ตอนที่ 3 ทนความกดดันไม่ไหว (2)

1008 Words
“ไม่เอาน่า อย่างอแงแบบนี้สิ นะครับ คนสวยของเป๊ก” คารมแข็งทื่อนั้นมันโดนใจเธอชะมัด แค่คำพูดพล่อยๆ ของไอ้เด็กบ้าก็ทำเธออ่อนระทวยจนหยุดดิ้นไปฉับพลัน เฮ้อ เบื่อตัวเองมากตอนนี้ จะโทษอะไรดีล่ะ โทษความรู้สึกอ่อนไหวของเธอก็แล้วกัน “เจ้ก็รู้ว่าเป๊กแคร์เจ้ที่สุด” เขาเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน ได้ยินแล้วรู้สึกเหมือนกำลังถูกมอมเมาชอบกล แต่ก่อนที่จารุณาจะได้ตอบโต้ ร่างแกร่งก็ค่อยๆ ดันร่างเธอจนไปติดที่หลังเคาน์เตอร์อีกครั้ง เหมือนเขาพยายามจะยกร่างเล็กของเธอขึ้นไปนั่ง แต่เธอก็ฝืนกายเต็มที่อย่างไม่ยอม เขาจึงละความตั้งใจตรงนั้นไป แต่ไม่ได้หยุด มือหนาของเขาค่อยๆ ล้วงเข้าไปในกระโปรงสั้นพลิ้ว จนสัมผัสได้ถึงแก้มก้นงอนเด้ง คงเพราะเผลอออกแรงบีบขยำมากไป เจ้าของเรือนร่างน่าหลงใหลจึงได้สติจนผลักเขาออกอย่างแรง แล้วมือที่เล็กๆ บางๆ ก็ตวัดลงมาบนซีกแก้มด้านซ้ายของเขา เข้าใจว่าน่าจะทุ่มแรงทั้งหมดที่มี อย่าถามเลยว่าเจ็บมากไหม เอาเป็นว่าชาจนเกินเจ็บไปหลายขุม “คนบ้ากาม” ด่าเขาเสร็จก็เดินจากไป ทิ้งให้คนชอบเอาเปรียบได้แต่ยืมลูบแก้มไปมาป้อยๆ โดยไม่หันกลับมาสนใจอีกเลย ผู้หญิงใจร้าย! ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกรอบ ยังจำทุกอย่างได้แม่นว่าหลังจากโดนตบ เจ้จ๋าหัวหน้าจอมโหดก็สั่งให้ลูกน้องอีกคนออกไปคุยงานข้างนอกกับเธอแทนเขา ซึ่งปกติต้องติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกครั้ง เล่นเอาคนได้รับคำสั่งใหม่และคนอื่นๆ ที่ได้ยินงงงวยกันไปทั้งออฟฟิศ แต่เขารู้ดีว่าคนอายุมากกว่าหัวเสียสุดๆ ด้วยเรื่องอะไร จึงไม่คิดจะขัดใจในคำสั่งของเธอ ถึงยังไงเธอก็มีสิทธิ์เด็ดขาดในเรื่องงาน และที่จารุณาทำแบบนั้นก็ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีสปิริต แต่ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะทนเก็บกักอารมณ์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ กับผู้ชายที่ทั้งกอดจูบลูบคลำตัวเองจนแทบจะล้วงไปถึงลำไส้ เขาผิดเองที่ไม่ยอมระงับอารมณ์หื่นกาม ทั้งที่ปกติก็ไม่ใช่ผู้ชายปากว่ามือถึงแบบนั้น แต่จะคิดอะไรได้ตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ก่อต่อไป เป็นคนไร้ตัวตนในสายตา เป็นคนที่เธอไม่อยากจะเจรจาพาทีด้วย และเป็นคนที่เธอไม่ให้ความสำคัญอีกแล้ว เฮ้อ เจ็บว่ะ! เช้าวันต่อมา วันนี้เป็นวันอาทิตย์ บ้านหลังน้อยที่อุดมศักดิ์เคยมาบ่อยๆ ตั้งเด่นอยู่ตรงหน้า แต่วันนี้เขากลับไม่กล้าก้าวเข้าไปข้างในเหมือนเช่นทุกครั้ง อุดมศักดิ์เอื้อมมือออกไปหมายจะกดกริ่งที่หน้าประตู ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะได้สัมผัสกับปุ่มกด สายตาอันแหลมคมก็มองเข้าไปเห็นว่าประตูใหญ่หน้าบ้านไม่ได้ล็อก สงสัยคงออกไปซื้ออะไรหน้าปากซอยแล้วเพิ่งกลับเข้ามาแน่ๆ ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะค่อยๆ ดันประตูเปิดออก เพียงพอให้ร่างหนาของตนเดินลอดเข้าไปได้ ไม่กี่ก้าวเข้าก็ถึงตัวบ้าน ลังเลอยู่ว่าจะลองบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไปข้างในเลยดีไหม คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ออกไปไหนแล้วแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะล็อกกลอนหรือเปล่า ช่างหละหลวมเกินไปแล้ว ผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียว ปลอดภัยเสียที่ไหน แต่ยกเว้นวันนี้ให้เขาสักคน เพราะเขาจำเป็นต้องถือวิสาสะเดินเข้ามา จะได้คุยกันให้รู้เรื่องรู้ราวเสียที อุดมศักดิ์เดินไปหลังบ้าน เห็นกะละมังซักผ้าวางอยู่สองใบ ใบหนึ่งมีผ้านวมผืนขนาดกลางถูกแช่ไว้ อีกใบเต็มไปด้วยเครื่องในของเจ้าของบ้าน หลากสีสันทั้งอ่อน เข้ม และฉูดฉาด เอิ่ม...แค่ชั้นในของเธอก็ทำให้เขาขนลุกแล้ว ให้ตายเหอะ! โดยที่อุดมศักดิ์หารู้ไม่ว่า เจ้าของบ้านอันตรธานหายไปไหนทั้งที่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปข้างนอก จารุณายืนอยู่ในห้องครัวที่ติดกับหลังบ้านบริเวณที่เธอเพิ่งผละจากมาเมื่อครู่ มือบางแง้มผ้าม่านตรงหน้าต่างบานหนึ่ง ดวงตากลมโตมองดูแขกไม่ได้รับเชิญอย่างหวาดๆ ตกใจแทบแย่ โชคดีที่เธอไหวตัวทันเห็นเขาเสียก่อน เลยหลบฉากออกมาได้ทันท่วงที คนบ้า! อยู่ๆ มาบ้านเธอทำไมกัน เธอไม่ได้อยากเห็นหน้าไอ้เด็กเปรตตอนนี้นะ ต่อว่าเขาอยู่ในใจได้เพียงเท่านั้นก็ต้องตาโต เมื่อเห็นชายหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกที่เธอใช้นั่งซักผ้า เธอแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา จนกระทั่งเห็นเขาลงมือขยี้ผ้านวมผืนนั้นอย่างขะมักเขม้น วูบหนึ่ง รู้สึกอุ่นวาบในใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่อีกใจก็อยากเดินออกไปห้ามไม่ให้เขาทำแบบนี้ มันไม่ใช่ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ยืนนิ่งมองเขาซักผ้านวมให้จนเสร็จและเดินไปตากที่ราวที่อยู่ไม่ไกล ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาไม่เป็นปัญหาสักนิดในการบิดผ้านวมหนานุ่ม ต่างกับเธอที่ยังคิดเลยว่าจะซักและบิดมันยังไงไหว ที่จริงเธอใช้เครื่องซักผ้าก็ได้ แต่ติดที่ตอนนี้กำลังปั่นเสื้อผ้าชุดทำงาน ด้วยไม่อยากต้องปั่นผ้าหลายรอบเลยแยกเอาผ้านวมไปซักมือเสียเลย แต่ไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาช่วยซักแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD