จากเด็กหญิงแก้มสีชมพูระเรื่อ ฟองจันทร์ก็เติบโตเป็นสาวเต็มตัว หน้าตาสะสวย ผิวขาวละเอียดเฉกเช่นสาวเหนือ โดยเฉพาะแก้มสีชมพูสุกปลั่งนั้นก็ยิ่งทำให้ฟองจันทร์เป็นที่หมายตาของชายหนุ่มโดยทั่วไป
บางครั้งที่ฟองจันทร์พาแม่ของเขาออกไปนอกบ้าน ก็ไม่พ้นจะมีพวกผู้ดีมีเงินหรือไม่ก็เจ้าขุนมูลนายสนใจจะเกี่ยวดอง เพราะคิดว่าฟองจันทร์อาจจะเป็นลูกหรือเป็นหลานของแม่เลี้ยงพราวพิลาศ
แต่พอแม่ของเขาบอกว่าฟองจันทร์เป็นเด็กที่แม่อุปการะเอาไว้ ท่าทีของพวกผู้ดีมีเงินก็เปลี่ยนไป
ซึ่งตรงนี้เขารู้ดี การเกี่ยวดองของวงศ์ตระกูลจะยิ่งทำให้ธุรกิจของครอบครัวเจริญก้าวหน้ามั่นคงมากยิ่งขึ้น คงไม่มีใครหรอกอยากจะให้ลูกหลานมาแต่งงานกับคนที่มีแต่ตัว ไม่ได้มีเทือกเถาเหล่ากอ แม้แต่ตัวเขาเอง
เพราะว่าที่คู่หมั้นของเขา ‘พิสุทธิ์นภา’ ก็มีเชื้อสายเจ้าทางเหนือสืบต่อกันมาตามต้นตระกูลไม่แพ้ครอบครัวของเขา
วัฒนธรรมเงินต่อเงินของแต่ละครอบครัวจึงสืบต่อไป
แต่แล้วสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะทำก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเหล้าเข้าปากไม่เมาไม่เลิกรา แต่จะนานหรือมากมายแค่ไหนนั้นเขาไม่รู้ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ละอองน้ำตกกระทบผิว
ทั้งที่ช่วงปีใหม่ อากาศในปางไม้จะหนาวเย็นจนต้องอาบน้ำอุ่น ทว่าความฉ่ำเย็นของสายน้ำที่ตกกระทบผิวกายกลับไม่ทำให้เขาเหน็บหนาวได้อย่างที่ควรจะเป็น
สิ่งที่รู้สึกกลับเป็นความฉ่ำร้อนที่โอบรัดความแข็งขืนกึ่งกลางกาย ร้อนจนเขาต้องไปให้สุดทาง
‘กรี๊ดดดดด!! เจ็บ! หนูเจ็บ!’
และเสียงกรีดร้องของใครบางคนก็ทำให้เขาได้สติ แต่บั้นเอวกลับไม่หยุดที่จะสอดใส่ เรี่ยวแรงทั้งหมดส่งตรงไปความเข้มแข็งที่มีแต่จะดุนดันไปข้างหนา รู้ตัวทันทีว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ต่อให้ช้างทั้งโขลงมาฉุดก็หยุดเขาไม่ได้
และยิ่งได้เห็นคนที่เขาผลักดันจนชิดติดกำแพงกำลังสะบัดส่ายใบหน้าหลับตาปี๋แบบเจ็บปวดเต็มที่ พร้อมส่งเสียงร่ำร้องปานจะขาดใจอยู่ภายใต้ละอองน้ำ จนเส้นผมหยักศกยาวสลายแนบลู่ใบหน้าและละไปตามเรือนร่างเปล่าเปลือย เขาก็ยิ่งหยุดไม่ไหว
เพราะใบหน้าและร่างแบบบางกระจ่างขาวอยู่กลางแสงสลัวนั้น ช่างสวยงามเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไปถึง
ใบหน้าสวยส่ายสะบัดเร่าๆ บอกว่าเจ็บ ทว่าดวงตาหลับปี๋กลับค่อยๆ เปิดขึ้นมองเขาแบบตื่นๆ แต่ริมฝีปากเผยอน้อยๆ นั้น ก็กลับเป็นเหมือนตัวร่ำร้องให้เขาเร่งเครื่องมากขึ้นอีก
ความหนึบหนับรัดแน่นจนเอ็นเขาแทบขาดในทุกครั้งที่สอดแทรก ใครจะหยุดได้... มีแต่จะเร่งไปให้ถึงเส้นชัย
และเมื่อมองต่ำลงมาจากใบหน้า อกอวบขนาดมหึมาที่ข้างหนึ่งอยู่อุ้งมือของเขา ข้างหนึ่งขยับตามแรงกระแทกจากเบื้องล่าง ก็ทำให้เขาต้องแหงนหน้าครางระรัวพร้อมเร่งความเร็วไปต่ออย่าหยุด
ด้วยความหนึบหนับคับแน่นที่โอบรัดท่อนเนื้อแข็งปั๋งมันมากมายรุนแรงกว่าทุกๆ ครั้ง จนเขาต้องขยับเข้าหาแบบถี่ๆ เน้นๆ แต่นั่นก็ยังไม่พอ
ฝ่ามือที่ช้อนต้นขาข้างหนึ่งขึ้นสูง สอดเข้าไปรั้งสะโพกจนเจ้าของร่างงามถลาขึ้นมาเกาะเกี่ยวรัดต้นขารอบเอวเขาแน่น
จากนั้นฝ่ามือทั้งสองข้าง สองขามั่นคง และขาที่สามที่แข็งจนปวดหนึบก็ทำหน้าที่แบบสอดประสานถี่ระรัว
‘เจ็บ! พ่อเลี้ยง! หนูเจ็บ! เจ็บ!’
‘เดี๋ยวจะหายเจ็บ เชื่อฉันนะฟอง เดี๋ยวจะหายเจ็บ อืม... เดี๋ยวมันจะหาย...’
เขาไม่รู้เลยว่ากระซิบบอกไปแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่รู้หรอกว่ามันจะหายเจ็บได้จริงในครั้งแรกไหม รู้แต่ว่าถ้าเข้าๆ ออกๆ ได้เมามันแบบนี้ ไม่นานความสุขสมจะมาเยือน เพราะเขาก็ใกล้ถึงแล้ว
เขาพาฟองจันทร์เดินวนอยู่ในโซนเปียก ให้ละอองน้ำตกกระทบเพื่อระบายความเร่าร้อนที่เขามีต่อหล่อน ทว่ายิ่งเดินก็ยิ่งร้อน แต่กลับเป็นความร้อนที่เขาปรารถนา ทุกอย่างจึงเร่งเร็ว
ทุกจังหวะที่ความยิ่งใหญ่สอดแทรก พร้อมๆ กับฝ่ามือเขากระชับสะโพกโยกลงมาหา ช่างพรักพร้อมกับที่ฟองจันทร์แหงนหน้าร่ำร้อง อกอวบก็แอ่นขึ้นแนบชิดใบหน้าจนเขาต้องอ้างับจะงอยสีแดงสดและดูดดื่มอย่างเมามัน
ทุกอย่างน่าดู น่าดูดเลีย และกระตุ้นอารมณ์เขาอย่างแรง
ไม่นานความอดทนของเขาก็สิ้นสุด เมื่อฟองจันทร์กรีดร้องสุดเสียง ร่องสาวคับติ้วบีบรัดตัวเองเร็วรี่ นั่นเท่ากับบีบรัดตัวตนของเขาแทบขาด เมื่อนั้นเขาก็หมดสิ้นความทานทน
หยาดอุ่นขุ่นข้นก็พวยพุ่งออกไปอย่างทะลักทลาย
‘โอย... ฟองจ๋า... แน่นมาก... โอย...’
เวลานั้นเขารับรู้ในความเป็นหญิงที่ตอดรัดแก่นกายแนบแน่นจนเป็นจังหวะกระตุกถี่ ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลาย พร้อมๆ กับที่ความเข้มแข็งของเขาก็อ่อนแอ
แต่อึดใจทีเดียวกว่าที่เขาจะปล่อยให้ร่างอ่อนระโหยพิงซบอกของเขาอยู่นี้ ลงยืนด้วยขาของตัวเอง
และแค่เขาปล่อยฟองจันทร์ให้หลุดจากจุดที่เชื่อมต่อ ร่างแบบบางที่พับพาบลงกับพื้นห้องอาบน้ำก็ทำให้เขาถลารีบทรุดลงไปประคอง
‘ฟอง!’
ฟองจันทร์ไม่ได้พูดอะไร ร่างเปลือยเปล่างดงามที่สุดสั่นสะท้านตามแรงสะอื้น ทั้งๆ ที่ไม่มีเสียงร้องไห้ออกมา หล่อนมองพื้นห้องน้ำที่ละอองฉ่ำตกกระทบ พร้อมกับแรงสะอื้นฮึกฮักที่มากขึ้นอีก
และแสงไฟจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามานั้นก็ทำให้เขาเห็นของเหลวสีแดงสดกำลังไหลปะปนไปกับสายน้ำชักพา แต่เมื่อเขามองขึ้นมาถึงจุดกำเนิด ฟองจันทร์ก็หนีบต้นขาตัวเองแน่น