bc

พะนอรัก

book_age16+
317
FOLLOW
1.5K
READ
others
drama
comedy
sweet
heavy
like
intro-logo
Blurb

'พะนอขวัญ' มองชายหนุ่มตรงหน้า แววตาคู่นั้นบ่งบอกให้หล่อนรู้สิ้นว่าคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่หล่อนประสบอยู่นี้ ทว่า สภาพร่างกายที่ไม่อำนวยนั้น ทำให้เขาไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ๆ ตอบกลับหล่อนมาได้ทั้งสิ้น

แต่ สำหรับพะนอขวัญ หล่อนก็ค่อนข้างพึงพอใจกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี่แล้ว ... เป็นแค่ 'นายใบ้' ที่หล่อนรู้จัก คนที่หล่อนสนิทและไว้วางใจที่จะถ่ายทอดความทุกข์โศกทั้งโลกให้เขาได้รับรู้...เพียงผู้เดียว

"ความจริงแล้ว นายเป็นใบ้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันจะได้ไม่ต้องไปหาที่ระบายความในใจจากใครที่ไหนอีก"

พะนอขวัญ เอ่ยแล้วก็มองเขา จากนั้นก็น้ำตารื้นขึ้นมาเอง

หล่อนก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความอ่อนแอที่ไม่อยากให้เขาเห็น หล่อนจึงไม่เห็นว่า ขณะนั้น ...

มือหยาบกร้านอันเปื้อนไปด้วยดินโคลนของนายใบ้ ที่ยกขึ้นมาหมายจะเกลี่ยหยาดน้ำพราวบนแก้มหล่อนให้ใจแทบขาด แต่เขาก็ทำไม่ได้ ที่ทำได้ก็เพียงแค่ส่งเสียงร้อง "แอะ แบ๊ะ! แบ๊ะ! ..." เท่านั้น...

เพราะเขาตกอยู่ในสภาพของ 'นายใบ้' ผู้ที่หล่อนบอกว่าได้มอบความไว้วางใจที่สุดให้เสียแล้ว!

chap-preview
Free preview
บทนำ
กรุงเทพมหานครฯ พุทธศักราช 2506 "เสร็จแล้ว...ยกไปรอขวัญที่ท่าน้ำได้เลยค่ะ เดี๋ยวขวัญล้างไม้ล้างมือแล้วจะรีบตามไป" หญิงสาวในวัยสิบเก้าปีหมายถึงสำรับเป็นห่อ ๆ ที่ได้จัดลงถาด อันมีทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้และดอกกล้วยไม้ รวมถึงเข้าสุกร้อน ๆ อีกหนึ่งโถด้วย ทั้งหมดหล่อนได้ลุกขึ้นมาตระเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เช้าตรู่ สำหรับการตักบาตร ที่จัดว่าเป็นกิจวัตรที่หล่อนทำเป็นประจำทุกวันมิได้ขาดอยู่แล้ว หญิงในวัยห้าสิบกว่าปี ขยับตัวมารับถาดดังกล่าวแล้วส่งต่อให้สามีตนถือ และให้เดินล่วงหน้าไปรอที่ท่าน้ำก่อน จากนั้นตัวเองก็ยกส่วนที่เหลือตามไป ในขณะที่หญิงสาวคนเดียวก็หันมาตักน้ำจากโอ่ง ล้างไม้ล้างมือให้ปราศจากกลิ่นคาวจากการปรุงอาหาร เมื่อเรียบร้อย กำลังจะรีบตามคนทั้งสองไปที่ท่าน้ำของบ้านอยู่แล้วเชียว แต่ ... คนสนิทที่เป็นคนรับใช้เก่าของคุณพ่อ ที่เดินไปที่ท่าน้ำได้ไม่นาน ก็วิ่งหน้าตาตื่นขึ้นมาเรียกหล่อนว่า "คุณขวัญ ๆ! แย่แล้วๆ!" "อะไรคะลุงชด?" ลุงชดนี่ก็คือคนที่เคยทำหน้าที่ขับรถให้คุณพ่อของหล่อน "ไปดูเองเถอะครับ! ใครก็ไม่รู้ มานอนตายอยู่ที่ท่าน้ำของเรา" "ห๊ะ!" คิ้วสวยได้รูปของหญิงสาวขมวดเข้าด้วยกันทันใด พอเช็ดไม้เช็ดมือเสร็จก็รีบตามลุงชดไปยังท่าน้ำทันที หล่อนมาถึงก็เห็นเรือเอี๊ยมจุ้นลำเก่า ๆ โทรม ๆ ลำหนึ่งลอยมาติดอยู่กับท่าน้ำ เห็นป้าช้อยภรรยาลุงชด ยืนอยู่ตรงหน้าเรือด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ครั้นหญิงสาวลงบันไดไปหา จึงรีบถามผู้อาวุโสว่า "มีอะไรคะป้าช้อย?" "นายใบ้  นายใบ้มานอนตายที่ท่าน้ำ" เอ่ยแล้วก็ชี้ไปยังเรือเอี๊ยมจุ๊นลำเก่า ๆ ตรงหน้า สีหน้าดูหวาดกลัวด้วย "นายใบ้...นายใบ้ที่ไหนกัน?" หล่อนถามอย่างสงสัย "ก็...นายใบ้ครับ คุณขวัญ เป็นพ่อค้า..." เสียงของลุงชดที่ตามมาไม่ห่างพยายามจะอธิบาย นายชดบอกมาเท่านี้ หญิงสาวก็รีบลงไปในเรือลำดังกล่าวโดยไว หล่อนจึงเห็นผู้ชายร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีดำนอนคว่ำหน้าลง และเสื้อเชิ้ตสีขาวนั้นก็มีแต่เลือด ทีแรกหล่อนก็ตกใจจนเกือบตั้งตัวไม่ได้ ทว่า สติบางอย่างทำให้หล่อนต้องค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ เห็นเขานอนคว่ำหน้าอยู่ จึงพยายามสอดนิ้วมือเข้าไปที่ใต้จมูกโด่งนั่น แล้วจึงรีบหันไปบอกผู้อาวุโสทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า "เขายังไม่ตายนี่คะ!  ยังหายใจอยู่ ลุงชด ป้าช้อย มาช่วยกันหน่อยเร็ว!" "ช่วย? ช่วยแบบไหนคะคุณขวัญ!" นางช้อยสั่นหน้า ค่อนข้างจะไม่อยากจะยุ่งด้วย ทว่า  หญิงสาวก็ใช้น้ำเสียงที่เข้มกลับมาทีเดียว "ก็ช่วยพากันเอาเขาขึ้นไปจากเรือก่อน เร็ว! ขืนช้าเขาอาจจะตายอยู่ในเรือนี่จริง ๆ ล่ะ!" "จะ จะดีหรือคะคุณขวัญ เกิดคุณรำพึงรู้เข้า โดนเอ็ดอีกแน่ ๆ" นางช้อยยังส่ายหน้า พยายามให้หญิงสาวฉุกคิดถึงอีกเรื่อง "...จะให้ขวัญปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าต่อตาหรือ! ไม่ต้องพูดมากแล้ว เกิดอะไรขึ้นมาขวัญจะรับผิดชอบเอง เอาเขาขึ้นไปที่บ้านเร็ว!" คำพูดเฉียบนั้น ถือเป็นคำสั่ง ทั้งนายชดและนางช้อยไม่อาจจะขัดใจหล่อนได้ ทั้งสองจึงเข้ามาช่วยกันพยุงตัวชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นจากเรือเอี๊ยมจุ๊นลำเก่าคร่ำครึนี้ ด้วยน้ำหนักตัวของร่างสลบนิ่งนั้นไม่เบาทีเดียว ทำให้นายชดและนางช้อยที่มีอายุเกือบหกสิบปีมีความลำบากต่อการพยุงเขาขึ้นไปอยู่ไม่น้อย กระทั่งคนทั้งสองได้พยุงร่างที่สลบนิ่งมาถึงเรือนไม้ทั้งหลังตรงหน้า จึงพากันรีบวางอีกฝ่ายนอนลงกับพื้นฝากระดาน แล้วบ่นอุบไปตาม ๆ กันว่าผู้ชายคนนี้หนักจริง ๆ "คุณขวัญ จะทำอย่างไรต่อไปคะ" พะนอขวัญนั่งลงใกล้ ๆ  ร่างสูง พลางหันกลับไปสั่ง  "ป้าช้อยไปหาผ้าสะอาดและน้ำฝนมาให้ขวัญนะ เขาหัวแตก ไม่แน่ใจว่าเลือดจะหยุดไหลแล้ว ขวัญจะดูแผลเขาหน่อย" หล่อนบอกเพราะสังเกตได้จากคราบเลือดที่แห้งติดกับผมสั้น ๆ เป็นคราบ ๆ  ดูจากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีแต่คราบสีแดงอยู่ก็รู้ว่าคงเสียเลือดไปไม่น้อย​ นางช้อยจึงรีบทำตามคำสั่งกลาย ๆ โดยเดินไปตักน้ำจากโอ่งดินเผา แล้วหาผ้าขาวสะอาดมาให้หญิงสาวตามคำสั่ง "เอาล่ะ ช่วยกันพลิกตัวเขาหน่อย แผลอยู่ตรงท้ายทอย ขวัญจะดูแผลเขาก่อน" "มีเรื่องกับใครมาหรือเปล่านี่ เกิดเป็นผู้ร้าย จะทำเราลำบากนะ คุณขวัญ" นางช้อยบอกระหว่างช่วยกันกับนายชดพลิกร่างหนา ๆ ขึ้นมา "ไม่ นายใบ้คนนี้ เป็นคนดี ฉันเคยได้ยินชาวบ้านพูดถึงอยู่บ่อย ๆ  ขยันทำมาหากิน ซื่อสัตย์มีน้ำใจ ไม่น่าจะมีเรื่องกับใครมาหรอก" นายชดรีบแย้ง ภรรยาที่ไม่เต็มใจจะให้ช่วยคนแปลกหน้าขึ้นมาจากเรือตั้งแต่แรก จึงรีบว่ากลับไป "แกรู้จักรึ...นายใบ้นี่" "ไม่ใช่ว่าจะรู้จัก แต่เคยได้ยินเขาพูดถึงมันอยู่ นายใบ้นี่ก็พายเรือไปตามแม่น้ำ ตามคลอง ล่องเรือไป ๆ มา ๆ  ระหว่างทางก็รับของจากที่นั่นที่นี่มาขายไปด้วย แล้วเอ็งจะกลัวอะไรนักหนา ช่วยชีวิตคนได้กุศลแรงออก" "กลัวสิ  ลำพังพวกเราไม่เท่าไหร่ แต่คุณขวัญน่ะซิ..." ว่าแล้วก็เบือนสายตาไปทางหญิงสาวที่นั่งใกล้ ๆ พะนอขวัญเหลือบมองผู้อาวุโสที่สนทนากันอย่างเป็นกังวลกับตัวหล่อน แต่หล่อนก็ไม่ได้อาทรมากกว่าการจะช่วยชีวิตคนตรงหน้า หล่อนกำลังใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาด ๆ  เช็ดเอาคราบเลือดที่ติดตามผม ตามใบหน้าของชายคนนี้ออก แล้วก็ตอบไปในเรื่องที่ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองเป็นกังวลนี่เองว่า "คุณแม่ไม่รู้หรอก ปกติท่านก็ออกจากบ้านแต่หัวค่ำ พอจะกลับมาก็เกือบเช้า และเมื่อมาถึงก็นอนเอาแรงทั้งวันจนถึงเย็น ก็ออกจากบ้านอีก ไม่ค่อยมาข้องเกี่ยวกับเรือนนี้หรอก  พวกเราก็อย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดที่ไหนก็แล้วกัน" "แต่คนที่ที่บ้านหลังใหญ่นั่น... "  นางช้อยเอ่ยเสียงเบา ด้วยไม่มั่นใจว่าเรื่องที่ช่วยคนแปลกหน้าขึ้นมาที่นี่ จะเก็บไว้เป็นความลับได้นานเท่าใด ขณะนั้นพะนอขวัญก็ค่อย ๆ เปิดผมตรวจดูบาดแผลของเขา และเห็นแล้วว่าแผลไม่ได้กว้างอย่างที่กังวล อีกอย่างก็เริ่มแห้งแล้ว แต่ ถึงอย่างไรหล่อนก็ต้องหาผ้าสะอาดมาพันเอาไว้เสียหน่อยจะดีกว่า "ป้าช้อย ลุงชด เดี๋ยวช่วยกันตัดผ้านี่แล้วพับเป็นชั้น ๆ ให้ขวัญหน่อย อ้อ ไม่ต้องให้หนามากนะ ขวัญจะได้โพกไว้ปิดบาดแผล เผื่อเขาขยับตัวอะไรจะช่วยไม่ให้แผลปริออก แล้วจะช่วยห้ามเลือดได้อีกทาง" "ค่ะ คุณขวัญ" แล้วสองสามีภรรยาจึงรับผ้าอีกผืนจากมือหญิงสาวไป กำลังช่วยกันใช้กรรไกรตัดตามคำบอกนั้น  แล้วรีบยื่นผ้าคืนให้ พะนอขวัญรับผ้านั้นมาก่อนจะขยับศีรษะชายหนุ่มวางลงกับตักนุ่มของตัวเอง ท่ามกลางสายตาของนางช้อยที่มองด้วยความขัดใจนัก จากนั้น ก็ใช้ผ้าสะอาดอีกชิ้นชุบน้ำในขันเงินเย็น ๆ แล้วเช็ดไปตามหน้าตาของเขา ที่ยังมีคราบเลือดติดออกให้หมด อย่างอ่อนโยน ด้วยความมีเมตตา หล่อนจึงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าแค่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากมาก็เท่านั้น จากนั้นมือบางค่อย ๆ  สอดผ้าสีขาวไว้ตรงท้ายทอยแล้วมัดเอาไว้ให้ ไม่หลวม และไม่แน่นจนเกินไป ความเย็นที่ได้รับสัมผัสได้ตามใบหน้า คาง ทำให้เจ้าของศีรษะพยายามปรือดวงปรือขึ้น แม้จะดูพร่าลางเลือนกับภาพตรงหน้า ทว่า เขาก็ยังได้เห็นใบหน้างามหมดจดตรงหน้า และเพียงชั่วขณะเท่านั้น  ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ปิดเปลือกตาทั้งสองลงตามเดิม เนื่องด้วยความอ่อนล้าของร่างกาย และอาการรุม ๆ ตามเนื้อตัวคล้ายจับไข้ขึ้น และแม้สองตาจะปิดลงไปแล้ว แต่หูทั้งสองของเขาก็ยังได้ยินเสียงบทสนทนาของคนทั้งสามที่ดังข้ามศีรษะตนไปมาอยู่ว่า "ท่าทางจะโดนโจรปล้น แล้วถูกฟาดกบาลมาหรือเปล่า?" นายชดแสดงความคิดเห็น "ทำไมถึงคิดว่าจะโดนโจรปล้นล่ะ ตาแก่"  นางช้อยถามกลับ "ก็ใคร ๆ ก็ร่ำลือว่านายใบ้นี่มันมีเงินเก็บเอาไว้ในเรือเยอะเชียวนา เป็นผลมาจากความขยันหาของค้าขายไปตามแม่น้ำ ตามลำคลองนั่นน่ะ" "เออ แต่สภาพมันอนาถานะ ดูเรือที่มันอยู่สิ เก่าผุผังจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามันมีเงินจริง ทำไมไม่ซื้อเรือ ทำเรือให้มันดี ๆ ไหน ๆ มันก็อาศัยเรือเป็นที่อยู่ที่กินของมันอยู่แล้วนี่" นางช้อยไม่วายสงสัย "ก็ไม่รู้ บางทีมันอาจจะประหยัด ขี้เหนียว... เหมือนแกไง ยายช้อย" ผู้ที่เป็นสามียื่นหน้าไปกระเซ้ากลับ ด้วยใคร ๆ ก็รู้นางช้อยภรรยาตนขึ้นชื่อในเรื่องความประหยัดนี้มาก "เดี๋ยวเถอะ ตาแก่!" "ทะเลาะกันอีกจนได้" พะนอขวัญรีบปรามคนทั้งคู่ แต่ไม่จริงจังนัก เพราะถือว่าการกระเซ้าเย้าแหย่กันเป็นเรื่องปกติของทั้งสองอยู่แล้ว   จากนั้นหล่อนก็รีบตัดบท "เอาล่ะเรียบร้อยแล้ว ดีนะ ที่แผลไม่ลึกมาก และเลือดหยุดไหลเร็ว  ท่าทางจะสลบมาตั้งแต่เมื่อคืนน่ะค่ะ" หญิงสาวเหลือบเห็นหมอนที่นายชดชอบนำมาหนุนนอนยามว่าง จึงชี้ไปที่หมอนใบนั้น "หยิบหมอนนั่นมาให้ขวัญหน่อยค่ะ" ครั้นได้หมอนมาหล่อนก็ค่อย ๆ ขยับศีรษะของเขาลงอย่างเบามือ แล้วเสียงของนางช้อยก็ถามขึ้นมาอีกว่า "ต่อไปจากนี้ จะทำอย่างไรคะ คุณขวัญ จะให้นายใบ้นอนพักอยู่ที่นี่หรือไง" หล่อนมองชายหนุ่มตรงหน้า ตรึกตรองไม่นานก็บอกกับนางช้อยคนสนิทว่า "ก็ช่วยเขาขึ้นมาแล้ว จะไล่ให้ลงไปนอนที่เรือให้ยุงรุมกัดตายอีก แล้วทีแรกจะช่วยเขาขึ้นมาให้เสียเวลาทำไม ให้นอนพักที่นี่ล่ะค่ะ นอนชั้นล่างตรงนี้ ป้าช้อย กับลุงชดก็ช่วยกันดูแลหน่อยก็แล้วกัน  ถ้าเขาได้สติ หายดีเมื่อไหร่ คอยว่ากันอีกที" "ค่ะ คุณขวัญ" นางช้อยรับคำอย่างไม่เต็มใจนัก ด้วยเหมือนกับได้รับรู้อยู่ลาง ๆ ว่า การช่วยชายแปลกหน้าที่มีนามว่า นายใบ้ ขึ้นมาจากเรือลำนั้นแล้ว นับจากนี้ไปชีวิตของคุณ พะนอขวัญ ของตน จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว… .

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook