ให้พี่ภูผาเข้าหาฉันเอาไว้ก่อนด้วยการทำให้ฉันเข้าใจผิดว่าพี่ภูผาชอบทิสา เหตุผลก็เพราะเขาชอบฉัน
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่พี่พูดนั่นล่ะแพร”
“เอ่อ...” ฉันฟังจบก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“พี่ขอโทษนะที่โกหกแพร” น้ำเสียงของพี่เอ็มรู้สึกผิดจริง ๆ
“เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เอ็ม อย่างน้อยพี่เอ็มก็บอกความจริงกับแพร แล้ว...ทำไมถึงเลือกที่จะโทรมาบอกเหรอคะ”
“ไอ้ภูผามันเตือนสติพี่ ตอนแรกพี่พยายามกันไม่ให้แพรชอบใครแต่มันเตือนสติพี่ว่าแพรมีสิทธิ์ที่จะชอบใครก็ได้ไม่มีใครมีสิทธิ์ห้ามแพร เหมือนที่พี่ชอบแพรแล้วก็ไม่มีใครมีสิทธิ์ห้ามพี่” เขาดู...เป็นคนดีจังเลยค่ะ ฟังแล้วยิ่งตอกย้ำความชอบของฉันให้ชอบเขามากขึ้น แต่พี่เอ็มก็ดูเศร้าเหมือนกัน ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว
“แล้ว...” เฮ้อ! ทำไมมันอึดอัดแบบนี้นะ พอรู้ว่าพี่เอ็มชอบฉันการพูดคุยก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก
“พี่ใช้เวลาทั้งอาทิตย์ในการทบทวนทุกอย่าง ทบทวนตามคำพูดของไอ้ภูผาจนคิดได้ว่าพี่ไม่ควรทำแบบนี้”
“พี่เอ็ม...ต้องการอะไรคะ” ฉันรู้สึกว่าที่พี่เอ็มโทรมาไม่ใช่แค่การโทรมาสารภาพเรื่องที่โกหก แต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้
“พี่...อยากช่วยแพร ถ้าแพรชอบไอ้ภูผาพี่จะช่วยให้แพรสมหวังเอง”