"ว่ายังไงคาเมล อยากจะให้ข้าทรมานเจ้าต่อไปหรือว่า..เจ้าจะบอกข้ามาตามตรง"
เขามองใบหน้าของเอลิซ่าด้วยดวงตาที่นุ่มลึกมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากของเขาเม้มเข้าหากันเพื่อสกัดกั้นอารมณ์มากมายหลายอย่างที่ตีกันมั่วอยู่ในหัว
"ท่านเอลิซ่าครับ..ได้โปรดอย่าแก้มัดนะครับ"
เธอแปลกใจในคำตอบของเขาจนอดจะขมวดคิ้วไม่ได้
"คาเมล เจ้ามันช่าง..น่าหงุดหงิดจริงๆ"
เขาดีเกินไป เธอเข้าใจในความหมายของสายตานั้นได้เป็นอย่างดี เขากำลังร้องขอให้เธอมัดเขาเอาไว้เพราะถ้าหากว่าเธอแก้มัดเขาออก แน่นอนว่าระหว่างเรามันจะต้องมีการก้าวข้ามผ่านความเหมาะสมไปอย่างแน่นอน เพราะในขณะที่เธอกำลังสัมผัสเขาอยู่นี้
เส้นความอดทนของคาเมลมันขาดสะบั้นลงไปเรียบร้อยแล้ว
เขาน่ะ..ต้องการเธออยากมากเลยล่ะในตอนนี้
เอลิซ่าวางมือลงบนหน้าผากของเขาเบาๆ
"จงเผยให้ข้าเห็น..ในสิ่งที่ถูกผนึกเอาไว้"
พลังเวทหมุนวนรอบตัวเขาก่อนที่คาเมลจะกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาน เขาทรุดลงที่พื้นพร้อมกับดิ้นทุรนทุรายจนตัวงอ
"อ๊ากกก!!"
เธอนั่งลงที่พื้นพร้อมกับลูบไล้เส้นผมสีน้ำตาลของเขา ที่มันมีหูและหางงอกออกมา เอลิซ่ากำลังพยายามมากทีเดียวที่เธอจะไม่แสดงอาการชอบใจหรือว่าแสดงดวงตาที่เป็นประกายเมื่อเธอมองเห็นหูสีน้ำตาลอ่อนที่มีลักษณะคล้ายหูของลูกหมาตัวน้อย
นะ...น่ารักชะมัดเลย!
"อย่าบอกว่ามีคนเอาเลือดของแวร์บีสต์ให้เจ้ากินอย่างนั้นหรือ? ให้ตายเถอะคาเมลเรื่องแค่นี้เองทำไมเจ้าไม่มาบอกข้าล่ะ ลืมไปแล้วรึไงว่าข้าเป็นใคร ข้าคือจอมเวทนะ!"
เขาเงยหน้ามองเอลิซ่าด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา
"หมายความว่าท่านเอลิซ่าสามารถช่วยให้ข้ากลับไปเป็นปกติได้อย่างนั้นหรือครับ?"
"ไม่ใช่หรอกคาเมล เลือดของแวร์บีสต์ได้หลอมรวมกับร่างกายเจ้าไปแล้ว ร่างกายของเจ้าตั้งแต่นี้ไปเจ้าคือแวร์บีสต์โดยสมบูรณ์แบบ เช่นนั้นข้าถามได้ไหมว่าใคร ใคร..มันเป็นคนบังคับให้เขาดื่มเลือดของแวร์บีสต์?"
เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะซบใบหน้าลงที่ไหล่ของเอลิซ่า
"เลดี้อลิซครับ"
ดวงตาที่น้ำทะเลของเอลิซ่ามันฉายแววของความเคียดแค้นขึ้นมา เธอโอบกอดคาเมลเอาไว้
"วางใจคาเมล เรื่องนี้ข้าจะต้องเอาคืนแทนเจ้าอย่างแน่นอน อย่าได้เป็นกังวล"
"ไม่ได้นะครับท่านเอลิซ่า ข้าไม่อยากให้ท่านเอลิซ่าและท่านแกรนด์ดยุคต้องผิดใจกัน"
"จิ๊! ท่านพ่อรักข้ามากกว่าใคร ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม..เพราะฉะนั้นแค่ฆ่าสตรีนางหนึ่งท่านพ่อไม่โกรธข้าหรอกน่า.."
"ท่านเอลิซ่า!"
กล่าวเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร เขามีหน้าที่ปกป้องเธอ ไม่ใช่ให้เธอต้องเดือดร้อนเพื่อมาปกป้องเขา
เอลิซ่ายกมือขึ้นมากุมใบหน้าของคาเมลเอาไว้ ระหว่างเรานั้นเปลี่ยนไปมาก จากเด็กน้อยวัยสิบขวบตัวเล็กๆที่แสนเขินอาย สู่สตรีที่อยู่ในวัยงดงามสะพรั่ง..
เธอดึงใบหน้าของเขาให้ซบลงมาที่ซอกคอของเธอ
"คาเมล ข้ารู้ความหมายของร่องรอยบนร่างกายเจ้าแล้วล่ะว่ามันมาจากไหน?"
"เพราะว่าข้ากินยา.."
"ไม่ใช่เลย ยาพวกนั้นก็แค่สมุนไพรเท่านั้นเอง ร่างกายของเจ้ามันมีบางอย่างที่ผิดปกติคาเมล ดวงใจของเจ้ากำลังร้อนรุ่มและในค่ำคืนที่ไม่ว่าจะหนาวเหน็บแค่ไหนเจ้าก็รู้สึกร้อนมากกว่าใครๆใช่ไหม?"
เรื่องนั้น..ท่านเอลิซ่ารู้ได้ยังไงกันนะ?
"คะ..ครับ เป็นอย่างที่ท่านเอลิซ่ากล่าวมาเลยครับ ช่วงนี้ข้าขี้ร้อนมากทีเดียว"
นิ้วมือที่เรียวยาวของเธอกำลังลูบไล้ไปที่เส้นผมสีน้ำตาลของเขาเบาๆ
"คาเมล..นี่คืออาการติดสัดต่างหาก เพราะว่าฤดูหนาวคือฤดูผสมพันธุ์ของแวร์บีสต์ยังไงล่ะ เจ้ากำลังทรมานจากการติดสัด"
"!!!"
.......
"ข้ามาหาภรรยาครับ.."
"เช่นนั้นก็เชิญกลับไปเถิดเพราะว่าที่นี่ไม่มีภรรยาของเจ้าหรอกบาร์ตัน มีแต่เอลิซ่าลูกสาวที่น่ารักของข้าต่างหาก"
บาร์ตันวางขวดไวน์เอาไว้ในถังไม้ เขาเดินเข้ามาหาท่านอาที่กำลังเล่นวางหมากกับท่านลีออง
"บางทีข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกท่านว่าท่านอาหรือว่าท่านพ่อตา"
"อยากตายรึไงบาร์ตัน แม้ว่าเจ้าจะเป็นองค์จักรพรรดิข้าก็ไม่กลัวหรอกนะ"
บาร์ตันหัวเราะเบาๆ
"ข้าทราบครับ ในราชอาณาจักรอเดไทม์นี้ท่านอาคือผู้แข็งแกร่งที่สุดและท่านอานั้นไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด เพียงแต่เรื่องที่ข้าจะรายงานต่อไปนี้ ท่านอาจจะต้อง..เกรงกลัวอย่างแน่นอนครับ"
ฮาซานวางหมากลงไปในกระดานพร้อมกับถอนหายใจออกมา เขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าของบาร์ตัน
"หมอนั่น..หานางพบสินะ"
ใบหน้าของบาร์ตันเศร้าสลดลงเล็กน้อย
"เสด็จพ่อกำลังเดินทางกลับมา เรื่องอาการประชวรน่าจะเป็นเพียงแค่การถ่วงเวลาเท่านั้นครับ บางที..ในบางทีข้าอาจจะถูกปลดในเร็ววัน"
ฮาซานส่ายหน้าเบาๆ
"เจ้าเป็นองค์จักรพรรดิไม่มีใครหน้าไหนสามารถมาปลดเจ้าออกจากตำแหน่งได้หรอกนะบาร์ตัน อย่ายินยอมหากผู้ใดจะมาช่วงชิงอำนาจในมือของเจ้า"
"แต่ผู้นั้นคือเสด็จพ่อของข้านะครับ ไม่อยากจะกล่าวเช่นนี้สักเท่าไหร่แต่ท่านพ่อกำลังจะกลับมาพร้อมกับองค์ชายวัยสองเดือน องค์ชายที่เกิดจากจักรพรรดินีเอเลเนอร์"
ลีอองกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เขามองใบหน้าของฮาซานที่ยามนี้มันซีดจนไร้สีเลือดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
"ข้า ควรจะทำยังไงดีล่ะ นั่นมันคือทางเลือกของเอเลเนอร์เอง ข้ายังจะขัดขวางสิ่งใดได้อีก ในเมื่อคนทั้งสองรักกัน"
สาบานได้ไหมว่าหูของเขามันไม่ได้ฝาดไป..
"ฝ่าบาทคงจะดีหากว่าพระองค์ช่วยตบหน้ากระหม่อมแรงๆสักที กระหม่อมคิดว่าตอนนี้มันอาจจะอยู่ในความฝัน.."
"ผลัวะ!!"
"ไม่ได้ฝันหรอกลีออง ดูจากเลือดที่ไหลอยู่ในปากของเจ้าก็น่าจะรู้"
"ฮาซาน!! เจ้ามาต่อยข้าทำไมกัน!!"
ฮาซานถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เขาจะยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับวางหมากลงไปในกระดานเป็นตัวสุดท้าย
"ข้าชนะแล้วลีออง จ่ายเงินมาซะ"
ความเจ็บปวดในใจ จางหายไปราวหิมะที่ละลายไปเมื่อพบเจอแสงของดวงตะวัน เขายังแปลกใจที่ตัวเองไม่เสียใจกับข่าวคราวของเอเลเนอร์เลย ทั้งที่ความจริงแล้วเขาควรจะเจ็บปวดมากกว่านี้สิ
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาสามารถตัดใจได้ เขาน่ะแค่มีเอลิซ่าคนเดียวก็พอแล้ว ความรักอะไรนั่นเขาไม่ต้องการจากสตรีใดอีกแล้วในชาตินี้
เขาอยากมองเห็นลูกสาวผู้งดงาม อยากให้ใบหน้าของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข นั่นเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อนี่นา..