‘พ่อเลี้ยง!’
เขาไม่ได้รอให้ฟองจันทร์พูดอะไรทั้งนั้น ปิดน้ำและตวัดรัดร่างแบบบางขึ้นแนบอกก่อนจะพาก้าวออกไปยังห้องนอนด้านนอกทันที ทั้งที่อาการมึนเมาจากงานฉลองปีใหม่ยังมีค้าง แต่ตอนนั้นเขากลับรู้สึกมึนเมากับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมากกว่า
เขาเผลอไผลมีอะไรกับเด็กในอุปการะไปได้ยังไง
ช่วงขายาวก้าวมั่นคงไปที่เตียงนอน ใจเขาอยากพาฟองจันทร์มาเช็ดตัวให้แห้ง เพราะอากาศเย็นจัด หากเขากับหล่อนอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ จากนั้นก็ต้องถามไถ่ว่าทำไมเขากับหล่อนถึงมาอยู่ด้วยกันในสถานการณ์นั้นได้
เพราะเขาเมาแล้วหล่อนเมาด้วยใช่ไหม
ทว่าแค่เพียงวางฟองจันทร์บนเตียง แสงสว่างจากภายในห้องกลับทำให้เขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างชัด แม้ว่าฟองจันทร์จะพยายามปกปิดเท่าที่จะทำได้ แต่เขาก็ไม่ให้หล่อนทำแบบนั้น
เพราะความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทุกความงดงามจากเรือนร่างของฟองจันทร์มันทำให้ร่างกายของเขาทำทุกอย่างไปตามใจคิด
ทำทุกอย่างอย่างคนรู้ตัว รู้สติสัมปชัญญะของตัวเองทุกอย่าง
จวบจนฟ้าสางเริ่มเข้าสู่วันปีใหม่เต็มตัว เขาก็ได้กลืนกินฟองจันทร์ไปจนนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะพื้นที่ไหนๆ ในห้อง เขาก็พาฟองจันทร์ไปเยี่ยมเยือน
ไม่ว่าท่วงท่าไหนที่เขาชอบ ฟองจันทร์ก็ได้เรียนรู้ และนั่นก็ทำเอาฟองจันทร์ถึงกับจับไข้ในวันเริ่มต้นปีใหม่ แต่หล่อนกลับไม่ได้ปริปากบอกใครเลย
เพราะหลายวันที่ผ่านไปก็ไม่มีใครถามไถ่อะไรกับเขา โดยเฉพาะแม่ ก็ไม่ได้มีท่าทีหรือมองเขาผิดแผลกไปเลยสักนิด เขาจึงเหมาว่าไม่มีใครรู้เรื่องในค่ำคืนนั้น
แต่ความสงสัยว่าฟองจันทร์เข้าไปอยู่ในห้องนอนของเขาได้อย่างไร รวมทั้งหล่อนยังยินยอมให้เขาล่วงเกิน โดยไม่ร้องเรียกให้ใครช่วย นั่นก็ยังทำให้เขาแคลงใจ
อดรนทนไม่ได้จนต้องโทรศัพท์เรียกฟองจันทร์มาที่ห้องนอนในยามดึกสงัด เพื่อจะถามในสิ่งที่สงสัย เพราะคงไม่มีใครให้คำตอบกับเขาได้ดีเท่ากับฟองจันทร์อีกแล้ว ในเมื่อเหตุเกิดเฉพาะคนสองคน
เขาไม่รู้ก็คงมีแค่หล่อนที่รู้
‘ฉันอยากรู้เรื่องคืนนั้น อยากรู้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องนอนฉันได้’
แค่ประโยคแรกที่ถาม ก็เห็นได้ชัดว่าฟองจันทร์ตื่นตัว แม้จะยังคงก้มหน้ามองแค่ฝ่ามือตัวเองก็ตาม
‘แล้วถ้าฉันทำไม่ดีกับเธอ เธอก็ควรร้องเรียกให้ใครมาช่วยสิ ทำไมถึงยอม’
‘หนู...’
เสียงหวานอ้ำอึ้ง ยังคงมองแค่ฝ่ามือบนหน้าตักของตัวเอง แต่นั่นก็ทำให้เขามีเวลาสำรวจเรือนร่างแบบบางที่เขารู้แล้วว่าไม่ได้แบบบางดังตาเห็น
ฟองจันทร์มีทรวดทรงองเอวที่สมบูรณ์มาก เพียงแต่เสื้อผ้าที่มักใส่เป็นเดรสตัวยาวแบบหลวมๆ ช่วยอำพรางทุกอย่าง แต่ตอนนี้แม้จะอำพรางแค่ไหน เขากลับเห็นเข้าไปถึงเนื้อใน
ยอมรับว่าตั้งแต่ค่ำคืนนั้น ทุกครั้งที่เห็นฟองจันทร์ เขาจะตื่นตัวอย่างบอกไม่ถูก ความทรงจำยามแก่นกายถูกบีบรัดแนบแน่นสุดๆ มันทำให้เขาอยากจะพาฟองจันทร์ไปกดกระหน่ำซ้ำๆ เหมือนในคืนนั้นสักหลายๆ ที ให้สมกับความตื่นตัวไม่เลือกเวล่ำเวลา แต่ก็ทำไม่ได้
เขาจะไม่ยอมให้มีครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแน่ บอกตัวเองว่าเขานิยมกินของนอกบ้าน และเป็นคนประเภทกินครั้งเดียวไม่เคยซ้ำ รวมทั้งการกินของในบ้านก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดกินมาก่อน
แต่คำตอบของฟองจันทร์กลับทำให้เขายอมทรยศต่อรสนิยมของตัวเอง
‘ว่าไงล่ะฟอง ตอบฉันมา ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงยอมให้ฉันทำ แล้วเธอมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง’
ดวงตาสวยหวานที่เจิ่งไปด้วยหยาดน้ำตาค่อยๆ ช้อนขึ้นสบสายตา เขาว่าเขาเห็นคำตอบนั้นแล้ว แต่ก็อยากฟังสิ่งที่หล่อนจะพูด
‘บอกมาฟอง ฉันอยากรู้ ขอคำตอบตรงๆ และจริง’
ฟองจันทร์เหมือนจะผวาจากแรงสะอื้นน้อยๆ แต่หล่อนก็สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดออกมาช้าๆ ชัดๆ
‘พ่อเลี้ยงเมามากค่ะ หนูก็เลยมาช่วยเช็ดตัวให้ แล้ว... แล้วพ่อเลี้ยงก็... หนู...’
นั่นไงล่ะ เขาเริ่มก่อน แล้วทำไมฟองจันทร์ไม่ร้องล่ะ
‘แล้วทำไมเธอไม่ร้องเรียกให้ใครช่วย บอกฉันสิฟอง’
‘หนู... เพราะหนู... หนูเต็มใจ’
‘เต็มใจ?’
‘ค่ะ หนูเต็มใจ’
‘หวังจะให้ฉันรับผิดชอบ?’
‘ไม่นะคะ! หนูไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นเลย ไม่ต้องการจริงๆ ค่ะ’
ฟองจันทร์ที่พูดออกมาอย่างเร็วปรื้อ หน้าตาตื่นตกใจสบสายตา จนเขาเห็นพวงแก้มเป็นสีแดงจัด ก่อนที่หล่อนจะหลุบสายตาและพูดต่อ
‘หนูพูดจริงๆ นะคะ หนูไม่ได้ต้องการให้พ่อเลี้ยงรับผิดชอบอะไรหนูทั้งนั้น หนูก็แค่... แค่... แค่อยากตอบแทนบุญคุณค่ะ’
‘เอาความสาวมาตอบแทนบุญคุณเหรอ’
หญิงสาวตรงหน้าที่สั่นสะอื้นน้อยๆ จนปากคอสั่น แต่กลับปาดน้ำตาทิ้งและเงยหน้าขึ้นสบสายตาเขาไม่หลบ บอกไม่ถูกเลยว่าตอนนั้นเขารู้สึกยังไง
‘ดี’ หรือ ‘ไม่ดี’
‘คาดหวัง’ หรือ ‘ไม่คาดหวัง’ ในคำตอบกัน
เพราะเขาเองก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะมีอะไรกับฟองจันทร์มาก่อน เพียงแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเขาก็ต้องหาสาเหตุ จะปล่อยผ่านหรือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ถ้ามีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่อย่างไรเสียเขาก็ต้องรับผิดชอบ