11 เพียงแสงสว่างอันริบหรี่ - 1

1939 Words
"นมแม้น! คุณลุงท่านกลับมาหรือยัง!"                               เสียงถามที่่เรียกว่าเกือบเป็นตะโกนด้วยซ้ำ ทำเอาคนมีอายุในช่วงหกสิบแทบทำข้าวของในมือร่วงหล่น ครั้นหันหลังกลับมา สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าตนนั้นก็ทำให้นมแม้นตกใจยิ่งกว่าเสียงดังเมื่อครู่ เพราะสภาพของชายหนุ่มที่...   "ตายแล้วคุณหนู!" นมแม้นอุทาน พลางใช้มือข้างหนึ่งประกบแก้มอีกข้างของดรันเอาไว้ แล้วถามอีก "เกิดอะไรขึ้น! ทำไมแก้มคุณหนูถึงมีรอยนิ้วมืออยู่ครบทั้งห้านิ้ว ใคร! ใครหน้าไหนมันมาตบหน้าคุณหนูของนม! นมจะเอาไปเรื่องมันให้ถึง..."             ดรันรีบปัดมือมือข้างนั้นของนมแม้นออกทันที แล้วบอก "เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะน่านม ที่ผมอยากรู้ตอนนี้ คุณลุงอัศ ท่านอยู่ที่ไหน"                                                                                                      "ย่ะ อยู่ห้องทำงานของท่านหรือเปล่าคะ ว่าแต่มีเรื่องอะไรทำไมคุณหนูถึงดูร้อนรนอย่างนี้"               "ผมมีเรื่องด่วน ต้องเรียนให้คุณลุงทราบ"                                      "เรื่องด่วนอะ..."                                                                               ดรันไม่รอให้ผู้สูงวัยถามจบ เขาก็รีบเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของคุณลุงทันที และขณะเดียวกันอาชาก็กำลังเดินมาทางนี้พอดี ดรันชะงักพลางเรียกชายหนุ่มคนดังกล่าวเอาไว้ "อาชา..."                     "คุณรัน ทำไมหน้าคุณ..." อาชาแสดงอาการประหลาดใจในแบบเดียวกับมารดาของตน                                                  "เอาไว้ก่อน นายรีบตามฉันไปหาคุณลุงด้วยกันดีกว่า เพราะฉันมีเรื่องด่วนมากต้องรีบเรียนท่าน...ไป!"    "เรื่องด่วน?" อาชาพึมพำแล้วสบตากับดรัน เท่านี้อาชาก็คงรู้ว่าเรื่องด่วนที่ว่าคือคงเกี่ยวพันถึงหญิงสาวผู้นั้นอย่างแน่นอน และท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่อีกด้วย ว่าแล้วทั้งสองหนุ่มก็รีบเร่งไปพบประมุขของบ้านอาจณรงค์ทันที                                                                                              เป็นไปตามคาด คุณอัศวินกำลังอ่านรายงานการประชุมประจำเดือนของบริษัทที่เลขาฯนำมาให้ แต่ต้องพักเอาไว้ก่อนเพราะสองหนุ่มที่เข้ามาขอพบตนมีท่าทางร้อนรน ราวกับมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น และเมื่อได้นั่งลงตรงหน้าผู้ที่อยู่ในฐานะคุณลุงแล้ว ดรันก็รีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่ที่ตนโดนพวกโจรเอาไม้ฟาดหัวให้สลบเรื่อยไปจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย                                                                                          ครั้นฟังชายหนุ่มเล่าจนจบ คุณอัศวินก็ต้องถอดแว่นตาออกจากใบหน้าช้า ๆ พร้อมกับจ้องใบหน้าหลานชายอย่างไม่กะพริบตา และก็เผลออ้าปากค้างน้อย ๆ ตามอีก ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมาถึงขนาดนี้เชียว ถึงขนาดที่ว่า หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของตนโดนทำร้ายร่างกายจนสลบปางตาย และตบท้ายด้วยการให้ตนช่วยจัดการเรื่องสู่ขอผู้หญิงคนหนึ่งให้เป็นการด่วน คุณอัศวินนั่งอึ้งไปชั่วขณะด้วยการมองหลานชายอยู่เช่นนั้น กระทั่ง…                  "คุณลุงครับ ผมจะต้อง..." ดรันส่งเรียกให้ท่านมีสติกลับมา ด้วยไม่แน่ใจว่าท่านจะคิดเห็นอย่างไรกับ เรื่องที่เขาจะต้องให้ท่านไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งให้                                                                     "เกิดเรื่องใหญ่ถึงขนาดนี้ ทำไมถึงได้พากันปิดเป็นความลับ" คุณอัศวินถามเสียงเคร่ง เห็นได้ชัดว่ากำลังตำหนิชายหนุ่มทั้งสองตรงหน้าในเรื่องที่ดรันโดนทำร้ายร่างกาย                                                   "เป็นผมเองที่สั่งอาชาเอาไว้ว่าให้ปิดเป็นความลับ เพราะถ้าคุณน้ารุ่งรู้ต้องเป็นเรื่องใหญ่โตแน่ ๆ แล้วจะพานลุกลามไปถึงการขัดขวางไม่ให้ผมกลับไปเจอ...พะนอขวัญอีก"                                              "อ้อ! กลัวโดนขัดขวางความรักล่ะสินะ"                                         ดรันถอนหายใจพลางพยักหน้าขรึม ๆ แล้วอธิบายต่อ "ที่ผ่านมา คุณลุงก็เห็นแล้วว่าคุณน้ารุ่งหวงผมขนาดไหน ผมจะไปสมัครรักใคร่กับใครก็ต้องผ่านการพิจารณาจากคุณน้าอย่างถ้วนถี่ กับผู้หญิงคนนี้ผมจึงไม่อยาก..."    "พอ ๆ เอาเป็นว่าลุงเข้าใจ" คุณอัศวินพยักหน้าอย่างเห็นภาพแล้ว และตอนนี้แสดงว่าดรันจริงจังกับหญิงสาวคนนี้มากทีเดียว "ทางนั้นเขาเสนอเงื่อนไขเรามาสองข้อเท่านั้น"                                                "ครับ"                                                                                       "เรื่องสินสอดที่เขาเรียกร้องกับเถ้าแก่อะไรนั่น ลุงไม่มีปัญหา ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรเลย เอาสิ...หลานชายคนเดียวของลุงจะแต่งงานทั้งที จะปล่อยให้น้อยหน้าคนอื่นได้ที่ไหน แต่เรื่องที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่นี่ คือเรื่องคุณน้ารุ่งของรัน รันก็รู้ใช่มั้ยว่าที่ผ่านมาคุณน้าเราเขาวุ่นวายกับการตามหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับรันมาก..." คุณอัศวินเอ่ยอย่างหนักใจแทน ขนาดตนเพิ่งทราบว่าดรันต้องการจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่งให้ในเร็ววันนี้ตนยังตกใจมาก แล้วนับประสาอะไรกับรุ่งระวีที่หวงหลานชายเป็นที่หนึ่งเล่า "ผมทราบครับ" ดรันรับคำเสียงเคร่งขรึม ก่อนจะแสดงท่าทางจริงจัง และวางตัวให้คุณลุงเห็นว่าเขาโตพอที่จะคิดใคร่ครวญถึงเรื่องสำคัญในชีวิตเรื่องนี้ได้เอง "แต่เรื่องนี้ผมได้คิดมาตลอดว่า ควรเป็นเรื่องที่ผมจะต้องเป็นคนคิดและตัดสินใจเอาเอง เพราะชีวิตจิตใจนี้เป็นของผม ผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของผม ผมไม่คิดจะให้มาร่วมทุกข์ด้วยกัน ผมคิดแค่ว่า... หล่อนเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมจะต้องตื่นมาเจอหน้าทุกเช้าและจะเป็นคนสุดท้ายที่ผมได้เห็นก่อนที่จะหลับตานอน ฉะนั้น ผมควรมีสิทธิ์เลือกผู้หญิงที่ผมรักที่สุดเองไม่ใช่หรือครับ ผมไม่อยากทนทุกข์ทรมานทั้งยามหลับและยามตื่นเมื่อต้องมาเห็นหน้าผู้หญิงที่ผมไม่ได้รัก"   คุณอัศวินรับฟังอย่างนิ่งอึ้งและก็ค่อนข้างคล้อยตามด้วย แต่รุ่งระวีจะยอมฟังเหตุผลเช่นนี้หรือไม่...น่ะสิ                        "ลำพังผมคนเดียวคงโน้มน้าวใจคุณน้ารุ่งไม่ได้ง่าย ๆ แต่ถ้ามีคุณลุงช่วยผมด้วยอีกแรง คุณน้ารุ่งต้องยอมฟังแน่ ๆ ครับ" ทั้งนี้ทั้งนั้น สมัยสาว ๆ คุณน้ารุ่งของเขานั้นเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดมาก แต่ก็ต้องยอมสยบให้กับลุงอัศวิน เพราะอีกฝ่ายมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า จนน่าเกรงขามและน่าเกรงใจ แม้จะชอบแสดงออกอย่างตระแหน่แง่งอนใส่สามี สุดท้ายคุณน้ารุ่งก็ต้องลงให้บุคคลตรงหน้าเสียทุกครั้งไป และเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ดรันเชื่อว่าคุณลุงของเขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้คุณน้าแสนสวยยอมรับว่าที่หลานสะใภ้คนนี้ได้ไม่ยาก "ดังนั้น คุณลุงต้องออกหน้าให้ผมแล้วนะครับ"                                                                  คุณอัศวินถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเจอความฉลาดเป็นกรดของหลานชายเข้าให้ ได้แต่ยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าคาดโทษ พลางส่ายหน้าตามอีกด้วย                                                                                           ดรันเลยเริ่มยิ้มออก แล้วพูดอีกว่า "เอาเป็นว่า แค่ให้คุณน้าไม่เต้นผางเพราะรู้ว่าผมจะไปสู่ขอผู้หญิงคนหนึ่งมาอยู่ที่นี่ เท่านี้ก็พอ ส่วนเรื่องจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ หลังจากนั้นผมเชื่อว่า ด้วยความดีและความน่ารักของพะนอขวัญ จะต้องทำให้คุณลุงและคุณน้าเอ็นดูเมตตาหล่อนได้ไม่ยากครับ"                                                                                                                  คุณอัศวินเสสายตากลับมองหน้าหลานชาย ยามที่เอ่ยถึงแม่หนูคนนั้น น้ำเสียงของดรันดูอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด เท่านี้ตนก็รู้แล้วว่า ดรันคงรักแม่หนูคนนี้มาก "ชื่อเพราะเสียด้วย พะนอขวัญ"                      ไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่านี้ แล้วถอนใจเล็กน้อย เมื่อกลับมานึกถึงคู่ชีวิตของตนบ้าง ด้วยภายนอกที่คนคิดว่ารุ่งระวีรักและเคารพตนมาก แต่ความจริง กว่าตนจะทำให้รุ่งระวียอมลงให้ได้ในแต่ละครั้ง รุ่งระวีก็มักจะตะพึดตะพือให้เรื่องมันลุกลามใหญ่โตไปก่อน แต่ก็นั่นแหละ เพราะแม่หนูคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตหลานชายคนนี้เอาไว้ เท่ากับว่าแม่หนูคนนี้ก็เป็นผู้มีพระคุณต่อตนและรุ่งระวีอยู่ ข้อนี้เองก็น่าจะทำให้รุ่งระวีเห็นใจและยอมรับว่าที่หลานสะใภ้คนนี้ได้ไม่ยาก               "เอาล่ะ งั้นลุงจะค่อย ๆ เกลี้ยกล่อมคุณน้าของรันให้ พร้อมกับจัดหาสินสอดที่สมน้ำสมเนื้อหลานชายคนเดียวที่ ต้องมากกว่าทางนั้นเรียกมาอยู่แล้ว ...เอาล่ะเรื่องผู้หลักผู้ใหญ่ที่หลานอยากได้มาเป็นเถ้าแก่ให้... "                                        ดรันหันไปยิ้มกับอาชาทันที ส่วนคุณอัศวินก็ลุกไปหยิบหนังสือปกแข็งเล่มหนึ่งกลับมาวางลงตรงหน้าดรันและอาชา สองหนุ่มมองหน้ากันทันใด คุณอัศวินจึงรีบอธิบายตามอีกว่า "หนังสือรุ่นของลุงสมัยเรียน เล่มนี้เพิ่งจัดทำใหม่เมื่อปลายปี ข้อมูลในนี้ได้ระบุ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และตำแหน่งงานล่าสุดของแต่ละคนเอาไว้  รายชื่อเพื่อนลุงทุกคนที่อยู่ในนี้ส่วนมากก็เป็นเพื่อนสนิทของลุงทั้งนั้น รันเปิดดูเองว่าอยากได้ใคร ตำแหน่งอะไรไปเป็นเถ้าแก่ให้ก็เอานิ้วจิ้มเลือกมาสักคน จากนั้นลุงจะโทรไปหามัน...กริ๊งเดียวรับรอง ต่อให้เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ที่ไหนมันต้องกลับมาช่วยลุงได้ทั้งนั้น"                                   คุณอัศวินเอ่ยอย่างครื้นเครง เพราะเพื่อนผู้ชายของตนแต่ละคนจะมีความผูกพัน กลมเกลียวกันมาก ต่อให้แต่ใครเป็นใหญ่เป็นโตไปในสายงานไหนก็ตาม หากมีเรื่องไหว้วานกัน ก็มักจะเต็มใจกลับมาช่วยเพื่อนพ้องอย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว  ดรันกับอาชามองหน้ากัน แล้วดูรายนามและตำแหน่งงานเพื่อนของคุณลุงแต่ละท่าน ทำทีปรึกษาอะไรกันบางอย่าง เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว ดรันก็ชี้นิ้วลงไปที่ใครคนหนึ่ง จากนั้นจึงได้หมุนหนังสือเล่มเดิมกลับไปให้คุณลุงดู เพื่อบอกว่า "งั้นผมคงต้องรบกวนคุณลุงสันต์ให้มาเป็นเถ้าแก่ให้ครับ"                                                          "อ้อ ได้ ๆ" คุณอัศวินรับคำ ว่าแล้วก็ยกโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาหมุนเลขหมายที่ปรากฏในหนังสือ สักครู่ใหญ่ ๆ ดรันและอาชาก็ได้ยินคุณอัศวินสนทนากับปลายสายด้วยความสนิทสนมว่า                                                                                       "สันต์หรือ นี่อั๊วเอง...อัศ มีเรื่องจะไหว้วานลื้อให้ช่วยหน่อย คืออีกสักวันสองวันนี้ลื้อพอจะว่างมั้ย เออ... อยากให้มาเป็นเถ้าแก่สู่ขอสาวให้หลานชายของอั๊วน่ะสิ… "                                                     "ได้ ๆ ๆ ขอบใจว่ะ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ! อ้อ...แล้วรถนำขบวนน่ะไม่ต้องเอามานะ มันจะเอิกเกริกไป..." บอกแล้วหันมาขยิบตาอย่างล้อเลียนให้กับหลานชาย "...เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องแถวนั้นเขาจะตกใจไปกันหมด" จากนั้นก็พูดจาเล่นหัวพลางหัวเราะร่วนกับปลายสายอีกเล็กน้อยแล้วก็วางโทรศัพท์ลงที่เดิม                                ดรันรีบยกมือไหว้ขอบคุณคุณลุงของตัวเอง พลางหันมายิ้มอย่างโล่งอกกับอาชา เพราะเรียบร้อยไปอีกหนึ่งเรื่องแล้ว ตอนนี้เรื่องน่าหนักใจก็เหลือแต่เรื่องคุณน้าแสนสวยของตนเท่านั้น! 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD