“จะบ้าเหรอ คุณอัสมาน”
อวีน่าร้องโวยวายอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน เกิดใครรู้เรื่องนี้เข้าแล้วเธอจะทำอย่างไร เขาเป็นผู้ชายก็ไม่มีปัญหาสิ แต่เธอเป็นผู้หญิง มีแต่เสียกับเสีย ใบหน้างามเงยขึ้นมามองอย่างอง้ำ
“ไม่บ้าหรอก อวีน่า เพราะนี่เป็นคำสั่งของฉัน ยังไงเธอก็ต้องอยู่ที่นี่ นอนในห้องนี้กับฉัน”
“ไม่นะ! คุณมันบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ” อวีน่าออกแรงดิ้นรนจนร่างสูงต้องออกแรงรัดร่างในอ้อมกอดอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ชายหนุ่มหันไปมองทางเตียงนอนที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง สีหน้าเจ้าเล่ห์เริ่มคิดแผนการ ก่อนตัดสินใจยกร่างเพรียวบางขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังเตียงทันที
“กรี๊ด! คนบ้า นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ ไม่นะ!”
“เดี๋ยวก็รู้” ชายหนุ่มตอบอย่างเจ้าเล่ห์
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”
“ตุ๊บ! กรี๊ด!” ร่างเพรียวบางก็ลอยหวือขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างหมดท่า ตามลงมาด้วยร่างสูงที่โน้มลงมาทับร่างงามบนเตียงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แต่ต้องชะงักค้างเมื่อนึกได้ว่าอวีน่าเป็นน้องสาวของคามินคนสนิทของพี่ชายคนโต
“ไม่ต้องกรี๊ดเลยนะอวีน่า ฉันไม่ปล้ำเธอหรอก”
“คนเลว! จะปล้ำหรือไม่ปล้ำ คุณก็ไม่ควรทำแบบนี้”
ใบหน้าแดงก่ำมือบางยกขึ้นดันแผงอกของอัสมานอย่างอับอาย นี่เขาเป็นบ้าความจำเสื่อมหรือไร หลายปีที่ผ่านมาเขาเกลียดและไม่อยากเข้าใกล้เธอเสียด้วยซ้ำ แต่ดูตอนนี้สิเขากลับมาทำแบบนี้กับเธอ แม้เธอจะเคยรักเขาก็เถอะ แต่นั่นมันนานมาก นานจนเธอตัดใจจากเขาไปแล้ว
“ก็อย่าขัดใจฉันสิ”
“เหอะ!” อวีน่าทำเสียงขึ้นจมูก เธอไปขัดคำสั่งเขาตรงไหน หลายปีที่ผ่านมาเธอก็มีความสุขดี โดยที่ไม่มีเขามาวุ่นวายในชีวิต แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงเข้ามาในชีวิตของเธออีกล่ะ?
“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย จากนี้ไปชีวิตเธอเป็นของฉัน”
“ฉันไม่ยอมคุณหรอก ชีวิตของฉันก็ต้องเป็นของฉันสิ คุณไม่ใช่พี่ชายหรือคนในครอบครัวฉันเสียหน่อย จะมาห้ามโน่นบังคับนี่ไม่ได้หรอก”
อวีน่าบอกอย่างไม่ยอมแพ้ ขนาดพี่ชายที่คลานตามกันมายังไม่เคยเจ้ากี้เจ้าการบังคับเธอถึงขนาดนี้เลย แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร ก็แค่อดีตคนที่เธอเคยรัก จะมาทำตัวเป็นเจ้าชีวิตเธอได้อย่างไร
ไม่มีทางเด็ดขาด!
“ตอนนี้ยังไม่ได้เป็น แต่ไม่อีกนาน เธอต้องเป็นของฉัน”
แล้วใบหน้าคมก็ก้มลงมาจุมพิตริมปากบาง เพื่อตัดปัญหาเสียงแหลมที่โวยวายหาเรื่องเขาไม่หยุดหย่อน เขาตัดสินใจเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับเธอ แน่นอนว่าเธอต้องยินยอมและให้ความร่วมมือไปกับเขา ถึงพยายามขัดขืนอย่างไร เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้หัวใจดวงนี้หลุดลอยไปอีกเป็นครั้งที่สอง
อวีน่าถึงกับนอนนิ่ง ตื่นตระหนกตกใจไปเมื่อจู่ๆ อัสมานก้มลงมาจูบเธอ ดวงตาคู่หวานกลอกไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อสมองเธอมันกำลังช็อก จนไม่สามารถสั่งการให้ต่อสู้ขัดขืนกับสิ่งที่ชายหนุ่มกระทำอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งสองมือเธอถูกพันธนาการด้วยอุ้มมือแข็งแกร่งคู่นั้น
//////////
อีกด้านหนึ่งของคฤหาสน์...
มาเรีย มีร่า มายากำลังเดินลากกระเป๋าของอวีน่าเข้ามาภายในห้องโถง ต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้านายหนุ่มกับคุณเลขาคนเก่ง ซึ่งน้องสาวของคนสนิทของคุณฟาริซ ผู้เป็นพี่ชายคนโตของตระกูลอัมฟาลฯ
มาเรียหันมามองมีร่ากับมายาด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มคิดทำอะไรกันแน่ เธอเห็นความสัมพันธ์ของเจ้านายกับคุณเลขามาเกือบสองปี ที่เธอไม่เข้าใจก็เพราะสิ่งที่เจ้านายเคยบอก เขาไม่ชอบและเกลียดเลขาส่วนตัวของตัวเองมาก แต่วันนี้มันไม่ใช่อย่างที่เคยพูดเอาไว้
“จะเอายังไงดีค่ะพี่มีร่า”
“ฉันจะไปรู้เหรอ มาเรีย ฉันกับมายาเพิ่งได้กลับมาเองนะ”
มีร่าหันมาตอบมาเรียอย่างหนักใจ เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมาเธอไม่รู้เรื่องของคุณอัสมานกับคุณอวีน่าเลยสักนิด เพราะก่อนหน้านี้เธอกับมายาต้องเดินทางไปอยู่เมืองไทยกับสะใภ้คนรองของตระกูลอัมฟาลฯ มาตั้งหลายปี เธอเพิ่งถูกส่งกลับมาก็เมื่อไม่ถึงเดือนเอง
“เธอก็รู้ว่าพวกฉันเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย เรื่องของคุณอัสมานกับคุณอวีน่า พวกเราไม่รู้หรอก”
“ฉันกับมีร่ารู้แต่ว่าคุณอัสมานกับคุณอวีน่าเคยรักกันมาก่อนเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว”
มายาหันมามองอธิบายให้มาเรียฟัง เพราะก่อนหน้านี้คฤหาสน์แห่งนี้ยังไม่มีมาเรียเข้ามาทำงาน ตอนที่เธอลาออกแล้วบินไปดูแลคุณนรีกานต์กับคุณชายน้อยทั้งสองที่เมืองไทย แม่บ้านใหญ่จึงเปิดรับสมัครสาวใช้เพิ่ม
“เคยรักกันเหรอคะ?” มาเรียหันมาถามมีร่ากับมายาอย่างตกใจ เจ้านายหนุ่มกับคุณเลขาเคยรักกันมาก่อน หากเป็นอย่างที่สองคนนี้บอก นั่นก็หมายความว่าเจ้านายเธอก็รักกับเด็กที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้คุณอวีน่าอายุยี่สิบหกหรือไม่ก็ยี่สิบเจ็ด ถ้านับย้อนไปเมื่อสิบปีที่แล้ว หญิงสาวเพิ่งจะอายุสิบหกสิบเจ็ดเอง และตอนนั้นเจ้านายหนุ่มก็ประมาณยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่ด้วยซ้ำ
มาเรียมองมีร่ากับมายาอย่างช็อกไป เธอไม่คิดว่าเจ้านายหนุ่มกับคุณเลขายังมีความหลังกันถึงขนาดนี้ เพราะแบบนี้หรอกหรือเธอถึงเห็นอาการไม่พอใจยามที่เจ้านายเอ่ยถึงผู้ชายคนอื่นที่เข้ามาสนิทกับอดีตคนรักอย่างคุณเลขาคนสวย
“ก็เป็นอย่างที่เธอเข้าใจนั่นแหละคุณอัสมานกับคุณอวีน่าเป็นคนรักกันมาก่อน ถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังรักกัน เพียงแต่ทิฐิไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเท่านั้น” มีร่าบอกอย่างเหนื่อยใจกับความรักของเจ้านายหนุ่มกับน้องสาวของคนสนิทคุณฟาริซ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ มาเรีย”
“มาเรียเคยเห็นคุณอัสมานบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าคุณเลขาเจ้าชู้นี่คะ”
“คุณอัสมานก็เป็นแบบนี้แหละ ปากกับใจไม่ตรงกันเสียที รักเขาก็ไม่ยอมบอก คอยแต่จะหาเรื่องกระแหนะกระแหนคุณวีน่าตลอด” มายาอธิบายให้มาเรียฟัง
“ว่าแล้วเชียว ว่าทำไมคุณอัสมานถึงคอยหาเรื่องและบ่นเรื่องที่คุณเลขามีเพื่อนชาย ดูอย่างวันนี้สิออกไปจากบ้านตั้งแต่เที่ยง ไปนั่งรอคุณเลขาตั้งแต่บ่ายจนถึงสองทุ่ม ฉันชักจะเชื่อพวกเธอแล้วสิว่าคุณอัสมานคงจะยังรักคุณเลขาอยู่”
“มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่รักคุณอวีน่า คุณอัสมานคงจะแต่งงานไปแล้ว ไม่อยู่เป็นโสดมาถึงทุกวันนี้หรอก” มีร่าบอกในสิ่งที่เธอสงสัย
“ฉันก็คิดเหมือนเธอนั่นแหละมีร่า” มายาบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องของเจ้านายหนุ่มกับคุณอวีน่า รักกันมากขนาดนั้น เพราะทิฐิที่ทำให้ทั้งสองต้องห่างกัน และเธอเชื่อว่าอีกไม่นานนี่แหละ ทุกอย่างต้องดีขึ้น
“มาเรียว่าเราเอาเสื้อผ้าคุณอวีน่าขึ้นไปที่ห้องพักที่เตรียมเอาไว้ดีกว่า”
“นั่นสิ!” มีร่าเห็นด้วยกับความคิดของมาเรีย
“พวกเราไปกันเถอะ” มายาหันมาตอบแล้วลากประเป๋าเดินทางใบโตออกจากห้องโถงตรงไปยังบันไดเพื่อมุ่งตรงไปยังห้องพักที่เจ้านายหนุ่มเตรียมเอาไว้ให้อดีตคนรักอย่างคุณอวีน่าน้องสาวเพียงคนเดียวของคามิน อัล บายันต์คนสนิทและเป็นมือขวาของคุณฟาริช ทายาทคนโตของตระกูลอัมฟาล อัล ราเฟล
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...