หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป พัทธ์ธีราเริ่มปรับตัวกับคฤหาสน์หลังงามของคนตัวโตได้แล้ว เธอพอจะรู้บ้างแล้วว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง แต่การที่เธอนั่งกินนอนอยู่ในบ้านเขาก็ทำให้เธอรู้สึกเบื่อ เธอขออบเชยทำงานบ้านเธอก็ถูกปฏิเสธ งานต่างๆมีคนจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว เธอจึงอยากหากิจกรรมอะไรอย่างอื่นทำแทน
“หนูที่รักขึ้นไปดูแลคุณหนึ่งเถอะค่ะ วันนี้คุณหนึ่งเธอดูเหนื่อยๆนะคะ” อบเชยสังเกตเห็นว่าใบหน้าของผู้เป็นเจ้านายดูเคร่งเครียด วันนี้ที่ทำงานคงจะมีปัญหาอะไรแน่ๆ ถ้ามีสาวสวยไปคอยเอาใจคงจะดีไม่น้อย
“จะดีหรอคะคุณป้า” หญิงสาวถามกลับอย่างไม่มั่นใจ
“ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องกลัวคุณหนึ่งไปหรอกนะคะ คุณหนึ่งจริงๆแล้วแกเป็นคนจิตใจดีแล้วก็ใจดีมาก”
หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงเบาๆเป็นอันว่าตกลง เธอจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของเขา เขากำลังนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงโดยที่ยังสวมชุดทำงานครบชุด ผิวพรรณของเขาขาวเนียนอย่างคนที่ไม่เคยทำงานหนัก เธอค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาเขาจากนั้นก็ช่วยถอดรองเท้าและถุงเท้าให้เขา ชิ้นต่อไปที่เธอต้องถอดคือเสื้อสูทเพื่อที่เขาจะได้นอนหลับสบายมากขึ้น
“ขออนุญาตนะคะ” เอเอ่ยขออนุญาตเขาน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ด้วยความที่เขาตัวใหญ่กว่าเธอมาก มันเลยดูทุลักทุเลไปหน่อยสำหรับเธอ ชายหนุ่มยังคงแกล้งหลับต่ออยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรเขาอีก
“เสื้อเชิ้ตก็ดูแน่นแหะ เอาออกด้วยละกัน” หญิงสาวค่อยๆปลดเนคไทออกอย่างเบามือ หลังจากเอาเนคไทออกสำเร็จก็เริ่มปลดกระดุมเม็ดแรกออก ใจของชายหนุ่มเต้นระรัวกับสัมผัสแผ่วเบาของหญิงสาว เธอทำให้เขาเหมือนชายหนุ่มที่เพิ่งริเริ่มมีรักครั้งแรกทั้งๆที่มีผู้หญิงผ่านเขามานักต่อนัก
“เห้อ เรียบร้อย” ปากบอกออกไปอย่างนั้นเธอมือยังไม่หยุดถอดเสื้อผ้าของคนตัวโต มือบางคว้าที่หัวเข้มขัดเงาวับแต่ยังไม่ทันได้ถอดคนตัวโตที่เคยนอนนิ่งก็ลืมตาขึ้น แล้วตวาดตัวหญิงสาวลงไปนอนใต้ร่างของเขาแทน
“พี่หนึ่งขี้โกงนี่คะ ไม่ได้หลับจริงๆนี่หน่า” หญิงสาวร้องประท้วงออกไปเบาๆ ทำไมเขาถึงได้แนบเนียนขนาดนี้ก็ไม่รู้
“พี่แค่อยากจะรู้ว่าที่รักจะทำอะไรพี่ไง”
“ที่รักก็แค่...แค่จะถอดชุดให้แค่นั้นเองค่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
“พี่ยังไม่ได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้นเลยนะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงทะเล้น ใบหน้าของเขายิ้มแย้ม เขายิ้มให้เธอเป็นครั้งแรกบอกเลยว่าเธอชอบเวลาที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าของเขา เขาเองก็ชอบเวลาได้แกล้งคนตัวน้อยให้ได้เขินอายไม่ต่างกัน
“ถอดชุดแล้วจะทำอะไรต่อหรอ” ชายหนุ่มถามออกไปสายตาเป็นประกาย หญิงสาวแม้จะเตรียมใจมาบ้างแล้วหากว่าเธอต้องช่วยเขาคลายเหงาบนเตียงแต่ว่าถ้าให้เธอช่วยตอนนี้บอกเลยว่าเธอยังไม่พร้อม
“ตะ เตรียมน้ำให้อาบค่ะ ปล่อยที่รักก่อนสิคะ” เธอร้องขอให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระเสียงสั่น
“รีบไปเตรียมสิ เหนียวตัวจะแย่แล้ว”
“ค่ะๆ” หญิงสาวเตรียมน้ำให้คนตัวโต พร้อมทั้งจุดเทียนหอมเอาไว้รอบๆด้วยเพื่อทำให้เขาผ่อนคลายจากความเครียดและความเหนื่อยล้า
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่หนึ่งเข้าไปอาบได้เลยเดี๋ยวที่รักเลือกชุดนอนให้นะคะ”
“เอาสิ” ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ตั้งแต่เกิดมาจนจะสี่สิบปีเขาไม่เคยแช่อ่างอาบน้ำไปพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆแบบนี้เลย น่าแปลกมันทำให้ใจของเขาที่เคยว้าวุ่นสงบลงได้ แปรงสีฟันก็ถูกบีบยาสีฟันเอาไว้ให้แล้ว เขาเพียงแค่หยิบมาแปรงก็เรียบร้อย เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเอาก็พันผ้าเช็ดตัวไว้ที่เอวสอบจากนั้นก็เดินออกมายังด้านนอก มีชุดนอนวางอยู่บนเตียงพร้อมกับโน้ตใบน้อยใจความว่า
“พี่หนึ่งเป็นคนขี้ร้อน ที่รักเลือกชุดนอนผ้าแพรให้นะคะพี่หนึ่งจะได้หลับสบาย ฝันดีค่ะ” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอัตโนมัติ ไม่มีใครเคยทำให้เขาแบบนี้มาก่อนอีกแล้ว การใส่ใจเล็กๆน้อยๆของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพิเศษกว่าใคร
“ขอบคุณครับ” เขากล่าวขอบคุณน้ำเสียงแผ่วเบา แค่นึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวก็นึกอยากแกล้งเธออีกแล้ว ชายหนุ่มไม่รอช้าเดินไปเคาะประตูห้องนอนแขกทันที
“ป้าอบเชยหรอคะ” หญิงสาวเปิดประตูออกทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะประตู
“พะ พี่หนึ่ง พี่หนึ่งต้องการอะไรคะ”
“ขอเข้าไปหน่อยสิ”
“แต่ว่าห้องที่รัก...” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบประโยคคนตัวโตก็แทรกตัวเข้าไปด้านในทันที เขากวาดสายตาไปรอบๆก็พบว่าหญิงสาวได้นำของใช้ส่วนตัวจับจองเป็นเจ้าของห้องนี้ไปทุกตารางเมตรแล้วโดยเฉพาะชุดชั้นในตัวบางที่แขวนอยู่หน้ากระจก
“อะ แฮ่ม” ชายหนุ่มกระแอมแก้เขิน หญิงสาวรีบโยนชุดชั้นในใส่เข้าไปในตู้แทบจะทันที แก้มของเธอแดงระเรื่อด้วยความเขินอายถึงขีดสุด แต่แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าภายใต้ชุดนอนตัวบางเธอไม่ได้สวมอะไรเอาไว้เลยนี่หน่า
“ให้ที่รักช่วยอะไรอีกหรอคะ”
“นวดให้หน่อยได้ไหม”
“นวด?”
“อืม วันนี้เซ็นเอกสารกองโตเมื่อยไหล่ไปหมด”
“ได้ค่ะ ไปนั่งที่เตียงก่อนนะคะ ที่รักมียานวด”