EP 6 : ทำให้เด็กมันดู

1204 Words
ตอนที่ 6 : ทำให้เด็กมันดู บรรยากาศในห้องเรียนตึกวิศวะ โต๊ะเรียนแถวหลังสุดเป็นที่ประจำของแก๊งหนุ่มหัวโจก ชาวินท์ เรน และต้นกล้า ไม่มีใครกล้าแย่งเพราะรู้ทั้งสามคนจะนั่งหลังห้องเสมอไม่ว่าจะเรียนห้องไหน ชาวินท์มองอาจารย์ที่สอนหน้าห้องด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แผ่นหลังแกร่งพิงกับพนักเก้าอี้ บนโต๊ะเรียนไม่มีแม้แต่ปากกา หนังสือเรียนไม่ต้องพูดถึง ใช้เป็นพล็อพให้พ่อกับแม่เห็นเท่านั้น ท่อนขาแกร่งเหยียดยาวไปข้างหน้า แทบจะนอนราบไปกับพื้น สายตาคมมองเพื่อนสนิทที่นั่งฟังอาจารย์ราวกับเด็กเรียน มือหนาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมากดเล่นไปพลางๆฆ่าเวลา การเข้าเรียนเป็นอะไรที่น่าเบื่อ "นายชาวินท์รบกวนให้เกียรติอาจารย์ที่กำลังยืนสอนด้วยค่ะ" ชาวินท์เงยหน้ามองอาจารย์คนใหม่ที่สอนอยู่หน้าห้องอย่างไม่สบอารมณ์ ปึก! โทรศัพท์เครื่องหรูถูกวางกระแทกโต๊ะจนเกิดเสียง ใบหน้าคมคายเรียบนิ่ง และแสดงออกถึงความเบื่อหน่าย "ถ้าอยากให้สนใจก็รบกวนสอนให้น่าสนใจสิครับ ถ้าสอนตามหนังสือเรียน พวกเราอ่านเอาเองจะง่ายซะกว่า" ชาวินท์ตอบกลับเสียงเรียบ คงยังไม่รู้ว่าเขาคือใคร ไม่มีอาจารย์คนไหนกล้าพูดแบบนี้ น่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน คงได้ย้ายไปสอนที่ใหม่เร็วๆนี้ ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากและยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เท้าแกร่งเดินไปหน้าห้องเพื่อหาอาจารย์คนใหม่ ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น และไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ สายตาคมมองหนังสือเล่มหนาที่อาจารย์ใช้สอน มองหน้าอาจารย์เพียงนิดและจะใช้มือปัดหนังสือให้ตกลงไปที่พื้นด้วยความก้าวร้าว ก่อนจะเดินจากห้องด้วยท่าทางหยามเกรง ไม่สนใจเสียงก่นด่าของอาจารย์ "หามหาวิทยาลัยใหม่ไว้ด้วยล่ะ อีกไม่นานคงได้ย้าย" ใบหน้าคมคายหันมามองอาจารย์คนใหม่เพียงนิดเมื่อไปยืนบริเวณประตู ริมฝีปากหนาส่งยิ้มให้อาจารย์อย่างเลือดเย็นและก้าวขาออกจากห้องเรียนทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน ชาวินท์เดินเตร็ดเตร่มาอยู่ในพื้นที่ประจำหลังตึกของคณะ ร่างแกร่งนั่งลงบนเก้าอี้และเอนกายด้วยความสบายใจ มือหนาหยิบบุหรี่ราคาแพงออกมาสูบเพื่อคลายความเหนื่อยล้าที่ต้องทนนั่งเรียน ควันสีขาวจากบุหรี่ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ "แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย อุดอู้มาตั้งนาน" สองชั่วโมงต่อมา... กลุ่มคณะวิศวะพากันมารวมตัวอยู่บริเวณที่นัดหมาย โดยมีรุ่นพี่ของคณะเข้าคลุมพื้นที่โดยรอบ เป็นการประชุมและต้อนรับน้องปีหนึ่งอย่างเป็นทางการ ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบไม่มีผิดพลาด ชายหนุ่มร่างสูงนั่งมองทุกคนทำหน้าที่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เมื่ออยู่ต่อหน้ารุ่นน้องชาวินท์มักจะเคร่งขรึม ไม่ชอบให้ใครปีนเกลียว ต่อให้ตัวเองจะอยู่เพียงปีสามยังไม่ใช่พี่โตสุดของรุ่น แต่ไม่มีใครกล้าหือกับเขา คำว่า ผู้นำ ไม่จำเป็นต้องดูที่อายุ แค่มีวุฒิภาวะ และความเพียบพร้อมก็เหมาะที่จะเป็นผู้นำได้ เหมือนกับชาวินท์ตอนนี้ที่รุ่นพี่ปีสี่ยังเกรงกลัว "เอาไงต่อไอ้วินท์" รุ่นพี่ปีสี่ถามรุ่นน้องปีสามเพื่อขอความคิดเห็น "ยังไม่เห็นความเรียบร้อย หรือต้องให้กูลงมือเอง" ชาวินท์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และจ้องมองรุ่นน้องทุกคนที่นั่งอยู่ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดเพียงแค่ชาวินท์พูด ทุกคนไม่กล้าสบสายตา ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มที่สามารถควบคุมคนอื่นได้ ทำให้นึกถึงพ่อตัวเองที่สามารถคุมลูกน้องนับร้อยคนได้ และยังลบคำสบประมาทของยัยอันดา เขาคือผู้นำและทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่ายัยนั่นด้วยซ้ำ "แถวที่สามรองสุดท้ายออกมาหากู" ทันทีที่ชาวินท์ประกาศกร้าวเสียงดังทำเอาทุกคนสะดุ้งเฮือก เด็กปีหนึ่งที่ถูกเรียกวิ่งออกมาจากแถวด้วยความหวาดหวั่น "ครับ" ชาวินท์มองเด็กปีหนึ่งด้วยหางตา และเอื้อมไปกระชากคอเสื้อเพื่อให้มายืนตรงหน้า "ก่อนหน้านี้ให้หัวหน้าห้องไปแจ้งเรื่องระเบียบการแต่งตัวไม่ใช่เหรอ ภายใต้เสื้อช็อปมันควรเป็นเสื้อสีอะไร!" ชาวินท์ตวาดเสียงดังลั่น จนเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ คนอื่นในปีเดียวกันและปีสี่มองการกระทำของชาวินท์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย "สีขาวครับ" เด็กปีหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสั่น "แล้วมึงใส่สีอะไรมา" "สีดำครับ ผมขอโทษครับ เสื้อสีขาวผมไม่แห้ง เลยต้องใส่สีนี้มาก่อน ผมขอโทษครับพี่" เด็กปีหนึ่งยกมือไหว้ "แน่ใจเหรอว่าเสื้อมึงไม่แห้ง ไม่ใช่เพราะมึงต้องการท้าทายกูหรอกเหรอ มึงอยากเด่นในกลุ่มเพื่อนใช่ไหม" "....." เด็กหนุ่มไม่กล้าตอบเพราะมันคือความจริง ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่คิดว่ารุ่นพี่คนนี้จะรู้ทัน "ชะตาขาดตั้งแต่วันแรก" รุ่นพี่ปีสี่พูดกับเพื่อนเบาๆ และส่ายหัว ยอมรับในความรู้ทันของชาวินท์ ทำให้ทุกคนยอมที่จะให้เด็กปีสามอย่างชาวินท์ขึ้นมาเป็นผู้นำคณะ "เด็กมันพึ่งหัดโต มึงก็ใจเย็นดิวะ แบบนี้ขวัญเสียหมด" เรนแซวเพื่อนด้วยรอยยิ้ม คำพูดเหมือนห้ามปรามแต่รู้สึกสนุกที่เห็นเพื่อนทำแบบนี้ "เสียขวัญงั้นเหรอ" "ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ ผมจะทำตามกฎทุกอย่าง ไม่อยากเด่นแล้วครับ" เด็กปีหนึ่งยกมือไหว้ไม่หยุด แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน ตอนแรกอยากท้าทายว่าพี่ชาวินท์จะแน่สักแค่ไหน ตอนนี้รู้แล้วแค่มองสายตาคมคู่นั้นทำเอาเสียวสันหลังวาบ พรึบ ชาวินท์กระชากคอเสื้อเด็กหนุ่มให้เข้ามาใกล้ และใช้สายตาอาฆาตบ่งบอกว่าอย่าท้าทาย ก่อนจะปล่อยให้ตัวเด็กหนุ่มเป็นอิสระ "นี่คือการเตือน! ไม่ใช่แค่มึง..." ชาวินท์ชี้หน้าเด็กปีหนึ่งและชี้กราดไปที่ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น "แต่ทุกคนจงจำไว้ว่าอย่าขัดคำสั่งกูอีก คนที่จะแหกกฎได้มีแค่คนตั้งกฎเท่านั้นคือกู อย่าคิดมาเทียบเคียงกู กูไม่สนใจว่ามึงจ่ายค่าเทอมเพื่อมาเรียนที่นี่แพงแค่ไหน แต่ในเมื่อพวกมึงเลือกที่จะอยู่คณะนี้ มึงต้องก้มหัวให้กู ทำตามคำสั่งกู" ตุ๊บ "อ๊า..." เด็กหนุ่มร้องออกมาเสียงหลง ท่อนขาแกร่งฟาดเข้าที่ขาพับทำให้เด็กหนุ่มปีหนึ่งลงไปคุกเข่ากับพื้น มันคือการสั่งสอนพวกที่อยากลองดี สายตาคมกริบกวาดสายตามองทุกคนด้วยแววตาเรียบนิ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD