ตอนที่ 4

975 Words
สิบเอ็ดโมงตรงพอดิบพอดี.. “ยายพราวออกไปไหนแต่เช้าหรือป้าอ่อน จะให้ทาเล็บเท้าให้หน่อย” แพรวดาวที่พึ่งจะตื่นนอน ถามหาน้องสาวเมื่อตามหารอบบ้านแล้วไม่พบ ป้าอ่อนยังไม่ทันจะตอบ แพรวดาวก็พูดขึ้นมาอย่างหัวเสียซะก่อน “สงสัยไปอ่อยพี่รามอีกแล้วแน่เลย ยายเด็กนี่ ทำไมต้องมาแย่งผู้ชายของฉันด้วยนะ” “คุณแพรวมีผู้ชายในสต็อกตั้งเป็นสิบคน แบ่งให้น้องให้นุ่งสักคนไม่ได้หรือคะ เดี๋ยวบ่ายสามคุณรณนสุดหล่อพ่อรวยก็จะมารับคุณแพรวแล้วนี่คะ” คำพูดประชดประชันของป้าอ่อน คนรับใช้เก่าแก่ที่แม้แต่พ่อของหล่อนยังไม่กล้าไล่ออก ทำให้หญิงสาวเดือดดาล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “ป้าจะรู้อะไร... ยายพราวน่ะมันไม่ได้ไร้เดียงสาแบบที่มันชอบแสดงออกหรอกนะ” “ป้าว่าคุณแพรวไปแต่งตัวดีกว่าค่ะ มัวแต่กัดจิกน้องตัวเอง จะแต่งตัวสวย ๆ ไม่ทันนะคะ” “นี่ป้า... ฝากไว้ก่อนเถอะ...” แพรวดาวรีบสะบัดก้นขึ้นไปบันไดไปยังห้องนอนของตัวเองทันที พลางมองเวลาที่ฝาผนังห้องตัวเองอย่างกังวลใจ วันนี้หล่อนนัดไปเที่ยวกับคุณรณนลูกชายมหาเศรษฐีประจำจังหวัด กว่าจะกลับมาก็คงดึกดื่น และก็คงมาตามนัดพี่รามไม่ทันแน่ แล้วหล่อนจะทำยังไงดีนะ “ปวดหัวจริงโว้ย รถไฟชนกันอีกแล้ว...” บ่นอย่างหัวเสีย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแรง ๆ สมองคิดหาหนทางไม่หยุด และสุดท้ายก็คิดออกจนได้ “นังพราว... มีแต่แกคนเดียวจะช่วยฉันได้...” แพรวดาวระบายยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบลุกขึ้นเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะแต่งตัวมานั่งรอพราวฟ้าที่โต๊ะหน้าบ้าน ในสวนมะม่วง... พราวฟ้ากำลังปีนป่ายต้นมะม่วงเพื่อจะเก็บผลมะม่วงที่เหลืองอร่ามมากิน โดยมีรามิลพรวนดินอยู่ที่ใต้ต้น “เดี๋ยวก็ตกลงมาแข้งขาหักกันพอดี ลงมาเถอะ...” รามิลพูดอย่างอดห่วงไม่ได้ ก็แม่สาวน้อยเล่นเป็นลิงเป็นค่างอยู่ข้างบนต้นมะม่วงที่ถึงแม้จะไม่สูงเท่าไหร่ แต่หากตกลงมาก็เจ็บไม่น้อย “พราวกับต้นไม้เป็นของคู่กัน ไม่มีตกหรอก ปีนมาตั้งแต่เกิด...” โอ้อวดด้วยความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง แต่เหมือนพระเจ้าลงโทษ เพราะเท้าบอบบางขาวสะอาดในรองเท้าผ้าใบดันก้าวพลาด และผลก็คือร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นร่วงตุบลงมาตรงหน้าของรามิลอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า “โอ๊ย!...” ชายหนุ่มตกใจ รีบเข้าไปดูร่างบอบบางที่นอนแอ้งแม้งอยู่ห่างแค่ไม้บรรทัดเดียวตรงหน้าอย่างตกใจ ปนห่วงจนหน้าซีด “เป็นอะไรมากหรือเปล่า พี่เตือนแล้วก็ไม่ฟัง ไหนดูขาสิ...” มือหนาใหญ่สีแทนค่อย ๆ จับที่ข้อเท้าเบา แต่กระนั้นมันก็ทำให้เด็กสาวร้องลั่น “เจ็บพี่ ราม... เจ็บ...” “สงสัยขาหักแล้วมั้งเนี่ย...” ชายหนุ่มแกล้งพูด แต่พราวฟ้าตกใจจริง ๆ ร้องเสียงหลง “ไม่นะ...! หักไม่ได้ แล้วพราวจะปีนต้นไม้ได้ยังไงกันล่ะ” รามิลส่ายหน้า พูดเสียงดุ “นี่แม่คุณ พึ่งตกต้นไม้ แล้วยังคิดจะปีนขึ้นไปอีกหรือ...” พราวฟ้ายิ้มแหย ๆ “ก็คนมันชอบนี่...” ชายหนุ่มพ่นลมออกจากปากอย่างหนักใจ กับความซนของสาวน้อย “เอาเถอะ รักษาให้หายซะก่อน มานี่พี่จะพาไปทายา” ว่าแล้วก็อุ้มร่างเล็ก ๆ แต่หนักเอาการของพราวฟ้าขึ้นมาแนบอก หญิงสาวอายจนหน้าแดงก่ำ “เห็นตัวเล็ก ๆ บาง ๆ ไม่นึกว่าจะหนักขนาดนี้ นี่กินหมูเข้าไปทั้งตัวหรือไงนะ...” แซวไปหัวเราะไป ขณะเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านของตนเอง พราวฟ้าเขินจัดจนพูดไม่ออก ได้แต่ซบหน้ากับแผงอกกว้างที่เคยเฝ้าฝันมานานอย่างปลื้มใจ บ่ายสองโมงครึ่ง... พราวฟ้าเดินกะเผลกเข้ามาในบ้าน แพรวดาวที่รณนยังไม่มารับมา เห็นก็รีบวิ่งมากระชากน้องสาวให้หลบไปคุยที่ริมท่าน้ำข้างบ้านอย่างรวดเร็ว “ช้าสิพี่แพรว พราวเจ็บขาอยู่นะ...” สะบัดมือออกจากการจับกุมของพี่สาว พร้อมกับเบ้หน้าด้วยความเจ็บ ก่อนจะนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดแรง “อย่ามาทำสำออยเลยน่า ที่เจ็บขานี่ก็เพราะไปเฝ้าพี่รามที่สวนมะม่วงมาใช่ไหม” “ถ้าใช่แล้วจะทำไม... พี่แพรวจะมาหึงอะไรพราว ในเมื่อพี่รามเขารักพี่แพรวคนเดียว ไม่เหมือนกับพี่แพรวหรอกที่รักได้ทุกคน” เพี๊ยะ!... เสียงฝ่ามือแหวกอากาศกระทบลงบนเนื้อดังสนั่น พราวฟ้าหันไปตามแรงกระแทกนั้น มือบางยกขึ้นกุมแก้มที่ชาดิกของตนเองทั้งน้ำตา ก่อนจะลุกขึ้นยืน กำลังจะเดินหนีไปแต่แพรวดาวก็ข่มขู่ซะก่อน “จำไว้อย่ามาปากดีกับฉัน และหากแกยังอยากให้พี่รามอยู่ในสวนมะม่วงต่อไป แกก็ต้องทำตามคำสั่งของฉัน” “พี่แพรวจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ ฉันเจ็บขาเห็นไหม” แพรวดาวยิ้มหยัน มองข้อเท้าที่มีผ้าเช็ดหน้าที่หล่อนพอจะเดาได้ว่ามันเป็นของใคร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับน้องสาว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD