ลลิตาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเธอถูกมัดอยู่บนเก้าอี้อยู่ในสถานที่ที่เหมือนโกงดังร้าง เมื่อมองรอบๆ ก็พบว่ามีเธอแค่คนเดียวเท่านั้น แล้วน้องเธอล่ะ มายาวีถูกจับไปไว้ที่ไหน พวกนั้นจะทำอะไรน้องสาวเธอหรือเปล่า
อยากจะเอ่ยปากร้องตะโกนก็ทำไม่ได้เพราะถูกใช้สก๊อตเทปปิดปากเอาไว้ สถานที่ที่แทบไร้สีแสงด้านในมีเพียงแสงไฟจากด้านนอกต่างที่แตกหักสองสามดวงเท่านั้นที่ส่องเข้ามาอย่างริบหรี่ ความมืดสร้างความหวาดกลัวได้ดีแต่ที่มากกว่านั้นก็คือความเป็นห่วงน้องสาวที่ถูกจับมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะถูกไปอยู่ที่ไหน จะถูกทำอะไรไม่ดีร้ายแรงไปหรือเปล่า
ระหว่างที่กำลังนั่งคิดเป็นห่วงน้องสาวประตูด้านหน้าก็ถูกเปิด ปรากฎเป็นร่างของชายฉกรรจ์สี่คนที่จับเธอและน้องสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ยิ่งเข้ามาใกล้ลลิตาก็รู้ว่ามีผู้หญิงอีกคนอยู่ด้านหลังโจรพวกนี้ด้วยจนพวกนั้นถอยออกไปเธอจึงได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ชัดๆ ดูเหมือนจะเป็นคนจ้างคนพวกนี้มาจับเธอ แต่จับมาทำไม
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีและดูมีฐานะจากชุดที่สวมใส่และเธอมั่นใจว่าไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อนแน่นอน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำกับเธอแบบนี้
ลลิตาพยายามจะพูดทั้งที่ปากถูกปิดอีกฝ่ายเห็นว่าน่าสมเพชจึงให้พวกคนที่เธอจ้างมาไปดึงสก๊อตเทปออกและเธอจะได้เห็นใบหน้าของนังผู้หญิงคนนี้ชัดๆ
ทันทีที่มีอิสระได้พูดลลิตาก็ยิงคำถามใส่คนตรงหน้าที่กำลังมองเธออยู่ทันที
"จับฉันมาทำไมแล้วน้องสาวฉันอยู่ที่ไหน!"
"จุ๊ๆ เสียงดังไปทำไมอยู่กันแค่นี้เอง"
ลลิตามองผู้หญิงคนนั้นอย่างโกรธเคืองที่สุดในชีวิต ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายก้มมามองใบหน้าของเธอชัดๆ พร้อมใช้ปลายนิ้วมือมาสัมผัสจับที่คางของเธอให้เงยหน้าขึ้นและเริ่มมีสีหน้าโกรธแค้นขึ้นทันควันแรงบีบที่คางเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนลลิตารู้สึกเจ็บจนจะร้องไห้ออกมา
"เป็นแกนี่เอง ใช่แกจริงๆ"
ลลิตาที่อยู่ในสภาพถูกมัดตัวบนเก้าอี้ไร้หนทางหนีหรือโต้กลับ กำลังขมวดคิ้วไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการสื่อและนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเพราะแรงบีบยังไม่ลดละ
"แกมันมีดีอะไร ห๊ะ! เขาถึงได้เก็บรูปถ่ายแกไว้ราวกับแกคือคนสำคัญของเขาแบบนั้น ตอบฉันสิ!" แรงสบัดมือออกจากคางอย่างแรงทำให้ใบหน้าของลลิตาสะบัดไปตามแรงอย่างช่วยไม่ได้
เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นหมายถึงอะไร หมายถึงใคร เขาคนนั้นคือใคร แล้วรูปคือรูปอะไร รูปของเธอเหรอ…
"คุณพูดอะไรของคุณฉันไม่เข้าใจ"
"คิดจะทำตัวเป็นไม่รู้เรื่องอะไรแล้วคิดว่าฉันจะปล่อยแกงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก"
เธอมองผู้หญิงคนนั้นที่กำลังหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าถือออกมาด้วยแววตาหวาดกลัวปนความไม่เข้าใจในผู้หญิงคนนี้ที่เธอไม่รู้จักมาก่อน สิ่งที่ถูกหยิบออกมาเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง
ปืน!
คิดจะฆ่าแกงกันจริงๆ เลยเหรอ เธอไม่ทำอะไรให้เธอยังไม่รู้เรื่องเลย
"กลัวล่ะสิ" แววตาน่ากลัวพร้อมน้ำเสียงเย็นเรียบกล่าวออกมาทำเอาลลิตาสั่นไหวด้วยความกลัว
"คุณจะทำอะไร อย่ามาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้นะ ฆ่าคนคุณต้องติดคุกนะ!"
"ฮ่าฮ่าๆ ติดคุกงั้นเหรอ ถ้าฉันเอาแกไปฝังในป่าแล้วใครจะรู้ล่ะ กว่าคนที่บ้านแกจะรู้เรื่องป่านนั้นแกไม่เป็นกระดูกไปแล้วเหรอไง ถึงตอนนั้นคิดจะหาความจริงอะไรก็คงยากไปหมด สุดท้ายก็แค่จัดงานศพให้แกเท่านั้นแหละ"
ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมกับเธอเหลือเกิน ไม่คิดจะเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันสักนิด คิดแต่จะฆ่าแกงกันและยังวางแผนล่วงหน้าเอาไว้เรียบร้อย เธอไร้หนทางหนีอย่างสิ้นเชิง หรือเธอจะต้องจบชีวิตลงด้วยอายุยี่สิบห้าปีเองเหรอ เธอยังมีสิ่งที่อยากทำ ยังมีงานอีกมากที่เธอต้องทำ ทำไมเธอต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ด้วย
ปืนกระบอกสั้นสีดำถูกยกขึ้นมาเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ร่างที่ถูกมัดบนเก้าอี้ก่อนจะยิ้มอย่างผู้ชนะ หากเธอกำจัดนังผู้หญิงคนนี้ไป คุณพริษฐ์จะต้องหันมามองสนใจเธอแน่และไม่นานเธอก็จะถูกยกเป็นภรรยาของเขาแน่นอน เป็นคนที่สำคัญที่สุดของเขามากกว่าใครทั้งหมด
"คุณคะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย" ลลิตาเอ่ยขอร้องพร้อมด้วยน้ำตาอย่างกลัวสุดใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะลั่นไกปืนในไม่ช้า
"ทำไมจะไม่มีเรื่องบาดหมาง ไม่ต้องมาพูดจาหว่านล้อมฉันหรอกนะ ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องตายด้วยน้ำมือฉันอยู่ดี"
ทันทีที่ปืนถูกเล็งมาเธออีกครั้ง ลลิตาได้แต่ภาวนาให้มีคนมาช่วยเธอโดยเร็ว ใครก็ได้ เป็นใครก็ได้ที่มาช่วยเธอจะด้วยวิธีไหนก็ขอแค่ให้มีใครสักคนเข้ามาช่วยเพราะเธอยังไม่อยากตายจริงๆ เธอหลับตาอ้อนวอนต่อสวรรค์ขอให้มีปาฏิหาริย์กับเธอเพราะยังไม่อยากจบชีวิตลงในตอนนี้
แต่เหมือนการหลับตาของเธอจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเธอพร้อมแล้วกับการตายด้วยลูกปืนกระบอกนี้
ปัง!
เสียงปืนดังลั่นหนึ่งนัดไปพุ่งเล็งที่ช่วงท้องของร่างนั้นที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลซึมออกมาเปื้อนเสื้อเต็มช่วงท้อง หญิงสาวแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะในครั้งนี้ มันตายแล้วต่อไปนี้คนที่สำคัญที่สุดของคุณพริษฐ์ต้องเป็นเธอคนเดียวเท่านั้น!
คำขอไม่สำเร็จ ไม่มีใครที่ไหนมาช่วยเธอได้เลยสักคน ความเจ็บปวดจากการถูกยิงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของเธอมันเจ็บและทรมานเหมือนจะขาดใจตายในไม่ช้า มันเจ็บจนเธอไม่สามารถลืมตามองคนที่ยิงเธอได้อีกแม้แต่เสียงก็ยากที่จะเอ่ยออกมาได้แต่เหมือนคนที่รอความตายอยู่เฉยๆ ไม่สามารถทำอะไรได้
"เอามันไปฝังในป่าหลังโกดัง"
ชายฉกรรจ์สี่คนรีบทำตามคำสั่งเข้าไปแก้เชือกบนตัวจากเก้าอี้และอุ้มร่างของลลิตาที่เต็มไปด้วยเลือดเข้าไปในป่าก่อนจะจัดการขุดหลุมและเอาร่างที่ยังหายใจรวยรินนั้นโยนไปฝังก่อนจะกลบดินฝังอย่างเย็นชาไร้ความสำนึกผิดชอบชั่วดีใดๆ