EP.17

1194 Words
“พี่กรไม่ต้องไปส่งจันทร์หรอกค่ะ จันทร์ไปเองได้ จันทร์จะรีบไปแต่เช้า สัมภาษณ์งานเสร็จ จันทร์ก็จะรีบกลับเลย จะได้ไม่เย็นด้วย พี่กรไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จันทร์จะดูแลตัวเองให้ดีค่ะ”            สีหน้าของภากรที่ดูวุ่นวายไม่สบายใจทำให้พรบุหลันรู้สึกผิดขึ้นมา แต่ที่เธอไม่สบายใจนั้นมาจากที่ตัวเธอเองกลายเป็นภาระของภากรไปทุกอย่างต่างหาก เธอไม่อยากให้เขาผูกติดหรือเป็นห่วงเธอไปทุกขณะ ไม่อยากให้สิ่งที่ชาวบ้านพูดกันมีน้ำหนักมากขึ้นไปอีก เพราะแค่บ้านอยู่ใกล้กัน แค่ภากรเป็นธุระเรื่องงานศพของแม่ให้ทั้งหมดก็ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดกันไปมากแล้ว ทั้งที่เธอกับภากรนั้นไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกันไปกว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเลย หากเธอขืนตัวติดกับภากรแบบนี้ คงไม่มีผู้หญิงที่ไหนกล้าเข้าใกล้เขาแน่            “โทร. ไปเลื่อนเขาได้มั้ย พี่ว่าคุณอารัญเขาน่าจะเข้าใจนะ บอกว่าจันทร์ติดจัดการเรื่องแม่ยังไม่เสร็จ นะจันทร์ รออีกสองวันแล้วพี่จะพาจันทร์ไปเอง จันทร์จะได้ไม่ต้องนั่งรถโดยสารไปคนเดียวด้วย พี่จะพาไป เสร็จแล้วก็กลับกันเลย นะจันทร์ โทร. ไปบอกเลื่อนเขาเถอะ คุณกายก็เพิ่งออกไปไม่นาน ไม่น่าเกลียดหรอก บอกว่าจันทร์ติดธุระจริงๆ”            “ไม่ได้หรอกค่ะพี่กร จันทร์ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก และเมื่อกี้นี้คุณกายก็โทร. แจ้งคุณอารัญแล้วด้วยค่ะว่าจันทร์จะเข้าไปพบเขาพรุ่งนี้”            พรบุหลันก้มหน้าเม้มริมฝีปากพร้อมกระชับฝ่ามือเข้าหากัน ทำให้ภากรตัดสินใจที่จะเสียมารยาท ยังไงเขาก็จะไม่ยอมให้พรบุหลันไปพบผู้ชายคนนั้นโดยไม่มีเขาไปด้วยแน่            “งั้นเอาเบอร์เขามา พี่จะโทร. เลื่อนให้เอง ถ้าเขาอยากให้จันทร์ไปทำงานกับเขา เขาก็ต้องรอได้ แค่อีกสองวันเท่านั้น ไม่ได้นานอะไรเลย อีกอย่างจันทร์ก็เพิ่งรู้จักเขาแค่วันเดียว เขาเป็นคนยังไงจันทร์ก็ยังไม่รู้นะ แล้วจันทร์จะไปพบเขาคนเดียวได้ยังไง จันทร์น่าจะรอเวลาอีกหน่อย ไม่งั้นจันทร์ก็ต้องมีพี่หรือไม่ก็เกดไปเป็นเพื่อน ไม่ควรไปพบเขาเพียงคนเดียวเด็ดขาด”            น้ำเสียงจริงจังของภากรและสายตาที่มองมาอย่างห่วงใย แม้จะทำให้พรบุหลันแทบเปลี่ยนใจ แต่เธอก็จะไม่เปลี่ยน เพราะนี่อาจเป็นหนทางเดียวหรือหนทางสุดท้ายก็ได้ที่เธอจะได้ใกล้ชิดเขา ‘อารัญ’ เธอจะได้รู้สิ่งอื่นๆ ที่ไม่เคยรู้ และเธอก็จะบอกเล่าถึงสิ่งที่แม่พร่ำสอนให้เธอกระทำ ให้เขารับฟัง ‘ตะกอน’ ในใจของแม่ แม้เธอจะไม่รู้ว่านั่นคืออะไร แต่อย่างน้อยก็ขอให้เธอได้บอกในสิ่งที่แม่พูดถึงเขาตลอดมาก็ยังดี            “พี่กรคะ จันทร์รู้จักคุณอารัญดีค่ะ ถึงจันทร์จะเพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรก แต่ตลอดชีวิตของจันทร์ สิ่งที่แม่พูดถึงบ่อยที่สุดก็คงเป็นเรื่องของคุณอารัญ และอีกอย่างที่พี่กรไม่รู้ ที่จันทร์เลือกเรียนคหกรรม ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณอารัญเหมือนกันค่ะ แม่สอนจันทร์ให้ทำอาหารทุกอย่างตามที่คุณอารัญชอบ ไม่ว่าจะเป็นของคาวของหวาน สอนให้พิถีพิถันกับเรื่องต่างๆ ในบ้าน จนจันทร์คิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจันทร์ไปแล้ว จันทร์กลายเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบเย็บปักถักร้อย จันทร์...จันทร์คิดว่าจันทร์รู้ค่ะว่าเขาเป็นคนยังไง”            สิ่งที่พรบุหลันบอกเล่ายิ่งตอกย้ำว่าลางสังหรณ์ที่คิดเป็นจริง อย่างนี้เขาก็ยิ่งไม่กล้าปล่อยเธอไปคนเดียว เพราะน้ำเสียงนั้นมันคือความชื่นชม คือความสุขในสิ่งที่ทำ และหากผู้ชายอย่างอารัญเพียงปรายตามองพรบุหลันล่ะ ครูบ้านนอกจนๆ อย่างเขาคงไม่อาจรั้งหัวใจพรบุหลันไว้ได้แน่            “พี่กรคะ จันทร์ไปเองได้จริงๆ ค่ะ”            “แต่พี่เป็นห่วงนะจันทร์”            พรบุหลันยิ้ม เธอเข้าใจความห่วงใยของภากร แต่หากนั่นจะทำให้เธอต้องเสียคำพูดกับคนคนนั้น เธอคงทำไม่ได้ เหตุผลแรกนั้นคือเธอรับปากเขาไปแล้ว และเธอต้องทำเรื่องที่ติดค้างของแม่ให้จบ ส่วนเหตุผลที่สองก็คือจังหวะของหัวใจที่เต้นรัวเร็วอยู่ในขณะนี้ เธอเชื่อในเสียงที่ได้ยิน ขอแค่ได้เห็นเขาอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่รับเธอเข้าทำงาน แต่ก็ถือว่าเธอได้ทำไปแล้ว ได้เดินเข้าหาความรักด้วยตัวเองตามที่แม่เคยบอกไว้            ‘จันทร์ ฟังแม่นะลูก หากวันหนึ่งที่จันทร์รู้สึกได้ถึงความรัก ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม จันทร์อย่ารั้งรอที่จะเดินเข้าหา แม่อยากให้จันทร์ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง แม้ว่ามันจะผิดหรือถูก อย่างน้อยที่สุดจันทร์ก็ได้ก้าวเดินไปแล้ว เดินไปให้สุดทาง อย่าหยุดหรือถอยหลังกลับ เพราะนั่นหมายถึงว่าจันทร์อาจต้องเจ็บปวดกับความรักไปตลอดชีวิต’            คำพูดเปรียบเปรยเรื่องความรักที่แม่สอนเธอราวจะชัดเจนมากขึ้นจนเหตุผลใดๆ ของภากรก็ไม่อาจมาหักล้างได้ หรือนั่นอาจเป็นเพราะเธอไม่ยอมให้สิ่งใดมาทำให้เปลี่ยนใจ โอกาสแรกและอาจเป็นโอกาสสุดท้าย เธอจะคว้าเอาไว้ เธอจะขอก้าวเดินไปสู่เส้นทางนั้น หากจะต้องผิดหวังก็คงไม่เจ็บเท่าไร อย่างน้อยเธอก็ได้ก้าวเดินแล้ว            “พี่กรไม่ต้องเป็นห่วงจันทร์นะคะ จันทร์ไปเองได้จริงๆ สมัยเรียนจันทร์ก็เข้ากรุงเทพฯ อยู่บ่อยๆ เดี๋ยวถึงแล้วจันทร์จะโทร. หานะคะ จะรายงานพี่กรทุกชั่วโมงเลยค่ะ”            ภากรถอนหายใจเพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงจะเปลี่ยนใจพรบุหลันไม่ได้ อยากบอกเธอเหลือเกินถึงเหตุผลที่เขาไม่อยากให้เธอไป แต่ก็กลัวว่าเหตุผลนั้นจะทำให้เขาและเธอต้องแตกหัก...เหตุผลของ ‘ความรัก’ หากพรบุหลันไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับเขาเลยสักนิด แต่คนที่เธอรู้สึกด้วยนั้นคือคนที่เธออยากไปหา            “งั้นพรุ่งนี้พี่ไปส่งที่ท่ารถนะ”            “ค่ะ”            ภากรได้แต่มองพรบุหลันที่รับคำพร้อมยิ้มอย่างประจบ ดวงตาสวยหวานมีประกายเจิดจ้าเต็มไปด้วยความหวังอย่างไม่คิดจะปกปิดเขาสักนิด แม้เขาจะไม่พอใจ ไม่สบายใจ แต่จะทำอะไรได้ คงทำได้เพียงพาเธอไปส่งที่สถานีรถโดยสาร และกำชับให้เธอโทร. บอกสถานการณ์เขาเป็นระยะเท่านั้น บางทีสิ่งที่เขาหวาดหวั่นอาจไม่เป็นตามที่คิดก็ได้ เขาใช้เหตุผลนี้ปลอบใจตัวเอง ทั้งที่ความจริงแล้วปลอบไม่ได้เลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD