bc

ตอบแทนด้วยรัก

book_age16+
384
FOLLOW
1K
READ
family
HE
blue collar
sweet
bxg
brilliant
detective
campus
like
intro-logo
Blurb

ประโยคที่หญิงสาวบอกกับเขาในวันนั้นมันดังก้องในหูเขาในตอนนี้ จู่ๆมารดาก็ยื่นคำขาดว่าหากเขาไม่สามารถมีหลานให้ผู้เป็นแม่ได้ภายในหนึ่งปีจะถูกตัดออกจากกองมรดก ซึ่งเขาเองก็เป็นประเภทที่รักความเป็นส่วนตัวไม่อยากให้ใครหน้าไหนมายุ่งเกี่ยวแต่กับกระท้อนเขาไม่คิดแบบนั้น เขาคิดว่าหญิงสาวเหมาะสมแล้วที่จะมารับหน้าที่แม่อุ้มบุญลูกที่กำลังจะเกิดมา ด้านหญิงสาวพอรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือก็ตอบตกลงทันทีแม้สิ่งที่เขาขอร้องให้ช่วยมันจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม

"ขอบคุณที่ช่วยเหลือกระท้อนนะภาม ในอนาคตถ้าภามอยากให้กระท้อนช่วยอะไรภามบอกกระท้อนได้เลยนะ"

"กระท้อนยังจำประโยคนั้นได้อยู่หรือเปล่า ตอนนี้ภามมีเรื่องให้กระท้อนช่วย"

"..."

“ช่วยมาเป็นแม่ให้ลูกของภามหน่อย”

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 บทนำ
หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดเขาก็จมอยู่กับความคิดตัวเองที่พยายามจะหาทางออก จู่ๆประโยคหนึ่งในอดีตที่เขาไม่คิดว่าในอนาคตเธอจะตอบแทนอะไรเขาได้กับเป็นหนทางเดียวที่เขาจะรอด "ขอบคุณที่ช่วยเหลือกระท้อนนะภาม ในอนาคตถ้าภามอยากให้กระท้อนช่วยอะไรภามบอกกระท้อนได้เลยนะ" ประโยคที่หญิงสาวบอกกับเขาในวันนั้นมันดังก้องในหูเขาในตอนนี้ มารดายื่นคำขาดว่าหากเขาไม่สามารถมีหลานให้เขาได้ภายในหนึ่งปีจะถูกตัดออกจากกองมรดก ซึ่งเขาเองก็เป็นประเภทที่รักความเป็นส่วนตัวไม่อยากให้ใครหน้าไหนมายุ่งเกี่ยวแต่กับกระท้อนเขาไม่คิดแบบนั้น เขามองเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่สามารถปรึกษาเรื่องต่างๆได้และเขาคิดว่าหากกระท้อนรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ได้ก็วินๆทั้งคู่นี่หน่าไม่เห็นมีอะไรเสียหาย ภรัณยู หรือ ภาม รีบต่อสายหาเพื่อนสมัยเด็กของเขาทันทีที่คิดว่านี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้เขา "ฮัลโหล" "สวัสดีครับใช่กระท้อนไหมครับ" "ใช่ค่ะใครกำลังพูดสายคะ" "ภาม จำภามได้ไหม" "ภาม? นายปลาหมึกหรอ" "อย่าเรียกแบบนั้นสิ" หลายปีก่อน เขายังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี เขามีโอกาสได้ไปค้างต่างจังหวัดกับคุณย่าคุณปู่หลายวันนั่นทำให้เขาได้รู้จักกับกระท้อนสาวน้อยมากความสามารถ ที่นั่นบรรยากาศดีมากยามเช้าก็จะมีหมอกปกคลุมอากาศเย็นสบายไม่ร้อนและให้ความรู้สึกแออัดเหมือนอยู่ในเมืองหลวงของไทย กระท้อนอาศัยในระแวกเดียวกันกับชายหนุ่มทำให้มีโอกาสได้มาเล่นด้วยกันและมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาฝึกกินปลาหมึกสดครั้งแรกและมันก็เกาะหนึบที่ใบหน้าของเขา เขาร้องโวยวายเพราะความตกใจจนกระท้อนที่เดินผ่านมาต้องรีบเข้ามาช่วย "แค่นี้เองไม่เห็นต้องโวยวายเลยนะภาม" "ขอบใจนะ" "ขอตัวก่อน" "เดี๋ยวสิจะรีบไปไหนน่ะ" "ไปหาคุณยายที่โรงพยาบาล" "คุณยายเป็นอะไรหรอ" "ไม่รู้สิรู้แต่ว่าท่านต้องผ่าตัด แม่บอกมาแค่นั้น" "เป็นหนักเลยหรอ" "ใช่ ฉันอยากช่วยแม่หาเงิน แม่บอกว่ามันแพงมาก" "จริงหรอให้ภามช่วยดีไหม" "นายมีเงินหรอยังเด็กเหมือนกระท้อนไม่มีผิด" "ไม่มี" "อ้าว" คำตอบของภามทำให้ความหวังที่มีอยู่น้อยนิดดับสูญ "แต่พ่อภามมีนะ พ่อภามช่วยได้" "เกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจหรอก เดี๋ยวคุณยายก็ไม่ได้ผ่าตัดหรอกถ้ามัวแต่เกรงใจ" ภรัณยูหนุ่มน้อยวัยสิบสี่ปีโทรหาคนเป็นพ่อทันที เขามั่นใจว่าบิดาของเขาจะต้องช่วยคุณยายของกระท้อนได้แน่ๆ บิดาของเขามักจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ค่าใช้จ่ายที่แม่ของกระท้อนต้องจ่ายส่วนต่างประมาณสองหมื่นกว่าบาทแม้จะไม่ใช่จำนวนที่น้อยแต่เขามั่นใจแน่นอนว่าพ่อของเขาจ่ายไหว การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีแต่ที่บ้านยังหาเงินได้ไม่พอมารดาของกระท้อนจึงอยากจะมาขอผ่อนผัน “ยาย! ยายฟื้นแล้ว เย้ๆ ยายของกระท้อนฟื้นแล้ว” กระท้อนกระโดดโลดเต้นดีใจยกใจเมื่อคุณยายฟื้นคืนสติ “เสียงดังจริงๆหลานสาวคนนี้” ยายกระจ่างบอกออกไปน้ำเสียงแหบพร่า “ฮ่าๆก็กระท้อนดีใจนี่หน่า รักยายนะคะ” “ดื่มน้ำก่อนจ้ะแม่” “ขอบใจนะแม่กระถิน ยายก็รักกระท้อนนะ รักมาก กระท้อนกับแม่ของกระท้อนเป็นดวงใจของยายนะรู้ไหม” “รู้สิคะเพราะยายกับแม่ก็เป็นดวงใจของกระท้อนเหมือนกัน” กระถินยิ้มทั้งน้ำตาดีใจที่ผู้เป็นแม่ปลอดภัยดีแล้ว แต่ในใจก็นึกเป็นกังวลเรื่องค่ารักษา เธอไม่แน่ใจว่าทำไมได้ผ่าตัดทันทีทั้งๆที่ยังไม่ได้ชำระค่าผ่าตัดบางส่วนตามข้อตกลง "คะ คือค่ารักษา..." "ค่ารักษาของคุณยายกระจ่างถูกชำระแล้วนะคะ ไม่มียอดค้างค่ะ" "อะไรนะคะ" กระถินถามออกไปเสียงดัง หล่อนฟังอะไรผิดไปหรือเปล่านะ กระถินเดินใจลอยกลับมาหาลูกสาวที่นั่งรออยู่ที่ม้านั่ง "แม่เป็นอะไรไปจ๊ะ" "มีคนใจดีมาจ่ายค่ารักษาของยายให้เราแล้วลูก แม่ดีใจจริงๆ แม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่ถ้าสักวันแม่รู้แม่จะต้องขอบคุณเขาช่วยเหลืออะไรก็ได้ที่เราพอจะช่วยเหลือได้เป็นการตอบแทนบุญคุณ กระท้อนยิ้มออกมาเต็มใบหน้าดีใจที่สิ่งที่ภามพูดมันเกิดขึ้นจริง พ่อของภามช่วยให้คุณยายได้ผ่าตัดสำเร็จ "ขอบคุณที่ช่วยเหลือกระท้อนนะภาม ในอนาคตถ้าภามอยากให้กระท้อนช่วยอะไรภามบอกฉันได้เลยนะ" "ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อยหน่า ช่วยเหลือกันมันเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่หรอ" เขาถามออกไปยิ้มๆ แค่คนข้างกายรู้สึกไม่เป็นทุกข์เขาก็พอใจแล้ว ในใจเขาคิดว่าเงินแค่นี้พ่อเขาไม่สะท้านหรอกชิลๆ ปัจจุบัน "จำได้หรือยังกระท้อน" "อืม จำได้แล้ว" "กระท้อนจำที่เคยสัญญากับเราได้ไหมกระท้อน" "จำได้สิ ภามอยากให้กระท้อนช่วยอะไรล่ะ" "อยู่กรุงเทพใช่ไหม" "ใช่ตั้งแต่เรียนจบกระท้อนก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพ" "คุณยายเป็นไงบ้าง" "ท่านเสียไปห้าปีเห็นจะได้" "เสียใจด้วยนะ" "กระท้อนทำใจได้แล้วล่ะ ว่าแต่จะให้ทำอะไรก็บอกมาเถอะ" "มาหาภามที่คอนโดสิแล้วจะรู้" "ทำไมต้องไปที่คอนโดล่ะไปที่อื่นแทนได้ไหม เราเป็นผู้หญิงมันเสียหายนะ" ภรัณยูหนุ่มโสดที่ควงสาวไม่ซ้ำหน้าขึ้นคอนโดลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปซะเสียสนิท ผู้หญิงที่เข้าหาเขามีแต่คนอยากจะพลีกายให้เขาทั้งนั้น "ก็ได้ๆขอโทษที งั้นมาตามที่อยู่ที่จะส่งให้แล้วกันนะ" "ก็ได้แล้วเจอกัน" กระท้อสตัดสินใจได้อย่างง่ายดายเพราะไม่ว่าเขาจะให้ทำอะไรเธอก็พร้อมจะตอบแทนบุญคุณของเขาอยู่แล้ว เธอมาถึงที่นัดฟมายก่อนเวลาห้านาที รอไปอีกสักพักก็มีชายหนุ่มรูปงามรูปร่างสูงโปร่งปรากฎตัวขึ้น เขาสวมแว่นตาดำ ผิวขาวจัดของเขาตัดกับสูทสีดำดูภูมิฐานมากๆ "อะ เอ่อภามใช่ไหม" เธอถามออกไปอย่างไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าใช่เขาเพราะเธอรู้จักคนไม่เยอะ "ใช่เราภาม กระท้อนเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ" เขาเองก็แอบพิจารณาผู้หญิงตรงหน้าเช่นกัน หญิงสาวเปลี่ยนจากเด็กกะโปโลมาเป็นนางฟ้าเลยก็ว่าได้ เธอมีผิวสีน้ำผึ้งเป็นเอกลักษณ์ ใบหน้ารูปไข่ถูกแต่งแต้มให้สวยงามเหมือนนางเอกละครยังไงยังงั้น "เราโตแล้วเราก็ต้องดูแลตัวเองสิ" "มีหนุ่มมาจีบหรือยัง ไม่ใช่สิมีแฟนหรือยัง" เขาถามหญิงสาวออกไปตรงๆอย่างไม่อยากอ้อมค้อม "ยังไม่มีแฟน" "เยี่ยม" "หืม ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นล่ะ" "เพราะถ้ากระท้อนมีแฟนกระท้อนคงช่วยเราไม่ได้" "มะ หมายความว่ายังไงนะกระท้อนไม่เข้าใจ" "เราต้องการให้กระท้อนอุ้มท้องลูกของเรา" "อะไรนะ" เธอถามกลับอย่างไม่เชื่อหู เขาต้องสื่อสารอะไรบางอย่างผิดไปแน่ๆ "ไปเรียนเมืองนอกมาหลายปีกระท้อนว่าภามน่าจะใช้คำผิดนะ" "ไม่ผิดแน่นอน ภามอยากให้กระท้อนเป็นแม่ของลูกภาม" "..." "คุณย่าต้องตัดภามออกจากกองมรดกแน่ๆถ้าภามไม่มีหลานไปให้ท่านเชยชมอุ้มชู" "มันจะบ้าไปใหญ่แล้ว นี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะภาม" "เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่น่ะสิภามถึงได้ขุดสัญญาที่กระท้านเคยให้ขึ้นมา" "ผู้หญิงในโลกนี้มีตั้งเยอะแยะทำไมถึงเลือกกระท้อนล่ะ" เธอไม่เข้าใจความคิดของชายหนุ่มจริงๆ "เพราะว่าผู้หญิงคนอื่นจ้องจะจับภามเพราะเงินของภาม" "แล้วไม่คิดว่ากระท้อนก็จะจับบ้างหรอ" ชายหนุ่มถึงกับส่ายหัวไปมาเบาๆแล้วก็ยิ้มออกมา "เพราะภามรู้ไงว่ากระท้อนไม่ใช่คนแบบนั้น" "เอาอะไรมามั่นใจอ่ะถามจริงๆนะ" "ไม่รู้สิแต่มันมั่นใจไปแล้ว แล้วสรุปจะช่วยไหม" "แล้วคิดว่ากระท้อนปฎิเสธได้หรอ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าต้องพึ่งวิทยาศาสตร์นะ" "ได้สิวิธีไหนก็ได้ขอให้มีลูกได้ก็พอ วิธีธรรมชาติภามก็ไม่ขัดนะ" เขาส่งสายตาเป็นประกายไปให้หญิงสาว "ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั้นเลยนะเพราะว่ากระท้อนไม่หลงกล" เธอเชิดหน้าขึ้นนิดๆอย่างเป็นต่อ "กระท้อนก็ยังเป็นกระท้อนอยู่วันยังค่ำ" "ละแล้วจะเริ่มเมื่อไรล่ะ" "วันจันทร์ดีไหม" "บะ บ้าหรอพรุ่งนี้วันจันทร์แล้วนะ" "ใช่ไงยิ่งเร็วยิ่งดี" "ละ แล้วงานของกระท้อนล่ะกระท้อนจะทำยังไง" "ไปลาออกเถอะเราเลี้ยงกระท้อนได้" "แล้วหลังจากนั้นล่ะ กระท้อนไม่กลายเป็นคนตกงานหรอ" "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะยังมีบริษัทของภามรองรับอยู่แน่นอน" "เอาอย่างนั้นก็ได้" ในใจของหญิงสาวคิดว่าแค่ไม่กี่เดือนเธอก็คลอดลูก หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็คงแยกย้ายกันไปจึงไม่จำเป็นที่ต้องปรึกษาคนเป็นแม่อย่างกระถิน ภามพากระท้อนมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ผลออกมาดีทั้งคู่เลย การอุ้มบุญคือการนำตัวอ่อนฝังเข้าไปในมดลูกของหญิงที่อุ้มบุญ ซึ่งตัวอ่อนที่ว่าคือสเปิร์มของเขากับไข่ของหญิงสาวนั่นเอง คุณหมอยังแอบสงสัยและบอกว่าทั้งสองคนร่างกายแข็งแรงแบบนี้ทำไมไม่ลองวิธีธรรมชาติก่อนจะมาเสียตังค์แพงๆทำไมกัน "หมอคิดว่าวิธีธรรมชาติก็น่าสนใจนะคะ" คุณหมอเสนอความเห็น "วิธีไหนที่มันได้ผลลัพธ์แน่นอนก็เอาวิธีนั้นแหละหน่า" "พูดกับคุณหมอดีๆสิภาม" หญิงสาวเอ่ยเตือนชายหนุ่มอย่างสุภาพ "ฮ่าๆฉันเห็นแววในอนาคตของแกแล้วนะภาม" ลินดาแอบขำที่เห็นเพื่อนหน้าสลดเมื่อถูกหญิงสาวที่พ่วงตำแหน่งแม่อุ้มบุญของเพื่อนดุเอา "อะ อ้าว" นี่เขาสองคนรู้จักกันหรอกหรอเธอได้แต่คิดในใจ "พวกเราเป็นเพื่อนกัน" คิ้วที่ผูกกันเป็นปมของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเฉลย "ลินดาค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาคุณกระท้อนทุกเรื่องเลยนะคะโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง" "ทะลึ่งไอ้ลิน" "ฮ่าๆ" คุณหมอสาวหัวเราะออกมาคิกคัก เธอเสนอให้เพื่อนใช้วิธีทำกิฟต์ถ้าไม่อยากใช้วิธีธรรมชาติ การทำกิฟต์เป็นการดูดเอาไข่ที่ถูกกระตุ้นออกมาจากรังไข่แล้วนำมาผสมกับอสุจิที่ได้คัดเลือกแล้วว่าสมบูรณ์ จากนั้นจะฉีดเข้าไปในท่อนำไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติ เมื่อเมื่อมีการปฏิสนธิกันแล้วตัวอ่อนจะเคลื่อนไปตามท่อนำไข่แล้วฝังอยุ่ในโพรงมดลูกหลังจากนั้นก็จะเกิดการตั้งครรภ์ตามปกติ "ขอบใจมากนะที่วันนี้มีคิวให้" "สำหรับเพื่อนรักว่างเสมอค่า จะเข้ามาทำตอนไหนก็บอกนะ" "โอเค ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างแกจะเป็นหมอได้นะ" "อ้าวเห้ยแกนี่มัน คุณกระท้อนก็ถือซะว่าทำบุญใหญ่ปลดปล่อยความทุกข์ให้เสือนะคะ" หญิงสาวทำหน้างง "เสืออะไรของแก" ภรัณยูเองก็ไม่เข้าใจที่เพื่อนต้องการจะสื่อ "ก็เสือผู้หญิงอย่างแกไงล่ะ กว่าจะตั้งท้องกว่าจะคลอดลินคิดว่าคุณกระท้อนจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเลยนะคะเพราะจะมีผู้หญิงสาวคนมาฉีกอกคุณกระท้อนได้" "อย่ามาพูดให้กระท้อนกลัวเล่นๆสิ" "กระท้อนไม่กลัวหรอกค่ะ ให้เป็นไม้กันหมาด้วยใช่ไหมละคะ" เธอถามกลับชายหนุ่มยิ้มๆ "ใช่เลย" "เห็นม่ะไม่เป็นอย่างที่ฉันพูดตรงไหนไม่ทราบ" "เงียบไปเลยขอยาบำรุงให้กระท้อนด้วย" "ได้เลยค่ะคุณเพื่อน" หลังจากปรึกษาเพื่อนสาวที่เป็นหมอเรียบร้อยเขาก็พาเธอมาส่งที่ห้องพักของเธอ "พักอยู่ที่นี่หรอ" "อืม ค่าเช่ามันถูกน่ะ" "มันดูไม่ปลอดภัยเลยนะกระท้อน" "กระท้อนอยู่มาได้ตั้งนานไม่เป็นอะไรหรอก รีบกลับเถอะเดี๋ยวรถจะติดนะ" "อืม อยู่ห้องที่เท่าไร" "205 ชั้นสองห้องห้า" "ล็อคห้องดีๆล่ะ" "ค่าคุณพ่อ" คุณพ่อหรอ เขาอยากเป็นคุณพ่อเหมือนกันแฮะ ชายหนุ่มขับรถออกไปทันที หญิงสาวเดินไปยังห้องพักของตน ควานหากุญแจห้องในกระเป๋าอย่างยากลำบากเพราะไฟเน้ากรรมหน้าห้องดันมาเสียซะได้ "กลับมาดึกจังเลยนะน้องสาว" "อะ เอ่อค่ะพอดีไปธุระกับแฟน" "ฮ่าๆ อย่ามาโกหกกันเลยพี่รู้ว่าน้องไม่มีแฟน" ชายคนดังกล่าวขยับเข้ามาใกล้จนหญิงสาวได้กลิ่นแอลกอฮอล์ "พี่พักอยู่ที่นี่เหมือนกันหรอคะไม่เคยเห็นหน้า" "พี่มาหาเพื่อนแล้วก็เจอน้องพอดี" ชายตรงหน้าจ้องมองเธอแทบจะกลืนกิน สติที่มีของเขาคงเหลืออยู่น้อยนิด "พี่ถอยไปเถอะค่ะหนูจะเข้าห้องแล้ว" "พี่ขอเข้าไปด้วยสิ" เขายกมือขึ้นมากุมที่ลูกบิดประตูทำให้เธอไขกุญแจเข้าห้องไม่ได้ ที่นี่ไม่ปลอดภัยอย่างที่ภรัณยูว่าแต่เธอก็ไม่คิดว่าโชคร้ายจะมาตกอยู่ที่เธอ "ถะ ถอยไปสิคะ เราอย่ามายุ่งเกี่ยวกันดีกว่าค่ะ ต่างคนต่างไปเถอะนะคะ พี่มาหาเพื่อนเสร็จพี่ก็ควรกลับได้แล้ว" "ปากดีนักนะ อย่าจะรู้นักว่าถ้ามานอนใต้ร่างฉันยังจะปากดีอยู่ไหม" "กรี๊ดด ออกไปนะ โอ๊ย!" เธอพยายามปัดป้องแต่ไม่สำเร็จ หญิงสาวจุกจนตัวงอเพราะคนร้ายชกเข้าที่หน้าท้องอย่างจัง มันกะว่าไม่ให้เธอต่อกรอะไรได้อีก เอาจริงๆที่ห้องเช่าแห่งนี้ก็มีผัวเมียทะเลาะกันบ่อยๆนั่นจึงเป็นเหตุผลให้คนอื่นๆไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเพราะที่ผ่านมาก็กลับไปดีกันเหมือนเดิม แต่สำหรับเธอมันต่างออกไปมันกำลังจะกลายเป็นจุดจบของเธอ เธอขัดขืนมากๆมันก็อาจจะฆ่าเธอปิดปากเลยก็ได้ "สิ้นฤทธิ์แล้วน่ะสิ มานี่คืนนี้เรามาสนุกกัน" มันบอกออกมาน้ำเสียงดี้ด้าสุดๆ ต่างจากเธอที่กลัวจนเหงื่อชื่นทั้งใบหน้าและมือทั้งสองข้าง "มะ ไม่นะ" เธอบอกออกไปน้ำเสียงแผ่วเบา มันเบาจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน ชีวิตของเธอคงจบแล้วสิคะ ถ้าตัวเธอสกปรกเธอก็คงนะช่วยภรัณยูไม่ได้แน่ๆ ด้านภรัณยูเขาขับรถออกไปแล้วก็จริงแต่พอมองเบาะข้างๆก็เห็นว่าเธอลืมกระเป๋าใบน้อยเอาไว้ เขาคิดว่ามันต้องสำคัญกับเธอแน่ๆจึงได้วนรถเอากลับมาคืนให้ แต่ก็เป็นจังหวะที่เขาเห็นว่าเธอกำลังจะถูกทำร้ายพอดี "คิดจะทำอะไรห่ะ" ภามตะโกนถามออกไปเสียงดัง ความหวังของเธอยังไม่ดับสูญสินะเขามาช่วยเธอแล้ว "เรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง" "เมียบ้านแกน่ะสินั่นน่ะเมียฉัน ภรัณยูตะโกนออกไปเสียงดังจนชาวบ้านเริ่มแตกตื่นเปิดประตูออกมาดู คนร้ายมันกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่จึงรีบหาจังหวะหลบหนีตอนที่ชายหนุ่มก้มลงไปดูอาการของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่ "เดี๋ยวสิว่ะ" เขาหันไปหยุดคนร้ายเอาไว้ "อยู่ก็โง่แล้ว" มันตะโกนกลับมาเสียงดังจากนั้นก็หลบหนีไปทันที "จับตัวมันให้ทีครับ เป็นอะไรไหม" ประโยคหลังเขาหันมาถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง "ปวดท้อง" "มันต่อยกระท้อนหรอ" สาวสวยพยักหน้าหงึกๆ เขารู้สึกเจ็บใจมากๆที่มันหนีไปได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่หญิงสาวควรจะอาสัยอยู่อีกต่อไป "ที่นี่อันตรายเกินไปกระท้อนต้องย้ายไปอยู่กับภาม" ชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงจริงจัง "ว่าไงนะ" "เก็บของเท่าที่จำเป็นแล้วกระท้อนต้องย้ายออกทันที ที่นี่ไม่สมควรอยู่แม้แต่นาทีเดียว" "ตะ แต่กระท้อนเพิ่งจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปนะเสียดายเงิน" "เรื่องเงินชั่งมันเถอะไม่ตายก็หาใหม่ได้จริงไหม เห็นไหมว่าเป็นอย่างที่ภามเตือนก็ไม่เชื่อเกือบไปแล้วไหมล่ะ อันตรายจริงๆ มันมาในรูปสัตว์นรกชัดๆ" เขาบอกเธอเสียงเข้ม และมันก็จริงอย่างที่เขาบอกทุกอย่างนั่นแหละ ไอ้เลวนั่นมันคือสัตว์นรกชัดๆ "ขอบคุณนะที่มาช่วยได้ทัน กระท้อนเป็นหนี้บุญคุณภามอีกแล้ว" เธอรู้สึกเหมือนสวรรค์มาโปรดบุญของเธอยังพอมีบ้างแน่ๆถึงได้มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย "อย่าคิดแบบนั้นสิรีบไปเก็บของเร็วเถอะ เอาแต่จำเป็นนะแล้วนี่ต้องไปโรงพยาบาลไหม ไหวหรือเปล่า" "ไม่เอากระท้อนอยากนอนพักไม่อยากไปโรงพยาบาล" "เป็นเด็กกลัวโรงพยาบาลหรอเนี่ย" "อืม กระท้อนไม่ชอบเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง" "ถ้าไม่ไหวต้องไปนะห้ามฝืนเข้าใจไหม" เขากำชับอีกครั้งหนึ่ง "อืม" ข้าวของของหญิงสาวมีไม่มากใช้เวลาแปบเดียวก็เก็บของสำคัญมาได้หมด "ไปกันเถอะ รับรองว่าคอนโดของภามปลอดภัยแน่นอน" "อืม" หญิงสาวรู้สึกเสียขวัญเป็นอย่างมาแต่ก็มีภรัณยูคอยปลอบขวัญอยู่ข้างกาย อย่างน้อยเวลานี้เธอก็ยังมีเขาเป็นที่พึ่ง เขาบอกว่าจะพาเธอไปพักด้วยกัน ครั้งนี้เธอปฏิเสธเขาไม่ได้แล้วเพราะที่พักที่เคยเป็นที่พักตอนนี้มันเป็นที่ที่ทำให้เอรู้สึกหวาดกลัว เขาพาเธอมาที่คอนโดสุดหรูของตน ชั้นบนสามารถมองเห็นวิวรอบกรุงเทพมหานครบอกเลยว่าน่าประทับใจมาก ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมแถมชั้นที่เขาอยู่ก็ไม่มีคนอื่นมาอยู่ปะปนด้วยนั่นทำให้ปลอดภัย 100% "ต้องหรูขนาดนี้เลยหรอ" หญิงสาวตื่นตาตื่นใจที่ได้เข้ามาในห้องพักสุดหรูของชายหนุ่ม มองออกไปที่ระเบียงเห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ "อยู่สูงขนาดนี้ยังมีสระว่ายน้ำด้วยหรอ" เธอถามออกไปด้วยความแปลกใจ เงินนี่มันเนรมิตทุกอย่างได้จริงๆสินะ การที่จะสร้างสระว่ายน้ำบนนี้ต้องใช้เงินมากขนาดไหนกันนะ เธอเคยคำถามต่างๆมากมายในหัว "ก็ภามชอบว่ายน้ำนี่จะไม่มีสระส่วนตัวได้ยังไง" "วันหลังสอนบ้างสิอยากว่ายท่าต่างๆได้บ้าง ตอนเด็กๆว่ายแต่น้ำคลอง คิกๆ" เธอหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนเป็นเด็กไม่เคยต้องเครียดหรือแบกรับภาระอะไรเลยต่างจากตอนโตเป็นผู้ใหญ่ "ได้เลย ตอนนี้ก็ไปพักก่อนเถอะ คืนนี้นอนที่ห้องนอนแขกก่อนแล้วกันนะ ป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องให้ภามประจำอยู่แล้ว" "ขอบคุณมากนะ ดีจัง" "อย่าขอบคุณกันบ่อยๆเลยนะ เราสองคนยังต้องพึ่งพากันอีกนานแน่ๆเชื่อภามสิ" "อืม ก็จริงงั้นขอไปนอนก่อน เอาจริงๆมันเริ่มระบมแล้วล่ะ" "อย่าลืมที่บอกนะไม่ไหวอย่าฝืน" "โอเค" กว่าเธอจะข่มตานอนหลับก็เป็นเวลาตีสองแล้ว พอหลับก็ดันนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เธอต้องกรี๊ดออกมาเสียงดัง ภรัณยูได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวจึงรีบวิ่งมาดู “เป็นอะไรไปกระท้อน” “กระท้อนฝัน” เธอตอบกลับเสียงเบา ในฝันมันน่ากลัวมากๆ “ฝันร้ายหรอ” “อืม เหตุการณ์มันเหมือนตอนนั้นเลย” เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเธอกำลังหมายถึงตอนไหน “ไม่ต้องกลัวนะกระท้อนอยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นอน” “เฮ้อ มันคงฝังใจกระท้อนไปแล้ว” “ภามเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่างได้ กระท้อนอดทนนะ” “อืม ขอบใจภามมากนะ กระท้อนไม่รู้จะต้องทำยังไงถึงจะตอบแทนบุญคุญของภามได้หมด” “เลิกคิดเรื่องบุญคุณเถอะเป็นคนอื่นภามก็ต้องช่วย” เป็นธรรมดาที่เมื่อเห็นคนเดือดร้อนอยู่ข้างหน้าก็ต้องให้การช่วยเหลือ “ก็ได้ขอบใจนะ” “อืม นอนหลับซะนะมันไม่มีอะไรหรอก พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเจอแต่สิ่งดีๆเชื่อภามนะ” “โอเค” หลังจากที่ได้คุยกับชายหนุ่มเธอก็ไม่ฝันร้ายอีกเลยตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมาหญิงสาวถูกปลุกจากการหลับใหลด้วยกลิ่นหอมๆของอาหารเช้า วันนี้ชายหนุ่มเข้าครัวด้วยตนเองเพราะเขากะจะทำเมนูง่ายๆอย่างไส้กรอกกับไข่ดาวให้หญิงสาวทานแทนการรอข้าวเช้ามาเสริฟ์ "ทำอะไรน่ะ" "อาหารเช้าไง" "ภามทำเป็นด้วยหรอ" เธอถามออกไปตาโตเพราะคิดว่าชายหนุ่มไม่น่าจะลงมือทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง "อย่าดูถูกกันสิเมนูง่ายๆก็พอทำได้" "ดีเลยภามสอนกระท้อนว่ายน้ำ กระท้อนจะสอนภามทำกับข้าว" "จริงนะ" "จริงสิ กระท้อนนี่เซียนการทำกับข้าวเลยนะจะบอกให้" "งั้นก็ดีเลยปกติทานแต่อะไรง่ายๆเพราะกลัวไปทำงานสาย" "ก้ยังดีกว่าไม่มีอะไรรองท้องนะ กระท้อนน่ะบางวันก็ไม่ได้ทาน" "ไม่ทานอาหารเช้าไม่ดีต่อสุขภาพนะ" "กระท้อนรู้แต่สถานการณ์มันเร่งรีบไง ถ้ามัวมานั่งทานมีหวังไปทำงานสายโดนถูกหักเงินเดือนแน่ๆ" "ต่อไปนี้ต้องทานทุกเช้าเลยนะ" "ค่ะคุณพ่อ บ่นเป็นพ่อเลยนะ" "ก็อีกเดี๋ยวก็จะกลายเป็นพ่อแล้วป่ะ" "ก็จริงอีกนั่นแหละ กระท้อนขอไปอาบน้ำก่อนนะ" “ไปสิอีกเดี๋ยวก็คงเสร็จแล้ว” หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเธอก็มานั่งประจำที่รอชายหนุ่มยกอาหารเช้าแสนอร่อยออกมารับประทานพร้อมกัน “หน้าตาน่าทานมากเลย” “แต่ไม่รู้รสชาติจะเป็นยังไงนะ” “ต้องลอง มาๆหิวแล้ว” “เดี๋ยวกระท้อน” “ว่าไง” "ถามจริงๆกระท้อนโอเคใช่ไหมที่มารับหน้าที่นี้ ภามไม่อยากกดดันกระท้อนเพราะเรื่องบุญคุณนะ" "ทำไมจะไม่โอเคล่ะในเมื่อหน้าที่นี้คงเป็นของกระท้อนตั้งแต่แรกแล้วล่ะมั้ง ภามถึงยังได้ไม่หาใครมาทำแทน" เธอตอบกลับท่าทีสบายๆ เห็นแบบนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจ "จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมเท่ากระท้อนแล้วในสายตาของภาม" "จะสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่กระท้อนก็เอาใจช่วยนะ" "กระท้อน" "ว่าไง" "วันนี้ไปลาออกจากงานเลยนะต่อจากนี้ภามให้กระท้อนใช้ชีวิตอย่างคุณนายได้เลย" "จริงหรอ" "จริงสิ" "เห้อ ชีวิตบทจะสุขสบายก็สุขสบายง่ายๆอย่างนี้เลยเนาะ ภามรู้ไหมว่าตั้งแต่ที่คุณยายกระจ่างเสียชีวิตไป กระท้อนก็ลุกขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนแม่ แม่ก็แก่ลงทุกวันกระท้อนส่งเงินให้แกใช้ทุกเดือนถ้าลาออกแล้วกระท้อนจะเอาเงินที่ไหนส่งกลับล่ะ" เธอถามกลับอย่างปลงๆ เงินมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเธอและครอบครัว ยังดีที่บ้านที่ต่างจังหวัดเป็นของมารดาไม่งั้นคงต้องมีค่าเช่าตามมาด้วย "ภามให้เดือนละสองหมื่นห้าพอไหม ไม่รวมค่ากินค่าน้ำค่าไฟเพราะพวกนั้นภามออกเองอยู่แล้ว" "เห้ย นั่นเยอะกว่าเงินเดือนทั้งเดือนของกระท้อนซะอีก" "จริงหรอทำไมน้อยจัง" เขาถามกลับด้วยความสงสัย "ตำแหน่งเล็กๆก็แบบนี้ล่ะจะร้องเรียกอะไรไม่ได้มากหรอกนะ" "เอาเป็นว่าภามให้สองหมื่นห้าแล้วกระท้อนบริหารเองแล้วกันนะ เงินส่วนนี้ภามจะไม่ยุ่งภามบอกว่าภามเลี้ยงกระท้อนได้ก็คือเลี้ยงได้สบายมาก" "ได้เลย ขอบคุณภามมากเลยนะ กระท้อนไม่รู้จะต้องขอบคุณยังไงแล้ว" เธอรู้สึกซาบซึ้งใจที่เขาดีกับเธอยิ่งกว่าญาติเสียอีก "ภามอยากให้กระท้อนสบายใจที่สุด การอุ้มบุญจะได้ผ่านไปด้วยดีไง" "จริงด้วยงั้นภามต้องตามใจกระท้อนนะ" เธอบอกออกไปขำๆไม่คิดจริงจังแบบที่พูดหรอก "ได้เลยจะเอาอะไรว่ามา" สายเปย์เขาถนัดอยู่แล้ว "ฮ่าๆ กระท้อนล้อเล่น กระท้อนไม่กล้าขออะไรแล้วล่ะแค่นี้ก็มากพอแล้ว" "ขอได้ขอได้เท่าที่กระท้อนต้องการเลยนะ" "ไม่เอาหรอกกระท้อนเกรงใจ" "เกรงใจอีกแล้วเราเป็นเพื่อนกันอย่าเกรงใจนักเลย" "มันอดไม่ได้นี่ อิ่มจัง" "อร่อยไหม" "พอไปได้" "ฮ่าๆ ไม่อร่อยก็บอกมาเถอะ" เขาหัวเราะออกมาเบาๆ "อร่อยๆ มันอร่อยแล้ว" "เอาไว้วันหลังก็ทำให้ภามทานบ้างสิจะได้รู้ว่าที่อร่อยมันเป็นยังไง" "งั้นเอาเป็นต้มยำกุ้งสูตรยายกระจ่างก่อนไหม" "เอาสิ แถวนี้มีห้างสามารถเดินไปได้นะเพราะไม่มีวัตถุดิบอะไรให้กระท้อนเลย" "ได้เลยเดี๋ยวกระท้อนไปเอง มื้อนี้กระท้อนเลี้ยง" "รอทานนะ" "อืม เอาไว้เลิกงานก่อนนะ" "โอเค" กระท้อนออกไปทำงานหลังจากรับประทานมื้อเช้าที่ชายหนุ่มตั้งใจทำให้ หน้าคอนโดของเขาติดกับสถานีรถไฟฟ้าทำให้เดินทางไปทำงานสะดวกมากขึ้น เธอไม่ต้องนั่งวินหรือรถเมล์โดยสารที่แออัดไม่มีที่นั่งว่างเผื่อเธอสักครั้ง เมื่อมาถึงเธอก็เจอกับพี่ปุ๊กพี่ที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่แรกเริ่ม "อ้าวยัยกระท้อนวันนี้ทำไมมาเร็ว" ปุ๊กอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นรุ่นน้องสาวมาทำงานเช้ากว่าทุกวันแถมวันนี้ยังดูไม่วุ่นวายเหมือนทุกวันที่ผ่านมา "วันนี้รถไม่ติดค่ะเพราะมาบนฟ้า" เธอตอบกลับรุ่นพี่สาวกวนๆ "ห่ะ" "คิกๆ กระท้อนนั่งรถไฟฟ้ามาค่า" "มาแปลกนะวันนี้ปกติผมยุ่งมาเลย" “นั่งวินก็จะเป็นแบบนั้นค่ะ” คำว่าวินคือซิ่งสุดใจ ผมที่เธอตั้งใจจัดมาอย่างดีก็พังไม่เป็นท่าเสมอ “ที่พักกระท้อนไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้านี่แล้วทำไมขึ้นรถไฟฟ้าได้ล่ะ” “พอดีเมื่อคืนเกิดเรื่องกระท้อนเลยย้ายที่พักชั่วคราวก่อนค่ะ” “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” “คนเมาจะข่มขืนกระท้อนค่ะแต่เพื่อนของกระท้อนช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี” “ตายจริง คุณพระคุณเจ้ากระท้อนแจ้งตำรวจหรือยัง” “คนร้ายมันหนีไปแล้วค่ะ ตอนนั้นมันมืดด้วยจำหน้าคนร้ายไม่ได้” “บ้าจริงๆเกิดเรื่องแบบนี้กับกระท้อนได้ยังไงนะ บุญแค่ไหนแล้วที่รอดมาได้ โชคดีจริงๆที่เพื่อนช่วยเอาไว้ได้ทันถ้าไม่อย่างนั้นพี่ไม่อยากจะคิดเลย” ปุ๊กรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก กระท้อนเป็นคนดีไม่น่าต้องมาเจอเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้ “นั่นสิคะ ว่าแต่พี่ปุ๊กคะ" "ว่าไง" "กระท้อนจะมาขอลาออกค่ะ" "ลาออก! อะไรกันลาออกแล้วแกจะเอาอะไรกิน หรือว่ามีที่ทำงานใหม่แล้ว" ปุ๊กถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ สมัยนี้งานมันหายากจะตายไป "ไม่ใช่หรอกค่ะ" "พี่ขอให้หัวหน้าเพิ่มเงินเดือนให้ดีไหม กระท้อนไม่พอใช้ใช่หรือเปล่าพี่ได้ข่าวว่าส่งให้ทางบ้านด้วย" "ไม่เป็นไรเลยค่ะ กระท้อนจำเป็นต้องลาออกจริงๆแต่ยังบอกเหตุผลกับใครไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ" "เฮ้อ เรานี่น้าทำให้พี่ใจหาย พี่จะไปหาใครมาแทนกระท้อนได้ล่ะเนี่ย" "เอาไว้วันไหนว่างๆก็นัดกันออกมาทานข้าวได้ค่ะ กระท้อนยังอยู่ในกรุงเทพนี่แหละค่ะยังไม่ได้กลับต่างจังหวัด" "อืมๆเอาอย่างนั้นก็ได้ แต่พี่ก็ขอให้กระท้อนโชคดีนะ ยังไงก็ช่วยทำต่อถึงสิ้นเดือนได้ไหมอีกอาทิตย์เดียวเอง ขอเวลาให้พี่หาคนใหม่มาช่วยงานก่อนไม่งั้นพี่ทำงานคนเดียวหัวหมุนแน่ กระท้อนก็รู้ขนาดมีกระท้อนพี่ยังจะแย่ให้พี่ทำคนเดียวพี่ตายดีกว่า" นางอดจะบ่นไม่ได้ที่นางต้องทำงานถวายชีวิตเพื่อเงินเดือนอันน้อยนิด แม้หล่อนจะไม่มีภาระแต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายเท่าที่ควร "ได้เลยค่ะ" "ขอบใจนะ" เธอทำงานเป็นคนออกแบบการ์ตูนให้หนังสือการ์ตูนฉบับหนึ่ง ความจริงเงินเดือนเธอจะเยอะกว่านี้ถ้าย้ายไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ แต่เธอก็มักจะนึกถึงวันแรกที่เข้ามาทำงานเสมอเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่ทำงานไม่ได้สักที "วันนี้เป็นไงบ้างล่ะกระท้อน ไปลาออกแล้วหรือยัง" ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงราบเรียบ "อืม กระท้อนไปลาออกมาแล้วแต่พี่เขาให้ช่วยงานต่อถึงสิ้นเดือนภามโอเคไหม" เธอถามกลับเสียงเบาไม่รู้เขาโอเคไหม "โอเคๆ กระท้อนออกปุ๊บบั๊บเขาคงยังคงหาคนมาแทนไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ภามเข้าใจ"

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ใต้ปีกเจ้าพ่อ

read
2.5K
bc

มัดใจ'รุ่นพี่วิศวะตัวร้าย

read
6.9K
bc

รักนอกพันธสัญญา

read
3.8K
bc

ชะตาต้องรัก

read
3.6K
bc

บอสคนนี้เป็นของเธอนะ

read
4.0K
bc

หัวใจของยมฑูตอบอุ่นมากนะ : Grim Reaper and The Warm Heart

read
1.0K
bc

แค้นรักวายุภักษ์

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook