EP.19

1065 Words
อารัญทอดมองผู้คนที่ผ่านไปมา พลางครุ่นคิดถึงความเท่าเทียมที่อยู่บนความเหลื่อมล้ำของสังคม แม้เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ แต่ทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทย ปัญหารถติดก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เขาต้องเจออยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะความเท่าเทียมที่ว่า ไม่ว่าจะนั่งรถหรูราคานับสิบล้าน นั่งรถญี่ปุ่นราคาหลักแสนหรือล้านต้นๆ จะนั่งรถเมล์ หรือจะขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน ก็หลีกหนีปัญหารถติดไปไม่ได้หรอก เพราะยังไงเสียก็ต้องใช้ถนนสายเดียวกันอยู่ดี            ยิ่งรถเคลื่อนเข้าสู่เส้นทางของอาณาจักรแฟรงเกนส์ มากขึ้นเท่าไร ความแออัดทั้งรถทั้งคนก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น และในวันนี้เขามั่นใจว่าจะต้องมีอีกคนที่เดินทางมาเป็นบุคคลที่เสมอภาคกับเขาบนท้องถนนแน่ แต่เขาจะไม่ยอมให้เธอเสมอภาคกับเขาแค่บนถนนเพียงอย่างเดียวแน่ ‘บนเตียงนอน’ เขาก็จะให้ความเสมอภาคกับเธอเช่นกัน            รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า แต่นั่นเป็นการแค่นยิ้ม เพราะเธอคนนั้นทำให้ความแออัดบนท้องถนนในวันนี้เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ วันนี้แล้วสินะ สิ่งที่รอคอยจะบรรจบกันสักที หนี้แค้นของเขากำลังจะได้รับการชำระ!            เมื่อคนขับรถตีไฟเลี้ยวเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่อาณาจักรแฟรงเกนส์ อารัญยืดตัวตรงจัดแต่งและสำรวจเสื้อสูทสากลให้เข้าที่ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดเขาจำเป็นต้องเรียบ หรู และดูดีอยู่เสมอ ดวงตาคมเข้มเหลียวมองเหล่าพนักงานที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัยกำลังเดินเข้าสู่อาคารเช่นเดียวกับเขา            ทว่าสิ่งแปลกปลอมสุดสายตานั้นทำให้ดวงตาคมเข้มต้องหรี่ลงเพื่อปรับโฟกัสของภาพให้ชัดเจน ใครบางคนที่มีรูปร่างแบบบางกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ ณ จุดนั้น ริมฝีปากเรียบตรงอ้าออกหวังบอกให้คนขับรถจอดก่อน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นนิ่งเฉยดังเดิม เขามองเธอผ่านกระจกสีเทาไปจนรถเคลื่อนพ้นมา            จากระยะมองไกลจนใกล้ และพ้นสายตา ภาพที่เขาเห็นคือความสวยงามที่อ่อนล้า ในมือบอบบางนั้นถือยาดมค้างอยู่ และบางครั้งก็นำมาจ่อที่ปลายจมูก สิ่งที่มองเห็นไม่ได้ทำให้นึกสงสาร แต่เป็นความ ‘สะใจ’ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากอย่างหยุดไม่ได้ ก่อนจะกดโทรศัพท์หาคนที่จะทำให้ความสะใจของเขาเป็นจริงมากขึ้นกว่านี้            “ฉันให้เวลานายสิบนาที ไม่มีแต่” เขากรอกเสียงทุ้มกลั้วด้วยรอยยิ้มแห่งความสะใจลงไปเมื่อคนทางนั้นรายงานตัวว่า ยังฝ่าดงรถติดเข้ามาไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาต้องการจะต้องไม่มีแต่            พรบุหลันสูดลมหายใจเข้าลึกพลางสูดกลิ่นพิมเสน การบูร และเมนทอลที่ผสมอยู่ในยาดมเข้าไปด้วย ยิ่งเวลาเร่งเร้าเข้ามา เธอยิ่งทั้งตื่นเต้นทั้งวิงเวียนผสมผสานกันไปหมด หัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะสั่นไปทั้งร่าง เมื่อรู้ว่าในไม่กี่นาทีต่อจากนี้เธอจะได้พบกับเขา คนที่เธอแทบจะรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขาผ่านคำบอกเล่าของแม่ แต่จะเป็นจริงตามนั้นหรือเปล่าเธอก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าหากโอกาสนั้นเป็นของเธอ เธอจะพิสูจน์            “กล้าๆ หน่อยจันทร์ มาถึงที่นี่แล้ว เธอจะถอดใจไม่ได้นะ” หญิงสาวพูดให้กำลังใจตัวเอง เพราะหัวใจเธอเต้นรัวเร็วอย่างไร้จังหวะ จนพรบุหลันต้องบีบฝ่ามือแน่น เพื่อสะกดกลั้นให้ตัวเองสงบลง เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร อาย สับสน หวาดหวั่นปนประหม่าที่จะได้พบหน้าเขาอย่างนั้นเหรอ            แม้หัวใจจะร่ำร้องบอกตัวเองว่าไม่ใช่ ที่เธอมาที่นี่เพราะเธออยากได้งานทำจริงๆ แต่ในเสี้ยวลึกนั้นพรบุหลันได้คำตอบที่ทำให้ใบหน้าร้อนวูบวาบ เพราะดวงตาคมเข้มคู่นั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความคิด รอยยิ้มอ่อนโยน เสียงทุ้มสุภาพ และท่าทีแสดงความจริงใจที่เขาอยากจะช่วยเหลือเธอจริงๆ            มโนภาพของพรบุหลันย้อนไปถึงคำพูดกับสายตาแสดงความเห็นใจที่เขามีต่อเธอในวันนั้น เขาช่างเป็นผู้ชายอบอุ่นอย่างที่แม่บอกไว้จริงๆ เขาอบอุ่นจนเธออยากจะให้เขาโอบกอดเธอให้แน่น เธออยากผ่อนคลายจากความเหน็บหนาววาบหวิวหัวใจดวงนี้ อยากได้ความอบอุ่นนั้นปลอบประโลมหัวใจให้หายเหว่ว้าจากการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้            ปรี๊น!            เสียงแตรรถจากถนนด้านนอกทำให้พรบุหลันตื่นจากภวังค์ สูดลมหายใจเข้าลึก กระชับกระเป๋าสะพายให้มั่น เธอพร้อมแล้วสำหรับการก้าวเดินเข้าสู่อาณาจักรของเขา หญิงสาวร่างงามระหงลุกขึ้นยืนเรียกความมุ่งมั่นให้ตนเอง ก่อนจะตรงไปยังช่องทางที่จะได้พบเขา ทว่าประตูกระจกที่ใสจนมองเห็นโลกภายในได้อย่างชัดเจนกลับทำให้ความประหม่าของเธอหวนกลับมา เมื่อมนุษย์ออฟฟิศหญิงชายต่างมองมาที่เธอเป็นจุดเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์            พรบุหลันรับรู้อาการสั่นสะท้านไปทั้งร่างของตัวเอง แต่เมื่อก้าวเข้ามาแล้วก็ต้องเดินต่อไป บางทีสถานที่แห่งนี้อาจเป็นที่ทำงานที่เธอต้องมาเยือนในทุกวันก็ได้ ดังนั้นประหม่าหรือกลัวไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ควรทำคือเดินเข้าไป            “อุ๊ย!”            แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องเผชิญกับอีกความรู้สึกหนึ่ง ‘อับอาย’ ซึ่งเป็นความรู้สึกใหม่ที่เข้ามาแทนที่ มือที่ยกขึ้นจะผลักประตูกระจกเข้าไปชะงักค้าง เมื่อประตูกระจกใสบานใหญ่นั้นเลื่อนออกจากกันโดยอัตโนมัติจนพรบุหลันหน้าม้าน            ทุกสายตาที่จับจ้องมองเธออยู่แล้วมีทั้งตลกขบขัน ปะปนกับการแทะโลมด้วยสายตาจากบรรดาชายหนุ่ม มีแววดูหมิ่นรวมไปถึงความสมเพชจากพนักงานสาวๆ ทั้งที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าไปทำอะไรให้คนพวกนั้น และทันทีที่เธอเดินเข้าไปถึงจุดประชาสัมพันธ์ พนักงานสาวที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรก็เอ่ยขอตัวจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD