ในความมืดสลัว เธอเห็นฝ่ายหญิงคุกเข่าขนานไปกับที่นอนหันหน้าเข้าฝาผนังด้านหัวเตียง ฝ่ายชายคุกเข่ายืดลำตัวตรงซ้อนอยู่ข้างหลัง มือของผู้ชายจับที่เอวคอดกิ่วกระแทกเข้าหาท่อนเอ็นใหญ่ยาวของเขา ที่มันวาววับสะท้อนแสงไฟสีนวลจากโคมไฟเล็กๆทางหัวเตียง ขนาดของฝรั่งคนนี้มโหฬารมาก มิน่าเล่ารัญญาถึงได้ร้องโอดโอย
‘นี่ถ้าเป็นเธอเองโดนแบบนี้คงได้ตายก่อนถึงสวรรค์แน่ ทำไมเพื่อนของเธอถึงทนเจ็บได้นะ เพื่อเงินแค่นั้นหรือ ถึงได้ยอมเจ็บ’
ทว่านาทีต่อมา เสียงของเพื่อนรักก็เปลี่ยนไป มีความกระเส่า ดูเหมือนกำลังรู้สึกรู้สมไปกับผู้ชายตัวโตๆคนนั้น
รัญญายังครวญครางออกมาอีกหลายครั้ง โดยที่คนแอบฟังและแอบดู ฟังไม่รู้เรื่อง แต่กลับทำให้เธอรู้สึกใจเต้นตึกๆ ตลอดช่วงเวลาที่มองสองร่างโยกเข้าหากัน และใจเต้นแรงมากขึ้น เมื่อพวกเขาเร่งความเร็วในการสอดใส่ และเปล่งเสียงแห่งความเสียวซ่านแข่งกัน เป็นเวลาหลายนาที
กระทั่งได้ยินเสียงหัวเตียงกระแทกฝาผนังดังกึกๆ รัวเร็ว ถ้ำมองสาวก็รู้สึกถึงความฉ่ำแฉะที่หว่างขาของเธอ จะไม่ให้แฉะได้ยังไง ในเมื่อเธอเองก็เคยรู้จักความรู้สึกแบบนั้นมาก่อน การร่วมรักอย่างเร่าร้อนของสองคนนั้น เหมือนกำลังเรียกความรู้สึกในครานั้นของเธอให้กลับคืนมาอีกครั้ง และมันเข้มข้นมาก
พะแพงไม่อยากยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอกำลังต้องการ... แบบสุดๆ และกำลังใจเต้นระทึกไปกับพวกเขาที่กำลังต่างตะเกียกตะกายไปให้ถึงสวรรค์
ฝ่ายชายกระแทกกระทั้นอัดใส่สะโพกกลมมนแรงมากจนร่างเล็กหัวสั่นหัวคลอน รัญญาก็ครางดังขึ้น เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด
ร่างใหญ่ถาโถมโจนจ้วงเข้าหาสะโพกงอนนั้นอีกหลายทีแบบเข้าสุดออกสุด จนคนแอบมองในมุมมืดรู้สึกเสียวแทน จนใจสั่นตัวสั่นไปหมด บางอย่างกลางกายกำลังตอดรัดเหมือนใกล้จะถึงสวรรค์เช่นกัน แต่คงไม่มีทางไปถึง คงต้องค้างคาอยู่แบบนี้ เพราะเธอยังหาทางลงให้ตนเองไม่เป็น
ดวงตากลมโตวับวาวในซอกเล็กๆของชายเสื้อยังคงมองสองร่างสอดประสานกันจนถึงวินาทีสุดท้าย ที่รัญญาหวีดร้องออกมาสุดเสียง แล้วกระตุกเฮือกๆยาวนาน พร้อมกับร่างใหญ่คำรามลั่นก่อนจะอัดกระแทกเสยท่อนเอ็นอันเขื่องเข้าหาซอกลึกเร้นนั้นอีกสองสามทีก็แช่นิ่งกายกระตุกเช่นเดียวกันกับรัญญา ที่ตอนนี้นอนฟุบไปกับที่นอน หอบหายใจแฮกๆอย่างเหนื่อยอ่อน
พะแพงถอนหายใจยังไม่ทันจะโล่งอก ยกต่อมาก็เริ่มขึ้น อย่างเร่าร้อนไม่แพ้ยกแรก ‘โอย... นี่เธอต้องรอจนครบชั่วโมงจริงๆเหรอ มันช่างทรมานปวดร้าวหนึบๆไปถึงทรวงในเลย ทำไมนะไอ้ยาถึงไม่เห็นใจเธอบ้าง และไม่นึกอายเลยหรือไงที่ร้องซะลั่นห้องขนาดนั้น’
เสียงครางนั่นคงไม่ใช่มีแค่เธอคนเดียวแน่ที่ได้ยิน แต่ห้องข้างๆ ห้องตรงข้าม ก็คงได้ยินกันอย่างถ้วนทั่ว แล้วคนอื่นจะคิดว่าเป็นเธอหรือเปล่าที่พาผู้ชายมานอนด้วยอย่างสุดสวิงลิงโก้แบบนั้น นึกแล้วไม่อยากเดินออกจากห้องในตอนเช้าเลย
‘ไอ้ยานะไอ้ยา เสพสมกันพอหรือยังเนี่ย ฉันเมื่อยจะแย่แล้วนะ’ พะแพงได้แต่นั่งตัวงอ พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำเสียงใดๆหลุดออกมา หรือเอามือเท้าแขนขาไปชนกับขอบโต๊ะ กลัวว่าสองคนนั้นจะรู้ว่ามีเธอแอบดูอยู่ตรงใต้โต๊ะคอมฯนี่
“แพง คืนนี้ฉันกับมิกจะไปนอนโรงแรมนะ มิกเขาบอกว่าเตียงนี่มันแคบไป แล้วพรุ่งนี้เย็นๆ เจอกันนะ”
รัญญาเปิดผ้าม่านบอกผ่านไปทางหน้าต่าง โดยไม่สนใจว่าเพื่อนรักจะหลบซ่อนอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ไปหยิบชุดชั้นในของตนเองกับเสื้อผ้าสวยๆไม่กี่ชุด พร้อมเครื่องสำอางจัดใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็ก แล้วคล้องแขนแฟนหนุ่มคนล่าสุดออกจากห้องไป
‘ไอ้ยามันจะรู้หรือเปล่าว่าเธอ แอบอยู่ใต้โต๊ะนี่ แต่ก็ช่างเถอะ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การนอนคนเดียวสิเรื่องใหญ่ หากไฟดับขึ้นมาจะอยู่ยังไง รู้สึกว่าเทียนที่ห้องจะไม่มีเสียด้วย’
คนคิดมากมุดออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วรีบไปลงกลอนให้แน่นหนา ภาวนาอย่าให้ไฟดับเลยในคืนนี้
ร่างเล็กเดินไปจัดผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่มจนเรียบร้อยก็รีบคลานขึ้นไปนอน ก่อนนอนก็กราบพระก่อน ภาวนาขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งว่าขออย่าให้ไฟดับเลย
“เพี๊ยง อย่าดับนะเจ้าคะ เพราะคืนนี้ลูกช้างนอนคนเดียวไม่มีเพื่อน ลูกช้างกลัวความมืดมากเจ้าค่ะ แล้วก็กลัวผอสระอีด้วย ฮือ อย่าดับนะไฟจ๋า” กราบอีกสามทีคนขวัญอ่อนก็รีบเอนตัวซุกใต้ผ้าห่ม กอดหมอนข้างแน่น แล้วหลับตาภาวนาให้ตนเองหลับเร็วๆ แต่...
พึ่บ!
“อ๊ายยยย... ทำไมต้องมาดับคืนนี้ด้วย”
ความมืดทำให้พะแพงถึงกับตัวสั่น จินตนาการเริ่มทำงาน
‘กลัวมากที่สุด จะทำยังไงดี’
หญิงสาวคิด บวกลบคูณหาร คิดไปสะระตะจนเริ่มหลอน
‘ไม่ไหวแล้ว เป็นไงเป็นกัน ก่อนที่จะหัวใจวายไปเสียก่อน’
ก๊อกๆ......... ก๊อกๆ
ผาง!