ชายหนุ่มชวนหญิงสาวพูดคุยตลอดทางจนกลับมาถึงคอนโด เขารู้สึกเป็นห่วงคนข้างกายมากๆอยากให้เธอระมัดระวังในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น เรื่องที่เธอเกือบจมน้ำในวันนั้นเขาก็ยังไม่ลืม เขาถามหญิงสาวว่าเป็นอย่างไรบ้างนั่งรถมาเมื่อสักครู่มึนหัวไหมและตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง
“ดีจังเลยนะภามที่คุณหมอคือคุณลินเพื่อนของภาม”
“ภามวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว กระท้อนสงสัยอะไรก็ถามลินได้เลยลินน่ะเต็มใจช่วยเราสองคนอยู่แล้ว”
“หมอลินน่ารักขนาดนั้นภามไม่เคยชอบหมอลินบ้างหรอ”
“ถามอะไรอย่างนั้นล่ะถ้าภามชอบภามคงคบกับลินไปแล้ว อีกอย่างภามแย่แน่ถ้าไปชอบแฟนเพื่อน”
“เพื่อนภามน่ะหรอ”
“ใช่ แต่สองคนนั้นเลิกกันแล้วนะแต่ตอนนี้ไอ้มาร์คน่ะก็ยังตามง้อลินอยู่”
“อย่างนี้นี่เอง ถ้าคุณหมอลินยังชอบคุณมาร์คอยู่ก็ขอให้เขาสองคนคืนดีกันเร็วๆนะ”
“ภามก็คิดแบบนั้นชั่งเรื่องสองคนนั้นเถอะ ตอนนี้กระท้อนรู้สึกยังไงบ้าง” เขาถามออกไปน้ำเสียงอบอุ่น
“ตื่นเต้นน่ะสิพอรู้ว่ามีลูกอยู่ในท้อง กระท้อนว่ามันเป็นอะไรที่วิเศษมากเลยนะภาม”
“เราจะต้องดูแลลูกให้ดีที่สุดนะ”
“อะ อืม แน่น่อนอยู่แล้ว”
“ของบำรุงภามต้องซื้อของบำรุงให้กระท้อน แต่เดี๋ยวต้องไปส่งกระท้อนที่คอนโดก่อนเพราะไม่อยากให้กระท้อนเดินหรือยืนนานๆ”
“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้นะ ตั้งแต่กระท้อนจำความได้คนท้องก็ทำงานได้นะ”
“ไม่เอาหรอกไม่อยากเสี่ยง”
“งั้นก็ตามใจค่ะคุณพ่อ”
“แข็งแรงๆนะลูกพ่อภาม พ่อรักหนูรัก” เขาสามารถบอกรักคนคนหนึ่งทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ สิ่งที่เลขาสาวพูดเป็นความจริงทุกอย่างเขาเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของพ่อและแม่บ้างแล้ว
“คิกๆ” เธอหัวเราะคิกคักออกมาเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดเสียงเล็กเสียงน้อยเป็นครั้งแรก
“ตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ”
“ให้กระท้อนตั้งได้หรอ”
“ได้สิ”
“ภาม...ภูมิดีไหมถ้าเป็นผู้ชาย”
“แล้วถ้าเป็นผู้หญิงล่ะ”
“น้องภาดีไหม” หญิงสาวรีบเสนอความเห็น
“ดีที่สุดเลยชื่อน่ารักมากภามชอบ”
“ชอบก็ดีแล้ว” เธอยิ้มเต็มใบหน้าดีใจที่เขาชอบชื่อที่เธอตั้ง
“ข่าวดีแบบนี้เราต้องบอกคุณพ่อนะกระท้อน”
“อืม ท่านคงจะดีใจมากเลย ละ แล้ว...”
“แม่ของภามน่ะหรอ ภามยังไม่บอกท่านหรอก”
“อ้าวแล้วถ้าท่านมารู้ทีหลังจะไม่เป็นเรื่องหรอภาม” กระท้อนรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลนะกระท้อนเพราะภามจะบอกท่านก็ต่อเมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว” เขาไม่อยากให้ท่านมาขัดขวางอะไรตอนนี้ หญิงสาวควรได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ถ้าท่านรู้เขาคิดว่าท่านคงไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนคนเป็นพ่อแน่ๆ
“กระท้อนแล้วแต่ภามละกันนะ”
“พรุ่งนี้เราหาเวลาไปทานข้าวกับคุณพ่อแล้วก็บอกข่าวดีท่านกันเถอะกระท้อน”
“จะไปทานมื้อไหนหรอ มื้อกลางวันได้ไหม”
“ได้สิเอาที่กระท้อนสะดวกเลยเดี๋ยวภามนัดกับท่านเอง”
“ขอบคุณนะภาม เช้าๆกระท้อนตื่นไม่ไหวช่วงนี้นอนเยอะมาก”
“เพราะกระท้อนกำลังท้องไงล่ะ เดี๋ยวภามจะจ้างแม่บ้านมาดูแลกระท้อนเป็นพิเศษเลยดีไหม”
“ไม่เอาหรอกกระท้อนยังช่วยเหลือตัวเองได้”
“แต่ถ้าใกล้คลอดคงต้องยอมให้ภามหาใครสักคนมาดูแลกระท้อนตอนที่ภามไปทำงานนะโอเคไหม”
“โอเคก็ได้” เธอยอมทำตามสิ่งที่เขาต้องการเพราะสุดท้ายแล้วที่เขาทำไปก็เพราะความปลอดภัยของเธอและลูกน้อยในท้อง
วันต่อมาชายหนุ่มโทรไปนัดแนะเวลาและสถานที่กับบิดา ท่านยินดีออกมาทานข้าวกับลูกโดยที่ไม่มีผู้ติดตามมาด้วย ชายหนุ่มพาหญิงสาวเข้ามานั่งในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากบริษัทของตนเองมากนัก รอไม่นานบิดาของเขาก็มาถึงที่หมาย
“สวัสดีครับพ่อ”
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“ไหว้พระเถอะลูก นั่งๆก่อน”
“ครับ/ค่ะ”
“ข่าวดีที่จะบอกพ่อคืออะไรล่ะ”
“กระท้อนท้องแล้วนะครับพ่อ คุณพ่อกำลังจะได้เป็นคุณปู่แล้วนะครับ” ชายหนุ่มบอกออกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ฮ่าๆเรื่องจริงใช่ไหมหนูกระท้อนไม่ได้อำพ่อเล่นกันใช่ไหม”
“เรื่องจริงค่ะคุณพ่อ”
“เรื่องแบบนี้ใครเขาโกหกกันละครับพ่อ”
“พ่อแค่ดีใจที่เห็นแกดีใจขนาดนี้ไงล่ะตาภาม”
“ผมดีใจอย่างที่พ่อว่าจริงๆครับ น้ำยาผมแรงดีจริงๆ” ชายหนุ่มพูดออกไปโต้งๆทำให้หญิงสาวข้างกายแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย คนอะไรไม่รู้พูดเรื่องแบบนี้หน้าตาเฉย
“หนูกระท้อนเขาเขินหมดแล้ว”
“ฮ่าๆ เขินหรอกระท้อน ไม่ต้องเขินหรอกเพราะภามพยายามทำให้กระท้อนชินนะ” เขาบอกออกไปอย่างอารมณ์ดี คนเป็นพ่อแอบสังเกตลูกชายแล้วก็คิดว่าเจ้าลูกคนนี้มันมีความสุขจนออกนอกหน้ามากกว่าสิ่งที่ลูกเคยบอกว่าเป็นแค่การช่วยเหลือระหว่างกันเท่านั้น
“แล้วแม่เราล่ะจะบอกเขาเมื่อไร”
“หลานคลอดเมื่อไรผมถึงจะบอกครับรวมถึงพี่เปรมกับครอบครัวด้วย”
“พ่อแล้วแต่ภามละกันนะ พ่อรู้ว่าภามรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร”
“ขอบคุณครับที่พ่อเข้าใจผม”
“ดูแลหนูกระท้อนดีๆล่ะรู้ไหม”
“เรื่องนี้คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมจะดูแลกระท้อนอย่างดีเลยครับ”
“อย่างนั้นพ่อก็วางใจ ลูกชายพ่อปกติยุ่งแต่กับงานช่วงนี้อาจจะมายุ่งกับหนูกระท้อนเยอะหน่อยทำใจหน่อยนะลูก”
“ค่ะคุณพ่อ”