คำขอจากพ่อของลูก 1

889 Words
สองสาวพราวเสน่ห์นั่งหัวเราะคิกคักหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ตัดภาพมาที่อีกคนซึ่งนั่งคลึงขมับหน้ายุ่งมองแม่ของลูก และลูกสาวของตัวเองที่ได้มาแบบงงๆ ได้มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เรียกได้ว่าทันกินทันใช้ เพราะตอนที่รู้ว่ามีลูก หนูน้อยก็อายุสองขวบกว่าเข้าไปแล้ว กวินทร์คิดแล้วคิดอีกว่าจะทำยังไงดี ด้วยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านพักแพทย์ ซึ่งไม่สะดวกที่จะพาทั้งคู่ไปอยู่ด้วย แล้วอีกอย่างเขายังไม่พร้อมบอกใครว่าตัวเองมีลูกมีเมียแล้ว ไอ้ให้รับผิดชอบลูกก็จะรับอยู่หรอก แต่แม่ของลูกนี่สิ ถ้าจะให้กลับมาร่วมเรียงเคียงหมอน เขาก็ไม่ได้รู้สึกกับเจ้าหล่อนอย่างวันวานแล้ว ตอนที่เก็ตถวาถามว่ามีผู้หญิงที่แอบปิ๊งอยู่หรือเปล่า อันที่จริงมันก็มีอยู่หรอกนะ แต่ตอนที่ตอบไปมันคิดไม่ทันนี่นา “แก้ม แล้วนี่จะเอายังไงต่อ” เก็ตถวาเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าเจ๊บุษ แม่ของหญิงสาวบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อสมพงษ์ เจ้าหล่อนเลยตัดสินใจหนีมาหาเขา ครั้นจะผลักไสไล่ส่งเธอไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่แค่เก็ตถวาคนเดียว แต่ยังมีลูกของเขาด้วยอีกคน แม้จะยังไม่ตรวจดีเอ็นเอ แต่กวินทร์มั่นใจว่าหนูน้อยเป็นลูกของตน เพราะทั้งเค้าหน้าของเด็กหญิงและความรู้สึกลึกๆ มันบอกแบบนั้น “คงต้องหลบอยู่กรุงเทพฯ สักพัก แล้วภาวนาให้นายสมพงษ์ไปเจอผู้หญิงคนอื่น เปลี่ยนใจไม่อยากแต่งงานกับแก้มมั้งคะ” “ตอนนี้พี่อยู่บ้านพักแพทย์ ถ้าจะให้แก้มกับลูกไปอยู่ด้วยคงไม่สะดวก” หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เก็ตถวารู้ดีว่าตอนนี้ระหว่างเธอกับกวินทร์ไม่มีอะไรเหมือนเดิม แค่เขายอมรับฟังปัญหามันก็มากพอแล้ว ถ้าจะหวังให้ชายหนุ่มยื่นมือเข้ามาช่วย คงจะไม่.. “แต่พี่มีบ้านหลังหนึ่ง ซื้อไว้นานแล้วแหละ แก้มกับลูกไปอยู่ที่นั่นก่อนได้ไหม” เหมือนแสงเทียนแห่งชีวิตกำลังจะดับ แต่จู่ๆ สายลมแห่งความหวังก็พัดพาให้เทียนเล่มน้อยสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง แทบไม่ต้องคิด หญิงสาวยิ้มร่าพยักหน้าหงึกๆ ทันที “ขอบคุณนะคะพี่ภีม แก้มจะไม่ลืมบุญคุณพี่จริงๆ” “คิดมากน่า ยังไงพี่ก็ต้องรับผิดชอบเกี่ยวก้อยอยู่แล้ว” บอกคนอื่นว่าอย่าคิดมาก แต่ตัวเขาเองคิดจนสมองแทบระเบิด ยิ่งมองเด็กหญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของตน แล้วคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่อยากจะคบแบบจริงๆ จังๆ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเครียดโว้ย “แก้ม.. แต่พี่ขออะไรสักอย่างได้ไหม” “เรื่องอะไรเหรอคะ” “เรื่องที่แก้มถามพี่ว่าพี่มีใครหรือยัง อันที่จริงพี่ก็มีคนที่เล็งๆ ไว้เหมือนกันนะ ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้คบเป็นแฟน แต่พี่กับเขาก็ศึกษาดูใจกันมาได้สักพักแล้ว ก่อนที่พี่จะรู้ว่ามีเกี่ยวก้อย” จะว่าเหมือนโดนตบหน้าก็ไม่ขนาดนั้น แต่มันก็พอจะทำให้เกิดอาการคันหยิกๆ ที่หัวใจได้เหมือนกัน เธอต้องสตรองเบอร์ไหนถึงได้มานั่งฟังอดีตแฟนพูดเรื่องผู้หญิงคนอื่นแบบหน้าตาเฉย แล้วนี่ควรจะทำหน้าแบบไหนดี อ้อ! ต้องยิ้มสวยๆ สินะ “ค่ะ อันนั้นก็เรื่องส่วนตัวของพี่ภีม เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันในสถานะนั้นอีกแล้ว” “แล้วถ้าพี่จะขอร้องว่าอย่าพึ่งบอกเรื่องของเรากับใครล่ะ แบบว่า.. อย่าพึ่งบอกใครว่าเกี่ยวก้อยเป็นลูกของพี่” อันนี้สิ! เหมือนโดนตบหน้าของจริง ราวกับว่ามีก้อนสะอึกมาจุกอยู่ที่ลำคอ แต่กระนั้นเก็ตถวาก็จำใจต้องพยักหน้าตอบตกลง แม้จะไม่พอใจนักที่ผู้ชายตรงหน้าทำเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีเด็กหญิงกานต์พิชญาเป็นลูก “แต่แก้มบอกพี่พยาบาลคนสวยคนเมื่อกี้ไปแล้วนะ” “ช่างมันเถอะ” แม้จะบอกว่าช่างเถอะ แต่ก็แอบกังวลว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูแพทย์หญิงวิภาวดี ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เขากำลังศึกษาดูใจอยู่ “แก้มขอโทษนะ ที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป แล้วแฟนพี่ภีมเขาทำงานอยู่ที่นี่หรือเปล่า ให้แก้มไปช่วยอธิบายไหม” แม่คนดี ทำตัวเป็นชะนีแม่พระ อยากจะมอบรางวัลคนดีศรีประเทศไทยให้ซะเหลือเกิ๊น! “ไม่ต้องหรอก แค่แก้มทำตามที่พี่ขอก็พอ พี่ลงเวรแล้ว เดี๋ยวจะพาแก้มกับลูกไปดูบ้าน” เก็ตถวายิ้มให้เขา ก่อนจะอุ้มหนูน้อยที่กำลังเล่นตุ๊กตา หมูสีชมพูขึ้นมาแนบอก กวินทร์จำได้ดีว่าตุ๊กตาตัวนั้นเป็น ของขวัญแทนใจชิ้นสุดท้ายก่อนที่จะจากลา คิดย้อนกลับไปตอนนั้นก็ตลกดีเหมือนกันแฮะ เป็นบ้าเป็นหลังเพราะผู้หญิงตรงหน้าตั้งหลายเดือน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD