ผมจะจบเรื่องนี้แล้ว

1399 Words
เวลาแห่งความสุขผ่านไปเร็วยิ่งนัก เกือบ 1 อาทิตย์ที่หญิงสาวมาอาศัยอยู่ที่ไร่คิมหันต์ ใช้ชีวิตอยู่กับเขาสองคนประหนึ่งเป็นสามีภรรยากันจริงๆหญิงสาวยืนกอดอกมองทอดสายตาออกไปรอบๆทิวทัศน์ในไร่ บรรยากาศช่างน่ามองยิ่งนักสายลมพริ้วไหวในเวลาตอนเย็นพระอาทิตย์กำลังจะหายลับไปจากขอบฟ้า อากาศดีแบบนี้มันต่างจากบรรยากาศในป่าปูนที่หญิงสาวจากมา ใช่แล้วล่ะ!เธอเริ่มที่จะรักที่นี่ จากที่มาอาศัยได้ไม่กี่วันเธอได้รู้ว่าคิมหันต์เป็นที่รักของคนงานในไร่และชาวบ้านแถบนี้มาก ไร่ของคิมหันต์ ปลูกทั้ง องุ่น ส้ม และพืชผัก ผลไม้ปะปนกันไป และเธอก็ได้รู้ว่าคิมหันต์มีโรงงานแปรรูปผลไม้และพืชผักเป็นของตัวเองอยู่ในตัวเมืองเขารับซื้อวัตถุดิบจากชาวบ้านให้ราคาสูงไปผลิตและส่งออกไปขายต่างประเทศ ไม่ต้องถามว่ารวยแค่ใหน ถ้าได้ส่งน้องสาวไปเรียนต่างประเทศได้ก็ถือว่าร่ำรวยพอสมควร ก็ไม่แปลกที่เขาจะเสียใจและแค้นใจจากการที่น้องสาวคนเดียวจากไปแค่ใหน คิมหันต์ใช้ชีวิตต่อไปอย่างโดดเดี่ยว เพราะเขาแทบจะไม่มีญาติพี่น้องที่ใหนแล้ว ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อปากท้องของคนงานและชาวบ้าน หญิงสาวอยากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อยู่เคียงข้างเขา แต่เธอก็รู้ว่ามันก็เป็นแค่สิ่งที่เธอเพ้อฝันไป เธอรู้สถานะตัวเองดี “มายืนเหม่อลอยคิดอะไรอยู่ครับ?” คิมหันต์โอบเอวหญิงสาวจากข้างหลัง หอมแก้มเธอเบาๆ “ดาทำกับข้าวเสร็จ กะว่าจะมายืนรอคุณกลับมาทานด้วยกันค่ะ แต่บรรยากาศดีเลยยืนคิดอะไรเพลินไปหน่อย” หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงสดใสกลบเกลื่อนความรู้สึกน้อยอกน้อยใจ “พรุ่งนี้ กลับบ้านใหญ่กันเถอะ อยู่ที่นี่หลายวัน คุณคงไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ แม่บ้านก็ไม่มี” “ใครบอกคะดาออกจะชอบที่นี่มากบรรยากาศดีอากาศก็บริสุทธิ์รู้สึกสูดอากาศหายใจได้เต็มปอดไม่เหมือนที่กรุงเทพ” หญิงสาวตอบเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มปลอบประโลมไม่ให้เขาคิดมาก เพราะจริงๆแล้วเธอไม่อยากจากไปต่างหาก “ผมลืมบอกคุณว่าช่วงนี้ปิดเทอมลูกสาวป้าบัวจะเข้ามาพักที่บ้านด้วยช่วงปิดเทอมจะมาช่วยงานป้าบัวน่ะชื่อน้ำผึ้งรู้สึกจะ เรียนอยู่ปี2นี่แหล่ะ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ” คิมหันต์พูดพรางนั่งลงบนโต้ะอาหาร หญิงสาวรีบไปตักข้าวให้ชายหนุ่มและนั่ง ทานข้าวพร้อมกัน “ค่ะ…” หญิงสาวพยักหน้า นั่งตักข้าวทานเงียบๆไม่พูดอะไรอีก คิมหันต์รู้สึกว่าดาริกาแปลกๆไป หรือเธอจะคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้านของเธอ ในตอนนั้นที่อยากจะแก้แค้นเพราะเขาคิดว่าถ้าได้แก้แค้นแล้วทุกอย่างจะจบลง แต่มันไม่ใช่เลย พอเวลาผ่านไป ดาริกาสอนให้เขารู้จักคำว่าให้อภัย และอีกเรื่องนึงก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทของสโรชาโทรมาหาเขาบอกสโรชาหายไป ใช่แล้ว!ทุกคนที่โน่นยังไม่ได้ข่าวการจากไปของสโรชารวมทั้งวรุจด้วย แต่ที่พีคกว่านั้นก็คือ เพื่อนสโรชาบอกว่า สโรชาเป็นโรคซึมเศร้าเธอต้องพาไปพบหมอตามนัดทุกรอบนี่ก็ไกล้ถึงเวลาหมอนัดแล้ว สโรชาห้ามเธอบอกวรุจและคิมหันต์ เพราะกลัววรุจและพี่ชายจะไม่สบายใจ ถ้าเรื่องที่เธอจากไปมันเกิดจากอาการของโรค เขาก็คงทำผิดบาปไปอย่างมหันต์ ทำลายความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนนึงไป และเขาก็รู้ตัวเองว่า เขาหลงรักดาริกาเข้าแล้ว ถึงแม้ว่าไม่ได้เอ่ยบอกกับเธอไปตรงๆ เพราะระอายแก่ใจ เขาอยากจะให้เธออยู่กับเขาสักพักแล้วเขาจะพาเธอกลับไปหาพ่อแม่อธิบายทุกอย่างยอมรับผิดและจัดการเรื่องแต่งงาน ถ้าเธอต้องการและรักเขาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอไม่มีความสุขที่อยู่ที่นี่ ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่มีความสุขไปด้วย “ดาริกา….อยากกลับบ้านหรือติดต่อทางบ้านหรือเปล่า” คิมหันต์เอ่ยถามดาริกาที่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านพักหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ “ว่าไงนะคะ.. ” ดาริกาหันมาถามย้ำและทำหน้าตาตกใจปนสงสัยนี่เธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า “ผมจะจบเรื่องนี้แล้ว!” “นั้นก็หมายความว่า..คุณจะส่งดากลับบ้านหรือคะ..แล้วความรู้สึกนึกแค้นที่คุณมีจบแล้วหรอคะ ทำไมจบง่ายจัง..มีอะไรมาก..กว่า..นี้รึเปล่าคะ” ดาริกายิงคำถามใส่เขาด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆใจหายเหมือนจะร้องไห้ รู้สึกสับสน งุนงงไปหมดที่จริงเธอควรดีใจไม่ใช่หรอ? “ใช่..มันจบแล้ว..ผมจะส่งคุณกลับบ้าน กลับไปหาครอบครัวที่ที่คุณจากมา กลับไปใช้ชีวิตต่อเถอะดาริกา คุณจะได้มีความสุขเหมือนเดิม” คิมหันต์พูดเสร็จก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านพัก ทิ้งให้ดาริกายืนน้ำตาซึม อย่างไม่เข้าใจ เขาเห็นเธอเป็นอะไร นึกอยากจะจับมาทำปู้ยี้ปู้ยำยังไงก็ได้หรอ พอเบื่อแล้วก็ส่งคืน ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยหรืออย่างไร แล้วที่ทำเหมือนว่ารัก ที่อ่อนโยนกับเธอในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาแค่ต้องการให้เธอตอบสนองเขาดีๆอย่างนั้นหรือ คงจะสาแค่ใจกับความแค้นแล้วสินะ หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเป็นแค่สิ่งของที่เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ คิดได้แบบนั้นน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ค่อยๆพรั่งพรูไหลลงมาไม่ขาดสาย หญิงสาวเดินเข้ามานั่งร้องไห้อยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขกเล็กๆในบ้านพักแล้วก็เผลอหลับไป คิมหันต์เข้ามาในห้องสักพักนึง เห็นดาริกายังไม่ตามขึ้นมาเลยเดินลงไปดู เห็นหญิงสาวนอนหลับอยู่ตรงโซฟา ชายหนุ่มเดินมาคุกเข่านั่งลงๆข้างๆ เห็นคราบน้ำตาบนหน้าของหญิงสาว เขาก็รู้ทันทีว่าเธอนอนร้องไห้และก็หลับไป ‘อีกแล้วสินะ เป็นอีกครั้ง ที่เธอต้องร้องไห้ให้กับคนอย่างเขา’เขานึกว่าเธอจะดีใจที่ได้กลับบ้าน เขากลัวจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ถ้ารู้ว่าเธอดีใจที่จะจากไป เลยรีบเดินกลับเข้ามา “พี่คิม พี่คิมหันต์ อย่าไล่ดาไปใหน ดาอยากอยู่กับพี่ ดารัก…..” หญิงสาวละเมอออกมาเบาๆแต่คิมหันต์ได้ยินชัดเจน หัวใจของเขาพองโตดีใจเมื่อได้รู้แบบนั้นแต่ไม่อยากดีใจจนเผลอทำเสียงดังให้เธอตื่นขึ้นมา เขาก้มลงช้อนร่างบางขึ้นมาในอ้อมแขนก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปนอนในห้อง เขาวางร่างบางบนที่นอนอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆเอาแขนสอดเข้าไปใต้ศีรษะให้เธอหนุนแขนอีกข้างโอบกอดร่างบางไว้ก้มลงจุมพิตที่แก้มเบาๆ เขารู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรต่อจากนี้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เขาต้องสะสางนับจากนี้ “ดั่งสุภาษิตกล่าวไว้ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้” ในตอนนี้ดาริกาคงคิดและเข้าใจผิดไปมากมาย ผู้หญิงคนนี้ที่บางทีก็เหมือนจะฉลาดและเข้าใจง่ายในทุกเรื่องที่ผ่านมา แต่ทว่าเรื่องแบบนี้ เธอก็ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน..ในตอนนี้เธอคงคิดว่าเขาไม่รักเธอสินะ เลยจะให้เธอจากไป โธ่ แม่สาวน้อยของพี่ รักพี่ทำไมไม่บอกพี่ เก็บไว้ น้อยใจอยู่คนเดียวสินะ ถ้าพี่รู้ว่าดาริกาคนนี้รักพี่เหมือนกัน พี่ก็คงจะไม่ต้องคิดมากและเครียดอยู่แบบนี้…คิมหันต์นอนมองหน้าหญิงสาวอย่างแสนรัก ครุ่นคิดเรื่องต่างๆมากมายก่อนจะเผลอหลับไปเช่นกัน….
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD