“พ่อค้าบ แม่ค้าบบ !!”
เด็กน้อยคีรินวิ่งมาหาคิมหันต์กับดาริกาด้วยความดีใจ เพราะวันนี้เป็นครั้งแรกที่เด็กชายมีพ่อมีแม่มารับเฉกเช่นคนอื่นเขา
“ว่าไงครับสุดหล่อวันนี้เรียนเป็นอย่างไรบ้าง”
คิมหันต์ถามลูกชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดูรักใคร่
“เหนื่อยมากเลยคับ คินเลยหิวมากด้วย”
เด็กชายยิ้มตาหยีแก้มเด็กน้อยเป็นสีแดงระเรื่อ คิมหันต์อุ้มเด็กชายเอาไว้แนบอกด้วยความรักใคร่
“โอโห! เจอหน้ากันก็หิวเลยนะคุณคิน แม่ก็กลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วสินะคราวนี้อ่ะ นายคินของเรามีที่พึ่งใหม่แล้วสิ”
หญิงสาวเย้าแหย่เด็กชายด้วยความเอ็นดูปนหมั่นไส้ในความขี้อ้อนของเจ้าก้อนกลมๆก้อนนี้
“คินอยากกินไอติมค้าบพ่อ พาคินไปหน่อยได้มั้ยคับ”
เด็กชายตัวน้อยทำตาปริบๆ อ้อนผู้เป็นพ่อที่เพิ่งเจอกันได้แค่วันเดียว แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรักเด็กน้อยผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาจนหมดใจ
“โอเคครับ ไม่มีปัญหา ไปกันเล้ยยยย”
“โอ้โห!หมดไปกี่ถ้วยคะคุณคิน แม่ว่าคุณคินอ้วนจนตัวแตกก็คราวนี้แหร่ะ”
หญิงสาวนั่งมองลูกชายนั่งกินไอติมถ้วยที่3อย่างเอ็นดูในความกินจุของคีริน
“ก็มันอร่อยมากเลยคับแม่ค้าบบ คินอ่ะอยากมากินทุกวันเลยได้มั้ยค้าบพ่อ"
เด็กชายทำเสียงน่าเอ็นดูออดอ้อนผู้เป็นพ่อ
"ทุกวันไม่ได้ครับ ไอติมมันเป็นของหวาน ทำให้ฟันผุถ้าฟันหลอจะหมดหล่อ
จีบสาวไม่ติด อันนี้พ่อช่วยไม่ได้นะครับ"
“เอ๋าาา อย่างนั้นหรอค้าบ ก็ได้ค้าบคินจะผอมๆหล่อๆให้ได้เลย”
หญิงสาวนั่งอมยิ้มมองสองพ่อลูกสนทนากันเธอสัมผัสได้ถึงกระแสความอบอุ่นไหลวนอยู่ภายในใจ มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่ความอ้างว้างที่เกาะกุมหัวใจมาจนถึงวันนี้มันได้ปลดล็อกไปเสียที
ทั้งสามคนเดินจับมือกันอย่างมีความสุข ถ้าดูจากภายนอกก็คงจะเป็นของภาพครอบครัวที่อบอุ่น
“คุณพ่อขาา ”เสียงใสๆจากเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักที่วิ่งตะโกนมาแต่ไกล
คิมหันต์หันขวับมาตามเสียงที่คุ้นเคย ดาริกาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ที่เห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับคีรินวิ่งเข้ามากอดคิมหันต์
“น้องแก้มใส!คะ มากับคุณแม่ค่ะ”
ดาริกาตะลึงงัน!เมื่อเห็นน้ำผึ้งกับเด็กน้อยที่ชื่อว่าแก้มใส เรียกคิมหันต์ว่าพ่อส่วนน้ำผึ้งคือแม่ สมองเธอกำลังประมวลผลอย่างหนัก เรียบเรียงเหตุการณ์ แต่จะคิดหาเหตุผลอะไรมาอ้างเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“นี่ๆๆ ตัวเป็นใครยะ ปล่อยมือจากพ่อของเค้านะ”
เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มปลดมือน้อยๆของคีรินออกจากการเกาะกุมของคิมหันต์
“แก้มใส หนูมาได้อย่างไรคะ หืมมม”
“ก็คุณพ่อหนีมาหลายวันแล้ว แม่น้ำผึ้งเลยไปรับแก้มใสมาค่ะ แก้มใสคิดถึงคุณพ่อนะคะ”
เด็กหญิงโผเข้ากอดคิมหันต์และหันไปมองคีรินที่ตอนนี้เริ่มทำตาแดงๆน้ำตาใสๆกำลังจะไหลออกมาจากดวงตาน้อยๆ ดาริกามองเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก
“คุณมีอะไรที่ยังไม่บอกดาคะ คุณมีลูก….กับน้ำผึ้งตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างมีโทสะยามที่ได้เห็นน้ำตาของลูก เดิมเธอเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผลแต่ตอนนี้หญิงสาวระงับอารมณ์โกรธไว้ไม่ได้อีกแล้วภาพที่มีความสุขเมื่อกี้มันมลายหายไปหมด
คิมหันต์หันไปมองดาริกาเขาอยากจะอธิบายแต่ไม่อยากพูดต่อหน้าของเด็กๆ
“นายยังไม่บอกนายหญิงอีกหรอคะ!”
น้ำผึ้งเอ่ยขึ้นมาด้วยความร้อนใจแต่คิมหันต์ส่ายหน้าไม่ให้พูดอะไร
"ไม่ต้องบอกอะไรแล้วล่ะค่ะ ดาเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว เมื่อก่อนหน้านี้มันเป็นอย่างไรก็ขอให้มันเป็นแบบนั้นตลอดไปเถอะค่ะ คุณคินครับเราไปกันเถอะ กลับบ้านเรากัน"
เด็กชายตัวน้อยเหมือนจะเข้าใจเหตุการณ์เป็นอย่างดี เดินตามผู้เป็นแม่ไปอย่างว่าง่าย
“น้องดา…..”เขาเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบาความรู้สึกตอนนี้ยากที่จะอธิบาย
“เดี๋ยวค่ะนายหญิง น้ำผึ้งอธิบายได้นะคะ”
“ไม่ต้องแล้วล่ะน้ำผึ้ง พาพ่อของลูกเธอกลับไปเถอะ”
คิมหันต์มองตามหลังดาริกาไปอย่างปวดใจ มองเห็นถึงความหดหู่ของเขา ซึ่งมีสาเหตุมาจากคำพูดของเธอได้ชัดเจน เพียงแต่เขาแคร์เด็กน้อยแก้มใส ที่กำลังยืนมองเขาตาปริบๆอย่าง งงงวย! เพราะเด็กน้อย
เข้าใจว่าเขาคือพ่อที่แท้จริง หนูแก้มใสไม่ผิดอะไร เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจลูกสาวตอนนี้ แต่คีรินคงจะเสียใจมากเขาสงสารลูกจับใจ แต่ช่างเถอะเขาจะไปอธิบายกับลูกคราวหลังอีกที
"คุณคินครับ จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าพ่อเขามีครอบครัวใหม่แล้วมีลูกแล้วคุณคินโกรธคุณพ่อรึเปล่าคับ"
ดาริกาเอ่ยถามเด็กชาย เพราะนั่งรถมาตลอดทางเด็กชายเงียบกริบไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“นี่เป็นสาเหตุที่แม่หนีจากพ่อ มาใช่รึเปล่าคับ”
เด็กชายไม่ตอบคำถาม แต่กลับเอ่ยถามผู้เป็นแม่แทน
"อืมม เรื่องอดีตมันเป็นอะไรที่แม่อธิบายกับคินยาก เพราะคินเด็กเกินไปที่จะเข้าใจอะไรแบบนี้ รอคุณคินโตขึ้นแล้วแม่จะอธิบายอีกทีดีมั้ย"
"คินโตกว่าที่แม่คิดครับ คินเข้าใจแม่ คินจะปกป้องแม่เองนะคับไม่ว่าพ่อหรือใคร ก็มาทำร้ายแม่ของคินไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ต้องมีแม่แค่คนเดียวหรือเพื่อนจะล้อว่าคินไม่มีพ่อ คินก็จะไม่สนใจคับ คินรักแม่นะครับ"
น้ำตาของดาริกาไหลลงมาอย่างกลั้นไม่ได้ จนต้องเลี้ยวรถจอดรถข้างทาง
“อย่าร้องนะครับแม่ โอ๋ๆไม่ร้องนะค้าบบ”
มือเล็กๆของเด็กชายตัวน้อยยื่นไปเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นมารดา ถึงกระนั้นเธอก็ร้องออกมาไม่หยุดเด็กน้อยโผเข้าไปกอดมารดา ตบหลังปลอบโยนเบาๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าลูกน้อยของเธอ สงสารลูกจับใจที่เหตุการณ์มันกลายมาเป็นแบบนี้
"คุณคินครับ พอกลับไปถึงบ้านไม่ต้องเอ่ยเรื่องนี้ กับคุณตาคุณยายหรือคุณลุงรุจนะครับ แม่ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง"
“สัญญาด้วยลูกผู้ชายคับแม่ คินจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่แม่ต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะครับ”
หญิงสาวเช็ดน้ำตา พยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้อย่างยากลำบาก
“ป่ะ กลับบ้านกันคับ”
ดาริกาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ เธอรับรู้ได้ว่า ความสุขของคนเราช่างไม่มีอะไรที่มั่นคงเลยจริงๆ เมื่อเช้าเธอเพิ่งจะมีความสุขกับเขา พูดเรื่องอนาคตต่างๆมากมาย แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ทุกอย่างหายไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ความสุขของคนเราทำไมมันสั้นเหลือเกิน กี่ครั้งแล้วนะที่เธอต้องเจ็บปวดกับผู้ชายคนนี้
'เมื่อไหร่กันนะพี่คิมที่พี่กับน้ำผึ้งมีอะไรกันจนมีลูก ตอนเธอยังอยู่ที่นั่น หรือหลังจากที่เธอกลับมาแล้วมันมีเหตุผลอะไรมากกว่านี้อีกมั้ย? ดาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่เหลือเกินก็วันนี้แหร่ะ ยิ่งท่าทางเงียบงัน ไม่พูดอะไรของพี่ มันคือคำตอบชัดเจนที่สุดแล้ว ดาหมดเหตุผลที่จะเอามาอ้างกับหัวใจตัวเองเพื่อให้ดาอภัยให้พี่ได้อีกแล้วค่ะลาก่อนค่ะพี่คิม..ลาตลอดไป’เป็นอีกครั้งที่เธอเสียน้ำตามากมายให้กับผู้ชายคนนี้
*ใครน้ำตาไหลตอนนี้ คอมเมนท์มาบอก ให้กำลังใจกับไรท์ได้นะคะ จะตอบทุกเมนต์เลยค่ะ