EP.16

1126 Words
สายตาที่ผู้ชายคนนั้นมองมาที่เขา แม้จะดูสุภาพเท่าที่จะเป็นได้ แต่ความคลางแคลงใจ ความไม่ไว้วางใจ และความหวงเจือปนอยู่ในนั้น และเขาจะไม่ทำให้ความหวงแหนนั้นเป็นหมันแน่ เพราะถ้าหวงมากขนาดนี้ย่อมแสดงว่า...            “คงจะสำรวจกันมาทุกตารางนิ้วแล้วสินะ”            ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเข่นเขี้ยวลอดไรฟัน ก่อนจะบดเบียดแนบแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอดอยู่ข้างใบหู ดวงตาจับจ้องมองดวงจันทร์ราวกับว่าหากเผาผลาญได้ในเวลานี้เขาก็จะทำ เพราะนั่นไม่ต่างจากมองดูสิ่งที่เขาเกลียดเลยสักนิด            ความเกลียดที่เดิมมากอยู่แล้วยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะคำตอบที่ได้นั่นคือ จันทร์ดวงใหม่ที่เขาอยากจะขยี้ให้แหลกคามือนี้ไม่ได้งดงามดั่งตาเห็น ก็คงไม่ต่างจากที่เขาเคยมองรัชนีกรบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทั้งที่เธอไม่ใช่เลย!            แม้จะบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่อารัญกลับยิ่งรู้สึกถึงความคั่งแค้นที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อได้รู้ว่าพรบุหลันก็เหลวแหลกไม่ต่างจากแม่ของเธอ เขาเกือบไปแล้วที่จะปรานีเธอ เพียงเพราะเห็นหน้าตาใสซื่อไร้เดียงสาและดวงตาที่ฉ่ำชื้นไปด้วยรอยน้ำตานั้น แต่รู้แบบนี้ก็ดีแล้ว อะไรที่คิดจะทำจะได้ทำลงไปเต็มแรงอย่างไม่ต้องผ่อนปรน                 “ฮึ! ก็แค่ของใช้แล้ว เธอต้องชดใช้ให้ฉันอย่างสาสมที่สุด พรบุหลัน ให้สมกับความเจ็บที่ฉันต้องทนอยู่คนเดียว เธอต้องร่วมรับรู้ เธอต้องเจ็บปวดไปพร้อมกับฉัน เจ็บให้สาแก่ใจ เจ็บจนต้องกรีดร้องให้แม่เธอขึ้นมาจากยมโลก” อารัญพูดอย่างหมายมาด ขณะดวงตาคมยังจ้องมองดวงจันทร์ที่มาเยือนแผ่นฟ้าก่อนเวลาอันควร แต่แล้วดวงตาชายหนุ่มก็ตวัดลงเมื่อสัญญาณจากสิ่งที่รอคอยดังขึ้น            อารัญเดินตรงมายังโต๊ะทำงานผู้บริหารสูงสุดแห่งแฟรงเกนส์กรุ๊ป คาดหวังว่าสิ่งที่รอคอยจะเป็นไปตามต้องการ และคำตอบจากคนปลายสายก็ทำให้รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากอย่างสาแก่ใจ            “ดี พรุ่งนี้นัดเธอเข้ามาสัมภาษณ์งานได้เลย”            ผู้บริหารสูงสุดแห่งแฟรงเกนส์กรุ๊ปกรอกเสียงเหี้ยมลงในโทรศัพท์สั่งการคนทางนั้นเพิ่ม และเสียงโอดครวญว่าทำไม่ได้ของกายที่ดังมาก็ทำให้อารัญต้องเค้นคำพูดลงไปสำทับ            “ไม่มีแต่ กาย ฉันไม่สนใจว่านายจะใช้วิธีไหน แต่พรุ่งนี้ฉันต้องได้พบเธอที่แฟรงเกนส์ เข้าใจมั้ย ดี จำไว้ว่าไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันอยากได้แล้วไม่ได้ มาให้เร็วที่สุด”            อารัญกดปิดโทรศัพท์ หย่อนลงกระเป๋ากางเกงอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาคมตวัดวาบไปที่ขอบฟ้า แค่นยิ้มใส่พระจันทร์ดวงสวย เพราะเหยื่อที่เขาหย่อนไว้ ปลาฮุบแล้ว ขอแค่อย่าปล่อยเหยื่อก่อนเขาตวัดเบ็ดก็พอ และเมื่อไรที่ปลาสาวแสนสวยติดเบ็ด เขาก็จะจับให้แน่น ค่อยๆ ขอดเกล็ดสีชมพูระเรื่อนั้นทีละเกล็ด ทีละเกล็ด ให้ความทรมานแทรกซึมไปถึงหัวใจ ให้เธอซึมซับความเจ็บเท่าที่เขาเคยเจ็บ เจ็บเจียนตาย จนกว่าหนี้ที่ติดค้างจะหมดไป            “พรบุหลัน ฉันรอขอดเกล็ดเธอจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”            เมื่อเห็นว่ามีรถยนต์สุดหรูเพิ่งแล่นออกไปจากบ้านของพรบุหลัน ภากรก็ไม่รั้งรอที่จะมาถามถึงการมาเยือนของผู้ชายที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งที่สองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และคำตอบของพรบุหลันก็ทำให้เขาแทบจะระงับกิริยาที่ควรจะทำไว้ไม่ได้ เพราะนั่นคือเธอตอบรับที่จะไปสัมภาษณ์งานกับผู้ชายคนนั้นแล้ว            แม้พรบุหลันจะบอกว่าอารัญคือคนสำคัญของครูรัชนีกร แต่ในสายตาของเขากลับมองว่าผู้ชายที่ชื่ออารัญมีเบื้องลึกเบื้องหลังกับครูรัชนีกร มากกว่าแค่คนที่เคยนับถือกันแน่ เพราะไม่อย่างนั้นครูรัชนีกรคงไม่ฝังใจอยู่กับผู้ชายคนนี้จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตหรอก และเมื่อยังไม่รู้แน่ชัด เขาก็ไม่กล้าที่จะปล่อยให้พรบุหลันไปพบกับอารัญเพียงลำพัง เพราะหากเกิดอะไรที่เกินกว่าเขาจะคาดเดาได้ล่ะ ใครจะรับประกันได้            “ทำไมจันทร์ไม่รอให้ทำบุญเจ็ดวันไปก่อน หรือไม่ก็รอจนครบร้อยวันก่อนก็ได้ จันทร์ไม่น่าจะต้องรีบร้อนขนาดนี้เลย เพราะถึงวันทำบุญ จันทร์ก็ต้องลางานมาอีกนะ แล้วเพิ่งเริ่มงานจะลางานได้เหรอ พี่ว่าจันทร์รอให้พ้นวันทำบุญไปก่อนเถอะ แล้วค่อยนัดเขาไปสัมภาษณ์ใหม่ ดีมั้ย”            เขาไม่รั้งรอที่จะงัดเหตุผลทุกอย่างมารั้งเธอไว้ในเวลานี้ ขอเพียงพรบุหลันอย่าไปก็พอ แต่เธอกลับไม่เปลี่ยนใจ            “พี่กรคะ ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ จันทร์ยังไม่ได้ไปทำงาน จันทร์แค่ไปสัมภาษณ์งานเฉยๆ เองค่ะ ยังไม่ได้ตอบตกลงที่จะทำงานกับเขาด้วย และก็อีกตั้งหลายวันถึงจะครบวันทำบุญเจ็ดวันให้แม่ จันทร์ก็แค่ไปดูก่อนเท่านั้นแหละค่ะ อีกอย่างจันทร์ก็อาจจะไม่เหมาะกับงานของเขาก็ได้ งานบริหารไม่ได้ตรงกับงานคหกรรมที่จันทร์ถนัดด้วย ถ้าเขาไม่รับจันทร์ หรือจันทร์ทำไม่ได้ ก็จะได้ไม่เสียเวลาคุณ... เอ่อ...คุณกายเขาน่ะค่ะ” เธออยากพูดชื่อนั้นออกมาแต่ไม่กล้า            “จันทร์ก็ไม่น่าจะไปรับปากเขาว่าจะไปพรุ่งนี้ น่าจะรอให้พ้นงานไปก่อน พี่จะได้พาไป พรุ่งนี้พี่ก็ไม่ว่างซะด้วย”            ภากรทอดมองพรบุหลันด้วยแววตาครุ่นคิดอย่างชั่งใจ ผู้ชายด้วยกันดูกันออก แม้สายตาของอารัญจะดูอ่อนโยนเมื่อมองพรบุหลัน แต่เขากลับพบแววสาแก่ใจบางอย่าง และเขาก็เชื่อในลางสังหรณ์ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มาดีแน่ แต่พรบุหลันล่ะคิดยังไง เมื่อดวงตาสวยหวานที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ดูราวจะสั่นไหวยามที่จะเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นออกมา หากเธอพูดออกมาล่ะ สีหน้าจะเปลี่ยนไปแบบไหน จะระเรื่อด้วยสีเลือดฝาดด้วยความเขินอาย หรือจะประหม่าจนไม่กล้าพูดคำอื่นออกมาอีกหรือเปล่า            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD