EP.06

1036 Words
‘ผมเป็นห่วงว่าเดือนเขาจะไม่สบายหรือเปล่า เขาไม่มาสอนผมตั้งหลายวันแล้วนะครับแม่ นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วด้วย หรือเขาบอกแม่ครับว่าจะไปธุระที่ไหน นี่ผมโทร. ไปเขาก็ไม่รับสาย ว่ายังไงล่ะครับแม่ แม่รู้หรือเปล่าว่าเดือนเขาไปไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่’            เขาพูดเร็วรัวเพราะหวาดหวั่นไปหมด กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า เธอไม่เคยหายไปแบบนี้ ถ้าจะไม่มาก็น่าจะโทร. บอก หรือโทร. ไปถ้าไม่ติดธุระด่วนจริงๆ ก็น่าจะรับสาย หรือไม่ก็โทร. กลับมาหาเขาสักนิด แต่เธอกลับเงียบหายไปโดยไม่บอกกล่าว ความเป็นห่วงทำให้หัวใจเขาใกล้จะระเบิดอยู่แล้ว            ‘ไม้ ฟังแม่นะ เดือนเขาไม่มาแล้วละ’               คำตอบของแม่ทำให้เขาชาวาบไปทั่วทั้งร่าง สิ่งที่คิดไว้ไม่ผิด แม่รู้เรื่องของเธออยู่ก่อนแล้ว ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งเร้าแห่งความเจ็บปวดนั้นด้วยคำถามที่ส่งไปอย่างตะกุกตะกัก                 ‘แม่พูดว่าอะไรนะครับ! ใคร...ใครจะไม่มาแล้ว แม่ครับ... แม่พูดอะไร ใครจะไม่มา...’ เขาถลาเข้าไปเกาะกุมต้นแขนของแม่ เขย่าให้แม่ตอบคำถาม ไม่มีใครรู้ดีเท่าแม่อีกแล้ว            ‘เดือนเขาจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว และวันนี้คุณครูพิเศษคนใหม่ก็จะมาสอนแทน ดีเหมือนกันที่ไม้โทร. ตามแม่ แม่จะได้อยู่คุยกับคุณครูเขาด้วย’            ‘ครูคนใหม่ที่ไหนกัน ผมไม่เอาครูคนใหม่ ผมยังเรียนกับเดือนอยู่เลย จู่ๆ แม่จะมาเปลี่ยนครูได้ยังไง แม่ทำอะไรเดือนหรือเปล่า แม่บอกมานะ แม่ทำอะไรเดือน แม่ไล่เดือนออกใช่มั้ย ใช่มั้ยแม่!’ เขาตะเบ็งถาม เพราะแม่ทำเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ แค่เธอไปแล้วก็จ้างครูคนใหม่มา ทุกอย่างก็จบ แต่เขาไม่...            ‘พูดอะไรอย่างนั้นไม้ แม่จะไปทำอะไรเขา เดือนเขาก็แค่ไป...’            ‘ไป... ไปอะไรครับแม่ เดือนไปทำอะไร แม่บอกผมมานะว่าเดือนไปทำอะไร’            น้ำเสียงกราดเกรี้ยวตามแรงอารมณ์ เขาเขย่าแขนของแม่แรงขึ้นเพื่อจะเอาคำตอบให้ได้ เพราะลางสังหรณ์บอกว่าสีหน้าและแววตาของแม่นั้นคือคำตอบที่ไม่อยากได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยากจะรู้ เธอเจ็บป่วยหรือเดือดร้อนอะไร เขาจะได้ไปช่วย ทว่าคำตอบของแม่กลับทำให้เขา ‘คลั่ง’            ‘เดือนเขาลาออก... ไปแต่งงาน’            คำตอบจากปากแม่ทำให้เขาล้มทั้งยืน แข้งขาไม่มีเรี่ยวแรงพอจะพยุงตัวให้ยืนอยู่ได้ ในยามนั้นเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาพูดอะไรหรือทำอะไรไปบ้าง เพราะในสมองมีแต่สิ่งที่แม่บอกเล่าเพื่อให้เขาเลิกเพ้อฝันสักที            นั่นคือเธอขอลาออกเพื่อไปแต่งงานด่วน แต่ไม่ว่าแม่จะบอกอย่างไร เขาก็ไม่มีวันเชื่อ เพราะเขาเชื่อในสิ่งที่เห็น เชื่อในความรู้สึก และเชื่อในรอยยิ้มสดใสของเธอ เธอไม่มีทางที่จะจากไปโดยไม่ร่ำลากันก่อน แม่ต้องเป็นคนจัดการแน่! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแม่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง            ‘ผมไม่เชื่อ... แม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ใช่มั้ย แม่ไล่เดือนไปใช่มั้ย!’            คำพูดต่อว่าแม่พรั่งพรูออกจากปาก เพียงเพราะเขาไม่เชื่อว่ารัชนีกรจะทำดังนั้นจริง แต่กลับกลายเป็นว่าหลักฐานที่แม่นำมายืนยันยิ่งทำให้เขาเสียศูนย์            เขาจำได้ว่าวิ่งออกไปจากคฤหาสน์อย่างไม่รู้จุดหมาย เพียงเพราะไม่อาจยอมรับกับหัวใจที่แหลกสลายได้ ยังคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน ที่เมื่อตื่นขึ้นมาความเจ็บปวดทั้งหมดก็จะหายไป            แต่ไม่เลย... ไม่ว่าเขาจะรอคอยสักเท่าไร จะกี่วัน กี่สัปดาห์ หรือกี่เดือน เธอก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย บาดแผลแม้จะไม่สดให้เจ็บแสบ แต่ก็กลัดหนองจนเจ็บปวดทุกครั้งที่หวนคิด และก็เจ็บจนถึงขณะนี้            “คนที่ถือรูปนั่น น่าจะเป็นลูกสาวนะครับ”            เสียงของกายที่ดังขึ้นทำให้เขาตื่นจากภวังค์ ดวงตาคมเข้มตวัดตรงไปยังจุดนั้น แม่ไม่ได้บอกว่าเธอมี ‘ลูกสาว’ และหญิงสาวถือรูปถ่ายที่เห็นเดินนำขบวนอยู่นั้น มองยังไงก็ไม่น่าจะเป็นลูกของเธอได้            “โตเกินไป” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม เพราะทุกสัดส่วนบนเรือนร่างนั้นมองยังไงก็โตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ไม่น่าจะใช่สาวรุ่นวัยไม่เกินสิบห้าปี อย่างนั้นน่ะ ‘ใช้ได้’ แล้วมากกว่า            “เอ...เหรอครับ”            กายทำสีหน้าฉงนเพราะก่อนจะมา คุณอรัญญา นายหญิงแห่งแฟรงเกนส์ให้ข้อมูลว่า เจ้าภาพที่เขากับเจ้านายผู้เคร่งขรึมจะเดินทางมาพบนั้นเป็นลูกสาวของผู้ตาย และตามประเพณีคนที่ถือภาพหน้าศพหรือถือกระถางธูปนั้นก็น่าจะเป็นทายาท ในเมื่อคนถือกระถางธูปเป็นชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกับเขา อย่างนั้นคนถือรูปนั่นก็น่าจะเป็นลูกสาวของผู้ตายสิ            กายสลัดความคิดแล้วหันมาหาคนนั่งหน้านิ่งด้านหลังเขา คิดเพียงว่าเร่งทำภารกิจนี้ให้สำเร็จเถอะ จะได้ออกจากบรรยากาศอึมครึมนี้สักที เพราะขืนยังนั่งอยู่แบบนี้ เขาอาจจะกลายเป็นรายต่อไปที่ต้องถูกเผาก็ได้            “บอสครับ ผมว่า...เข้าไปในงานกันเถอะครับ”            อารัญพยักหน้า แต่ยังคงนิ่งเฉย ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังร่างระหงของคนที่เดินประคองกรอบรูปของผู้ตายขึ้นไปไว้บนเมรุ ท่วงท่าการเดินเหินของเธอไม่ต่างจากความทรงจำในวันวาน ‘ลูกสาว’ คำพูดของกายแวบเข้ามาในสมอง แววกร้าวปรากฏในดวงตาสีน้ำตาลเข้มวูบหนึ่ง ก่อนจะปรับเป็นเรียบสนิทตามเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD