EP : 5

1286 Words
“เอ่อ พี่เอ็มคะคือ...” “น้อง...ชอบพี่เหรอ?” “...ฮะ?” “น้องชอบพี่เหรอครับ” “เอ่อ...เปล่าค่ะ แพรชอบเพื่อนพี่เอ็ม” ฉันบอกช้า ๆ เผื่อพี่เอ็มเขาเข้าใจผิด แต่เมื่อกี้ฉันก็มั่นใจว่าไม่มีตรงไหนที่จะชวนให้เข้าใจผิดว่าฉันชอบพี่เอ็มเลยนะ ฉันย้ำว่าฉันชอบเพื่อนเขา เอ่ยชื่อด้วยซ้ำว่าฉันชอบพี่ภูผา -///- “รู้” เออก็รู้ แล้วถามทำไมว่าชอบพี่เหรอ แต่...ทำไมเสียงพี่เอ็มแปลก ๆ วะผ้าแพร “นี่...พี่เอ็มรึเปล่าคะ” “เปล่า” “ฮะ?” มัน... มันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม ไม่ใช่ผ้าแพร ไม่ใช่แน่ ๆ จังหวะมันจะซิทคอมละครไทยเกินไป ฉันขยับมือเอาโทรศัพท์ออกจากหูแล้วดูหน้าจอ ก็ชื่อพี่เอ็มนี่ ดูเสร็จก็ยกโทรศัพท์ไปแนบหูอีกครั้ง “เอ่อ...นี่ใครคะ” “คนที่น้องบอกว่าชอบไง” “ฮะ ฮ่า ๆๆ พี่เอ็มแกล้งอะไรแพรเนี่ย ฮ่า ๆๆ” เหมือนขำแต่ขำแห้ง ๆ ขำแทบไม่ออก จะพูดว่าพี่เอ็มแกล้งก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะยิ่งพูดประโยคยาวขึ้นยิ่งชัวร์ว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียงพี่เอ็ม พี่เอ็มหล่อนะคะ เสียงหล่อด้วย แต่เสียงที่ได้ยินตอนนี้ไม่ใช่เสียงหล่ออย่างเดียวแต่เป็นเสียงโคตรหล่อเลยต่างหาก T_T “พี่ไม่ใช่ไอ้เอ็ม” จะตอกย้ำทำไม “เอ่อ พี่...” “ภูผา” ฮือ~ สาบานว่าฟังเสียงฉันตอนนี้แล้วเขาไม่รู้เลยว่าฉันกำลังทั้งอายทั้งช็อก ฉันอึกอักขนาดนี้แล้วเขาจะย้ำให้มั่นใจมากด้วยการบอกชื่อตัวเองทำไมกัน “พี่...พี่ภูผาช่วยลืมเรื่องวันนี้ไปได้ไหมคะ” ฉันบ้าค่ะ ฉันบ้ากว่าที่ทุกคนคิดแน่นอน อย่างเช่นตอนนี้ไงที่ฉันกำลังขอให้เขาลืมเรื่องวันนี้ไป T^T “ลืมเรื่องอะไร” “ก็... / เรื่องที่น้องบอกว่าชอบพี่น่ะเหรอ” “...” พี่เขาถามออกมาเสียงเรียบแบบนี้ได้ยังไง จิตใจทำด้วยอะไร! ไม่รู้เหรอว่าอีกคนจะโคตรอายมากแค่ไหน “คือ...” พูดไม่ออก พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวแต่จะตัดสายก็ไม่กล้า “ตกลงว่าน้องชอบพี่เหรอครับ” เขา...เขาถามทำไม เขาไม่เห็นใจเพื่อนร่วมโลกอย่างฉันเลยเหรอ “เอ่อ เดี๋ยวเอาไว้โอกาสหน้าเราค่อย...เอ่อ...สวัสดีค่ะ” ติ๊ด! “กรี๊ด!!!” ฉันพูดอะไรต่อไม่ได้เลยค่ะ หูอื้อตาลายด้วยความอายจนสุดท้ายก็ตัดสายแล้วมานอนแดดิ้นเป็นหมาน้อยโดนน้ำสาดอยู่บนที่นอน อาย! โคตรอาย! และโคตรอาย! T^T #PHAPRAE END #PHUPHA TALK “เอ่อ เดี๋ยวเอาไว้โอกาสหน้าเราค่อย...เอ่อ...สวัสดีค่ะ” “...” ผมนิ่งเพราะกำลังฟังว่าเธอจะพูดอะไรแต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับกลายเป็นความเงียบ จนกระทั่งเอาโทรศัพท์มาดูหน้าจอนั่นล่ะ “หึ ๆๆ” ผู้หญิงบ้าอะไรวะโคตรติ๊งต๊องเลย แอด~ “มึงเป็นไรวะ นั่งยิ้มทำไม” คนที่เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำคือเพื่อนของผมและเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องที่อยู่ในมือของผมเช่นกัน “คนที่มึงชอบโทรมา” ผมบอกมันเสียงเอื่อยแล้วก็วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม แต่ไอ้เอ็มที่รู้ว่าใครโทรมาก็รีบเดินมาหยิบโทรศัพท์ทันที “มึง...รับสายเหรอ?” มันหยิบโทรศัพท์ไปดู อาจจะตั้งใจโทรกลับแต่คงเห็นสายล่าสุดว่าผมกดรับสายแถมยังคุยตั้งหลายนาทีเลยเงยหน้าขึ้นมาถามก่อน “อืม โทรมาสองรอบติดกันกูเลยรับ แค่จะบอกว่ามึงเข้าห้องน้ำอยู่” “แล้วผ้าแพรว่าไงบ้าง” ทำไมไอ้ห่าเอ็มต้องมองผมด้วยสายตาไม่สบายใจด้วยวะ “ไม่ฟังอะไรเลย กูยังไม่ได้พูดให้เป็นคำก็ถามเลยว่าทำไมกูไม่โทรหาเพื่อนเขา ตกลงกูชอบเพื่อนเขารึเปล่า” ผมก็ตอบเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ แต่ไอ้เอ็มกลับมาสีหน้าไม่สบายใจหนักกว่าเดิม มันคงรู้สินะว่าผมจะตอบเธอคนนั้นว่ายังไง “มึง...ตอบผ้าแพรว่ายังไงวะ” หึ ๆๆ เห็นไหม มันต้องเริ่มรู้แต่ก็ยังไม่อยากมั่นใจเลยลองถาม “ตอบว่ากูไม่ได้ชอบไง” “...” “แต่เรื่องนั้นไม่เท่ากับพอกูตอบว่าไม่ได้ชอบเพื่อนเขาน้องคนนั้นของมึงก็รีบพูดเลยว่ะว่าเขา...ชอบกู” “มึงว่าไงนะ?” มันดูอึ้งไป ผมไม่ได้สะใจนะครับ แต่ผมแค่ไม่ชอบโกหก ได้ยินมาแบบไหนก็บอกมันไปแบบนั้น “เขาคิดว่ากูป็นกูเป็นมึงก็เลยบอกกูว่าเขาชอบกู สงสัยจะให้มึงช่วยเป็นพ่อสื่อให้” “มึง...” “มึงดูไม่ได้ตกใจเท่าไหร่นะเอ็ม” ผมจ้องหน้ามัน เพราะมันดูอึ้งก็จริง แต่ก็เหมือนจะไม่ได้อึ้งที่รู้ว่าเธอคนนั้นชอบผม เหมือนมันอึ้งที่เธอบอกผมมากกว่า “...” “มึงรู้?” “เออ...กูคิดว่าต้องอาจจะเป็นแบบนี้” “ทำไมถึงคิดว่าอาจจะเป็นแบบนี้” “กูเห็นสายตาผ้าแพรตอนมองมึงที่ลิฟท์” “แค่นั้น? เห็นแค่นั่นมึงก็รู้เลย เขากับกูเจอกันครั้งเดียวมึงดูออกเลยว่าเขาชอบกู?” ไอ้ห่านี่เป็นสตอล์กเกอร์รึเปล่าวะ อารมณ์ประมาณว่าแอบชอบเขาแอบศึกษาพฤติกรรมทั้งหมดของเขาจนรู้ทุกอย่าง “ก็ 50 / 50 เพราะกูไม่เคยเห็นผ้าแพรใช้สายตาแบบนั้นมองใคร น้องเขาดูเขินไม่เป็นตัวของตัวเอง กูเลยคิดว่าเขาอาจจะชอบมึง ทีแรกก็แค่คิดว่าอาจจะชอบแต่ไม่คิดเลยว่ะว่าจะชอบจริง ๆ” “อ่าส์~ แล้วมึงก็เลยโทรไปหาเขา ไปบอกเขาว่ากูชอบเพื่อนเขาให้เขาเลิกชอบกู?” ตลกสัส ไอ้ห่าเอ็มคิดได้ยังไงวะ “เออ มันอาจจะปัญญาอ่อนสำหรับมึง แต่กูชอบเขาจริง ๆ นะเว้ย กูไม่อยากให้เขาชอบใคร โดยเฉพาะคนใกล้ตัวกูเพราะกูคงเจ็บมาก อีกอย่าง...มึงก็มองน้องเขา” มันมองหน้าผม จ้องผมด้วยสายตาค่อนข้างเครียด “เขาสวยกูก็มองแค่นั้นเอง” “อืม กูรู้ กูแค่หาทางกันไว้ดีกว่าแก้” “ไอ้เอ็มมึงฟังกู มึงบังคับใจใครไม่ได้หรอก ถ้าสมมุติวันนี้มึงทำสำเร็จผู้หญิงคนนั้นเลิกชอบกู แต่มึงจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะไม่ไปชอบคนอื่น ถ้าเขาไม่ชอบมึงมึงจะตามกีดกันแบบนี้ทุกคนเลยเหรอวะ?” “...มึงสนใจผ้าแพรเหรอวะไอ้ภูผา” มันเงียบไปหลังจากผมพูดจบแล้วก็ถามคำถามนี้ออกมา “เปล่า กูไม่ได้สนใจน้องเขา แล้วมึงก็ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของกูด้วย ตอนนี้มึงต้องจัดการความรู้สึกกับความคิดของมึงก่อน” ผมบอกมันเสียงเครียด เสียงผมเครียดกว่ามันด้วยซ้ำ บอกตามตรงว่าผมเห็นอาการไอ้เอ็มแล้วผมปล่อยผ่านไม่ได้ ผมต้องคุยกับมันให้รู้เรื่องว่ามันมีสิทธิ์ที่จะชอบเธอได้ แต่มันไม่มีสิทธิ์ไปห้ามหรือกีดกันไม่ให้เธอชอบใครอย่างที่มันกำลังทำตอนนี้ ผมต้องเคลียร์ให้จบไม่งั้นเธอคนนั้นจะลำบาก มันจะเป็นภัยกับเธอ บอกตามตรงนะครับว่าผม...เป็นห่วงยัยติ๊งต๊องคนนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD