เมื่อมาถึงบ้าน
ดรันที่พยุงหญิงสาวมา และก็พบว่า มารดา พี่สาวใจร้าย และลุงใจโฉด พร้อมด้วยทรงยศอีก ทุกคนก็กำลังก็รอหญิงสาวอยู่เช่นกัน ตอนนี้คนทั้งหมดได้มองหญิงสาวและชายหนุ่ม ด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสุรทินที่ถูกดรันต่อยเข้าที่ใบหน้าอยู่หลายหมัดจนใบหน้ามีสภาพยับเยิน แววตาที่มองเขาและหญิงสาวยังแฝงไว้ด้วยความอาฆาตอีกด้วย!
ดรันค่อย ๆ ปล่อยตัวหล่อนให้เดินไปหาผู้เป็นแม่ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นซ้ำอีก รำพึงเดินเข้ามาตบตีที่ตัวลูกสาวคนเล็กด้วยความโกรธจัด
"นังลูกสาวตัวดี! แกหายไปกับผู้ชายมาทั้งคืน จะให้ฉันคิดอย่างไร!"
"จะให้คิดอย่างไร ... ลูกสาวคนเล็กของแม่ ก็คงไม่เหลือความบริสุทธิ์อีกแล้วล่ะค่ะ" สกาวใจรีบประสมเสียงอย่างเยาะหยันอีก ตั้งใจจะให้ทรงยศคิดไปถึงขั้นนั้น เพื่อที่เขาจะได้รังเกียจพะนอขวัญให้มากขึ้นไปอีก
"มัน...ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะแม่!" หล่อนบอกพร้อมกับหันไปมองสุรทิน อีกฝ่ายจึงร้อนตัวเลยรีบพูดขึ้นว่า
"แม่ของหลานรู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ ลุงเห็นนั่งหลานรถออกไปกับนายใบ้ กลัวว่าหลานจะโดนล่อลวงจึงรีบตามไปช่วย แต่ใครจะไปรู้ว่าหลานสมยอมไปกับนายใบ้เอง แถม... ยังให้มันมาต่อยหน้าลุงจนยับเยินแบบนี้อีก"
พะนอขวัญตกตะลึง สุรทินกำลังพูดโป้ปดใส่ร้ายทั้งหล่อนและนายใบ้อย่างหน้าตาเฉย หล่อนจึงรีบอธิบาย "แม่คะ! ไม่ใช่อย่างนั้น ขวัญและใบ้เรา..." หล่อนเหลียวไปมองนายใบ้ เพื่ออยากให้เขาช่วยยืนยันถึงเรื่องนี้อีกคน ทว่า ชายหนุ่มกลับเงียบ ดูตั้งใจจะให้ทุกคนคิดว่าเขากับหล่อนมีอะไรกันไปแล้ว
"จะให้ฉันเชื่อแกหรือนังลูกไม่รักดี!" รำพึงว่าแล้วตีเข้าที่ตัวหญิงสาวอีก "...หน็อย นึกอยู่แล้วเชียว ที่ชอบให้นายใบ้มาช่วยงานอยู่บ่อย ๆ ที่แท้ก็มีใจให้มัน ฉันนี่มีกรรมเหลือเกินที่มีลูกใฝ่ต่ำอย่างแกนี่!"
ดรันรีบเข้าไปช่วยหญิงสาวออกมาจากมารดา แต่เขาก็สุรทินกับทรงยศรีบมารวบตัวเขาเอาไว้ จากนั้นชายหนุ่มก็ถูก สุรทินต่อยเข้าที่ท้องอีกหลายหมัดจนจุกแล้ว ทรุดลงบนพื้นดิน หญิงสาวปราดจะเข้ามาหาเขา แต่ก็ถูกรำพึงกระชากตัวออกไปทันที
"มานี่! จะไปหามันทำไม! อยู่ด้วยกันทั้งคืนยังไม่พอใจอีกหรือ!"
"แม่คะ ขวัญกับใบ้เราไม่ได้มีอะไรกัน!"
"ไม่ต้องรีรออะไรแล้ว!" เสียงของสุรทินตะโกนบอก แล้วรวบตัวไอ้ใบ้ขึ้นมา "อีกไม่กี่วันเสี่ยย้งจะกลับมาแล้ว รีบจับลูกสาวคนนี้ใส่ตะกร้าล้างน้ำ แล้วส่งให้เสี่ยย้งไปเลย ขืนชักช้าเกิดท้องไส้ขึ้นมาจะพากันขายขี้หน้าชาวบ้านเปล่า ๆ" แล้วว่าก็หันไปทำหน้าตาสาแก่ใจให้กับไอ้ใบ้นี่อีก
รำพึงหันมามองหน้าพี่ชายแล้วพยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็คิดอย่างนั้นล่ะ อีกห้าวัน เมื่อเสี่ยย้งกลับแล้ว ฉันจะพาลูกไม่รักดีคนนี้ไปส่งให้ถึงมือเสี่ยเขาเลย"
เสี่ยย้ง ? เสี่ยย้งอะไรกัน! หมายความว่า! ดรันหันไปมองหน้าพะนอขวัญอย่างตกตะลึง
รำพึงจึงรีบขยายความว่า "ฉันจะยกพะนอขวัญให้เป็นเมียอีกคนของเสี่ยย้ง เขามาทาบทามไว้นานแล้ว พร้อมกับสินสอดสองแสน"
"ไม่นะคะแม่! ขวัญไม่ไป! อีกอย่างขวัญและใบ้เราไม่ได้มีอะไรกัน ใบ้ไปช่วยขวัญจาก...ลุงทินต่างหาก..."
"อะไร? แกจะมาพูดจาเหลวไหลใส่ความลุงแบบนี้ได้เรอะ! ลุงอุตส่าห์ไปช่วยแกจากไอ้ใบ้นี้แท้ ๆ" สุรทินตอบกลับ แล้วลอบลอยหน้าลอยตาให้หญิงสาวเห็นว่า... ใครจะไปเชื่อว่าลุงแท้ ๆ จะทำแบบนี้กับหลานสาวตัวเองได้!
ดรันพยายามจะสะบัดตัวให้หลุดจากการจับกุมของสุรทินกับทรงยศ พลางมองทุกคนอย่างโกรธแค้นและชิงชัง
รำพึงเห็นสายตาและสีหน้าเช่นนี้เข้า จึงเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วตวาดใส่อีกว่า "แกไม่ต้องสะเออะมายุ่งเรื่องนี้! อ้อ หน้าตาแกดูโกรธแค้นพวกฉันมากเลยนะ ก็อย่างนี้แหละยัยขวัญมันเป็นลูกสาวฉัน ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้!"
ดรันมองผู้หญิงใจยักษ์ด้วยแววตาแดงก่ำ รำพึงจึงตบลงที่ใบหน้าเขาหนึ่งฉาด ก่อนจะว่าอย่างดูถูกอีก
"ใครใช้ให้แกมามองฉันด้วยสายตาแบบนี้! คนอย่างแกไม่สมควรมองฉันอย่างนี้ อยากได้ลูกสาวคนนี้ของฉันไปเป็นเมียมากใช่มั้ย!"
ดรันใช้การมองหน้าแล้วขบฟันแทนคำตอบ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มเยาะที่เห็นเขาโกรธจนแทบคลั่ง แล้วเอ่ยด้วยความสะใจอีกว่า "ได้...ถ้าแกเอาเงินมาให้ฉันมากกว่าที่เสี่ยย้งจะให้ เอาสักเท่าไหร่ดี อ้อ! ห้าแสน หึ! แล้วฉันจะยกแม่ลูกคนนี้ให้แกไปเลย"
ดรันใช้การมองอย่างไม่กะพริบตาแทนการยืนยันในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดก่อนหน้า
รำพึงเห็นแล้วขำจึงหัวเราะร่วนอีก เพราะตนมั่นใจว่าชายบ้าใบ้คนนี้คงไม่มีปัญญาหาเงินมาให้ตามที่ตนเรียกร้องแน่ ๆ "ตามนี้ก็แล้วกัน อ้อ! นอกจากเงินห้าแสนบาทแล้ว แกก็ต้องหาคนใหญ่คนโตของบ้านเมืองมาเป็นเถ้าแก่สู่ขอลูกสาวคนนี้ด้วย เพื่อยืนยันว่าแกรักลูกสาวของฉันมากกก... แกทำได้มั้ย!"
ดรันกำมือทั้งสองเป็นหมัดแน่น มองรำพึงด้วยแววตาแข็งกร้าว พลางพยักหน้าหลาย ๆ ทีเพื่อตกลง
รำพึงจึงมองเห็นเป็นเรื่องตลกอีก ก่อนจะหัวเราะเยาะ แล้วสำทับ "ดี! ฉันจะให้เวลาแกอีกสามวัน ถ้าหากภายในสามวันนี้ แกทำได้ตามนี้ก็มารับแม่ลูกสาวคนนี้ไปเลย ฉันจะยกยัยขวัญให้เป็นสิทธิ์ขาดของแก แล้วจะพากันไปอยู่กินที่ไหนก็เชิญไปเลย!"
ดรันเบือนสายตามองไปทางหญิงสาว เขาเริ่มใจเย็นขึ้น... แต่พะนอขวัญ หล่อนกลับก้มหน้าเช็ดน้ำตาอย่างอ่อนล้า นึกถึงแต่ชะตาชีวิตตัวเองที่จะต้องตกไปเป็นเมียน้อยของเสี่ยย้งในเร็ววันนี้ หล่อนเช็ดน้ำตาแล้วจึงวิ่งหนีไปร้องไห้ที่อื่นทันที
ดรันจึงหันกลับมามองหน้ารำพึง สะบัดตัวออกจากการจับกุม พลางยกนิ้วมือขึ้นมาสามนิ้วที่บอกว่า ภายในสามวันหลังจากนี้เขาจะกลับมาที่นี่ พร้อมกับข้อเรียกร้องที่รำพึงต้องการ จากนั้นก็รีบวิ่งตามหญิงสาวไป
"ทำไมถึงไปบอกมันแบบนั้น!" สุรทินต่อว่าน้องสาวอย่างไม่ค่อยจะพอใจ
ทว่า รำพึงยังคงยืนมองชายหนุ่มและลูกสาวคนเล็กไปอย่างใจเย็น พลางหันมาบอกพี่ชายว่า "พี่เชื่อหรือว่าไอ้คนจรหมอนหมิ่นอย่างไอ้ใบ้นั่นมันจะหาเงินตั้งมากมายได้ภายในเวลาสามวัน อีกอย่างอีกตั้งห้าวันแน่ะกว่าที่เสี่ยย้งจะกลับมา ช่วงนี้เราก็หาอะไรสนุกๆ ทำรอไปก่อนซิ ฉันอยากจะเห็นน้ำหน้าไอ้ใบ้ว่า คนชั้นต่ำอย่างมันจะหาเงินมากองตรงหน้าเราได้มากแค่ไหนกันเชียว อีกอย่างสารรูปอย่างมันจะไปหาคนใหญ่คนโตที่ไหนมาเป็นเถ้าแก่สู่ขอให้อีก หึ! พี่ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะฉันเชื่ออยู่แล้วว่ามันจะทำไม่ได้ เลยให้สัญญากับมันไปอย่างนั้น และสุดท้าย ยัยขวัญก็ต้องไปเมียอีกคนของเสี่ยย้งเหมือนเดิมน่ะแหละ จากนั้นพวกเราก็จะมีเงินทองมาใช้จ่ายอย่างสุขสบายไปด้วยกัน"
"เออจริง..." สุรทินพึมพำ ก่อนจะมองหน้าน้องสาวแล้วยิ้มอย่างรื่นรมย์ตามทันที...
"ทำไม ทำไมถึงไม่ช่วยฉันปฏิเสธ ว่าฉันและใบ้ เราไม่ได้มีอะไรกัน"
พะนอขวัญที่หลบมาร้องไห้ที่ท่าน้ำได้เอ่ยตัดพ้อชายหนุ่มที่มานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า หล่อนสบตาเขา เห็นว่าแววตาคู่นั้นบ่งบอกให้หล่อนรู้สิ้นว่าคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่หล่อนประสบอยู่นี้ ทว่า ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่อำนวยทำให้เขาไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดๆ ตอบกลับหล่อนมาได้ทั้งสิ้น
แต่ สำหรับพะนอขวัญ หล่อนก็ค่อนข้างพึงพอใจกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี่แล้ว ... เป็นแค่'นายใบ้' ที่หล่อนรู้จัก คนที่หล่อนสนิทและไว้วางใจที่จะถ่ายทอดความทุกข์โศกทั้งโลกให้เขาได้รับรู้.. .เพียงผู้เดียว "ความจริงแล้ว นายเป็นใบ้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันจะได้ไม่ต้องไปหาที่ระบายความในใจจากใครที่ไหนอีก เพราะถ้าให้เลือกระหว่างอยู่กับเสี่ยย้งหรือใบ้ ฉัน...ฉันขอไปอยู่กับใบ้จะดีกว่า แต่..."
หญิงสาวน้ำตาไหล เพราะมองทางไหนก็ไม่มีทางที่ชายบ้าใบ้คนนี้จะหาเงินจำนวนมากมายให้มารดาหล่อนได้ "ฉันอยากหนีไปจากที่นี่...ใบ้พาฉันหนีไปได้มั้ย ฉันไม่อยากไปอยู่กับเสี่ยย้ง ฉันไม่ต้องการตกนรกทั้งเป็น!" เพราะหล่อนรู้จักเสี่ยย้งดี เขาเป็นชายแก่ที่มากตัณหาราคะ พอ ๆ กับสุรทิน
ดรันรู้สึกซาบซึ้งใจ ในที่สุดหล่อนก็เลือกเขา ในฐานะนายใบ้คนนี้ เลือกจากสิ่งที่อยู่ภายใน โดยมองข้ามเรื่องความพิการไม่สมประกอบไป
ขณะที่พะนอขวัญได้ก้มหน้าลง เพื่อซ่อนความอ่อนแอที่ไม่อยากให้เขาเห็น หล่อนจึงไม่เห็นว่า ขณะนี้ …
มือหยาบกร้านอันเปื้อนไปด้วยดินโคลนของนายใบ้ ยกขึ้นมาหมายจะเกลี่ยหยาดน้ำพราวบนแก้มหล่อนให้ใจแทบขาด แต่เขาก็ทำไม่ได้ ที่ทำได้ก็เพียงแค่ ส่งเสียงร้อง "แอ๊ะ แบ๊ะ! แบ๊ะ!..." เท่านั้น...
เพราะตอนนี้เขายังตกอยู่ในสภาพของนายใบ้ ผู้ที่หล่อนบอกว่าได้มอบความไว้วางใจที่สุดให้แล้ว! ก่อนจะลงเรือลำทรุดโทรมไป ดรันได้จับมือหล่อนข้างหนึ่งขึ้นมาบีบเบา ๆ พะนอขวัญสบตาเขา เห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นที่กำลังถ่ายทอดว่าให้หล่อนจงวางใจแล้วอยู่ที่นี่รอเขา เพราะอีกสามวันเขาจะกลับมาหาหล่อนอย่างแน่นอน!
จากนั้นชายหนุ่มก็ลุกขึ้น แล้วเดินลงเรือไปด้วยความหนักใจไม่น้อย ไม่ได้หนักใจเรื่องเงื่อนไขที่มารดาหล่อนต้องการหรอกเพราะเงินจำนวนเพียงเท่านี้ แค่ดีดนิ้วเขาก็สามารถเนรมิตมันขึ้นมาได้แล้ว แต่ที่เขากำลังหนักใจคือ การกลับมาหาหญิงสาวอีกครั้งในฐานะ ‘ดรัน อาจณรงค์’ ไม่ใช่ ‘นายใบ้’ คนที่หล่อนบอกว่าไว้ใจที่สุดอีกแล้ว พะนอขวัญจะตกใจแค่ไหนเมื่อต้องรู้ความจริงแล้ว ที่สำคัญที่เขากลัวที่สุด ว่าหล่อนจะโกรธ จะเกลียดเขาหรือเปล่า... ดรันถอนหายใจแรง ๆ เพื่อปลอบใจตัวเองว่า
เอาเถอะ รอให้ถึงเวลานั้นเสียก่อน อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป ขอให้ช่วยเหลือหล่อนออกมาจากบ้านหลังนี้ได้...ก็พอ!