"สำหรับข้านั้น ไม่ว่าเสด็จพ่อจะตัดสินใจเช่นไร ข้าล้วนยินยอมครับ จริงอยู่ที่ข้าอาจจะรู้สึกใจหายที่อำนาจในมือถูกยึดคืนกลับไปแต่ทว่า..สิ่งที่ข้าจะได้กลับมามันคืออิสระครับ แน่นอนมันรวมไปถึงการที่ข้าจะได้มาอยู่ที่นี่อยู่กับเอลิ"
"ใครจะให้เจ้ามาอยู่ที่นี่กัน คามิลมิใช่โรงแรมที่จะยินยอมให้คนนอกเข้ามาอาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นอย่ายินยอมบาร์ตัน! อย่ายินยอมยกอำนาจของเจ้ากลับคืนไปให้ท่านพี่ไฮเวสง่ายๆเพราะว่าเราจะเดือดร้อนกันหมด ราชอาณาจักรจะอยู่ในสภาวะสงคราม ประชาชนจะลำบากเพราะการกระหายอำนาจของท่านพี่"
บาร์ตันนั้นถือเป็นคนที่ฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาน่ะแค่ต้องการความสนใจจากท่านอามากกว่าเดิมก็เท่านั้น ใครจะยินยอมเสียอำนาจในมือไปง่ายๆกันล่ะ
เขาจำเป็นต้องมีอำนาจถึงจะสามารถปกป้องเอลิซ่าได้และเขาจำเป็นต้องมีคนหนุนหลังอย่างเช่นบุคคลที่ทรงอำนาจอย่างแกรนด์ดยุคคามิล
"การยืนอยู่เพียงผู้เดียวท่ามกลางกระแสลมที่พัดโหมกระหน่ำนั่นดูจะเป็นปัญหาสำหรับข้ามากทีเดียวครับท่านอา คงจะดีหากท่านอายินยอมเป็นกำลังให้ข้า"
"เรื่องนั้นเดิมทีข้าก็สนับสนุนเจ้าอยู่แล้วบาร์ตัน เหตุใดเจ้าถึงต้องให้ข้าป่าวประกาศ.."
"มิต้องป่าวประกาศเลยครับท่านอา เพราะเพียงแค่ท่านส่งเอลิซ่าเข้าไปทำงานในพระราชวังกับข้าเพียงแค่นั้น ผู้คนก็จะรับรู้ถึงความสัมพันธ์อันดีงามของข้ากับท่านอา..แน่นอนว่าข้ามิได้จะให้นางไปอยู่ที่พระราชวังตลอดเวลา แค่ให้นางไปทำงานให้ข้าบ้างสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองวัน"
ความรัก..มันทำให้ผู้คนเป็นเช่นนี้เลยงั้นเหรอ? ไอ้หลานเวร! คิดว่าข้ารู้ไม่ทันเจ้ารึไง?
"เรื่องนั้นเจ้าต้องไปถามความเห็นของเอลิเอง หากว่านางตกลงข้าก็ไม่มีอะไรต้องขัดขวางอยู่แล้ว"
บาร์ตันยกยิ้ม เขารินไวน์ใส่แก้วให้ฮาซาน
"ขอบคุณครับท่านอา เรื่องของเสด็จพ่อของข้านั้น ท่านอาอย่าได้เจ็บปวดไปเลยนะครับ"
ฮาซานส่ายหน้าเบาๆ
"ไม่เลย ไม่มีความเจ็บปวดใดๆหลงเหลืออยู่เลยในตอนนี้ ข้าได้แค่ภาวนาให้ท่านพี่และเอเลเนอร์มีความสุข"
เรื่องความรัก เส้นทางความรักของเขามันจบลงแล้ว..
เขาจะไม่ยินยอมมอบหัวใจให้สตรีใดอีก ชั่วชีวิต
.......
"ติดสัดอย่างนั้นหรือครับ?"
เอลิซ่าหัวเราะเบาๆ
"ไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ เช่นนั้นข้าจะคลายเชือกเวทมนตร์ที่มัดข้อมือของเจ้าออกก็แล้วกัน"
"อย่านะครับท่านเอลิซ่า ข้าไม่อยากจะล่วงเกินท่าน!"
เจ้าหมาน้อยตัวนี้นี่น้า..ทำไมถึงได้คอยจะแยกเขี้ยวขู่เธอตลอดทั้งที่ตัวเองก็ต้องการมากขนาดนั้นแท้ๆ จุดกางกายของเขามันตื่นขึ้นมาจนมองเห็นเป็นรูปร่างได้อย่างชัดเจนถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้ร่มผ้า
เอลิซ่าจับจูงมือของคาเมลเอาไว้ก่อนจะพาเขาเข้าไปในห้องนอน เตียงของคาเมลนั้นมีขนาดเล็กมากในขนาดที่เรานอนลงไปคนเดียวก็น่าจะเต็มแล้ว
"ท่านเอลิซ่า เราจะต้องเดินทางกลับไปที่คามิล"
เมื่อเหลือบมองนาฬิกาเธอพบว่ายามนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว เอลิซ่าร่ายเวทขึ้นมาเป็นนกสีน้ำเงินที่โปร่งแสง ก่อนที่ผลักมันเบาๆเพื่อให้มันบินไปตามสายลม
"ข้าบอกกับท่านพ่อเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้จะไม่กลับ คาเมลข้ามิใช่เด็กน้อยแล้วนะ เหตุใดเจ้าถึงชอบมองว่าข้าเป็นเด็กอยู่เรื่อย แล้วยามนี้ก็มีบางอย่างที่สำคัญมากกว่าการกลับบ้าน ซึ่งนั่นก็คือการช่วยชีวิตเจ้า..มาสิคาเมลเดินเข้ามาด้วยสองเท้าของเจ้า เดินเข้ามาหาข้า"
เดินมาสิเจ้าลูกหมาตัวน้อย
ทั้งที่ตั้งใจมากตลอดว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการทำให้ท่านเอลิซ่าเสื่อมเสียเกียรติ ตั้งใจจะปกป้องเธอเอาไว้จากทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทว่าวันนี้มันกลับเป็นเขาเองที่จะทำร้ายเธอ
หากแต่การห้ามความต้องการนั้น มันทำได้ยากเย็นยิ่งนักเมื่อเธอปลดปล่อยมือของเขาออกจากพันธนาการ คาเมลก็พุ่งเข้าหาเอลิซ่าในทันทีด้วยเรี่ยวแรงที่เขามี ถาโถมเข้าไปจนเธอล้มตัวนอนลงบนเตียงที่เขาใช้นอน เรือนผมสีชมพูนุ่มลื่นสยายไปบนที่นอนพร้อมกับชุดเดรสเปิดไหล่ที่กำลังจะหลุดลงมา
"ใจเย็นคาเมลไม่ต้องรีบร้อนเพราะว่าข้าไม่คิดจะหนีไปไหนอยู่แล้ว"
เขาร้องไห้..ในขณะที่เขาพรมจูบไปที่ใบหน้าอันแสนงดงามของเธอเขาก็ยังร้องไห้ออกมา คาเมลจุมพิตไปบนริมฝีปากบางของเธอ จุมพิตที่มีรสชาติประหลาดเพราะว่ามันคือจุมพิตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของเขาเอง
เอลิซ่าทั้งเอ็นดูและรู้สึกสุขล้นไปพร้อมๆกัน คาเมลคือคนแรก เขาคือคนแรกด้วยซ้ำที่เธอสารภาพความในใจออกไปและเพราะว่าเขาบอกกล่าวกับเธอว่าเขาไม่มีค่า เขาบอกกล่าวออกมาว่าต่อให้วันข้างหน้าจะเป็นเช่นไรเขาก็ยังจะยืนอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปไม่ว่าจะวันไหนก็ตาม
เพราะคำกล่าวเช่นนั้นทำให้เธอมองข้ามเขาไป เธอมองข้ามบุรุษที่รักเธอมากกว่าใครๆ ไปได้อย่างไรกันนะ
"..หยุดร้องไห้ได้แล้ว"
"ขะ..ข้าดีใจครับ เพราะว่าข้าดีใจ สุขใจและ..ข้ากำลังต้องการท่านเอลิซ่า"
"ข้ารู้คาเมล เรื่องนั้นข้ารู้ดี เช่นนั้นสัญญาได้ไหมว่าหลังจากนี้ไป ทุกเรื่องของเจ้าจะต้องมาบอกกล่าวกับข้า ไม่ว่าใครก็ตามที่มาทำร้ายเจ้า เจ้าจะต้องบอกข้าให้หมดเพราะว่าเจ้าคือคนของข้า..ใครกล้าทำร้ายเจ้าก็เท่ากับมันผู้นั้นกำลังทำร้ายข้า"
เธอเช็ดน้ำตาของเขาอย่างอ่อนโยน
"ท่านเอลิซ่ากำลังปกป้องข้าอย่างนั้นหรือครับ นี่อาจจะผิดอยู่บ้างเพราะหน้าที่ของข้าคือการปกป้องท่านเอลิซ่า"
"มันผิดตั้งแต่ที่เจ้าไม่ใช่คนเริ่มก่อนทั้งที่เจ้าควรจะเป็นฝ่ายเข้าหาข้าก่อนแท้ๆแต่เจ้ากลับไม่ทำ!"
เขาช้อนสายตามองหน้าเอลิซ่าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ก่อนที่สายตาของเขาจะมาหยุดอยู่ที่เนินเนื้อนุ่มนิ่มที่โผล่ออกมาจนพ้นชุดเดรสของเธอ
"ถอดมันออกสิคาเมล หากอยากจะเห็นมากกว่านั้นเจ้าก็แค่ต้องถอดเสื้อผ้าของข้าออกไป"
จะไม่เป็นไรใช่ไหมนะ หากว่าเป็นท่านเอลิซ่า..นางจะเจ็บปวดรึเปล่า
เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาเคยมีความต้องการมากจนถึงขนาดไปหาโสเภณีเพื่อทำการปลดปล่อยแต่เพราะว่าเขาในตอนนี้คือแวร์บีสต์ มันป่าเถื่อนรุนแรงอีกทั้งขนาดของมันก็...
"ท่านเอลิซ่าเชี่ยวชาญเรื่องการร่ายเวทย์รักษาใช่ไหมครับ"
"อ่า นั่นเป็นเวทที่ข้าถนัดที่สุดเลยล่ะคาเมล ว่ามาสิอยากให้ข้ารักษาตรงไหน?"
"ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่รักษากับตัวข้า แต่เป็นร่ายเวทรักษาให้ตัวของท่านเอลิซ่าเอง..."
ว่ายังไงนะ?