ตอนที่ 9 - 1 เวลาอาจจะช่วยให้ลืมเลือน

1305 Words
“วันนี้ท่านอาจารย์จะสอนเกี่ยวกับบทกวีใช่หรือไม่” โจวเจินเจินเอ่ยถามออกมาขณะที่กำลังเดินไปที่ห้องที่พวกนางต้องศึกษากับอาจารย์ “อือ…วันแรกมิน่าจะเคร่งครัดเท่าใดหรอก” กวงหลินเยว่เอ่ยออกมาบ้าง “แต่ถึงเคร่งครัดเจ้าก็ทำได้อยู่แล้ว…ใช่หรือไม่ล่ะเจินเจิน” โจวเจินเจินยิ้มเพียงเล็กน้อย นางมิได้โอ้อวดว่านางเก่งกว่าผู้ใดและนางมักจะถ่อมตนอยู่เสมอ เรื่องความเก่งเกินวัยนางคงต้องขอบคุณที่นางจดจำอดีตชาติได้ จึงทำให้นางมิต้องพยายามที่จะศึกษาในสิ่งที่โหดร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ แม้อดีตชาติจะทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดแต่มันก็เป็นประโยชน์ให้นางได้เลือกทางเดินในชีวิตของนางในชาติภพใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี หลังเลิกเรียนรถม้าของจวนสกุลโจวก็มารอรับคุณหนูใหญ่ที่ด้านหน้า อี้่ถงลงมาจากรถม้าก่อนที่จะรับร่างเล็กของคุณชายรองที่ขอติดตามมารอรับพี่สาวด้วย โจวเจินหลงนั้นยังเด็กจึงยังมิได้ศึกษาวิชาความรู้ใด แต่ในปีหน้าเด็กชายตัวน้อยก็จะเริ่มศึกษาจากที่จวนก่อนเช่นกันเพื่อเตรียมตัวมาสอบเข้าสำนักศึกษาเช่นเดียวกับพี่สาว “ท่านพี่…. ข้ามารับท่านแล้วขอรับ” โจวเจินหลงอุทานร้องเรียกพี่สาวออกมาเมื่อได้พบหน้า โจวเจินเจินส่งยิ้มให้ก่อนที่จะหันไปกล่าวลาสหายทั้งสองที่เดินออกจากสำนักศึกษามาพร้อมกัน “ข้ากลับก่อนนะ จูหลิน หลินเยว่ เจอกันพรุ่งนี้จ้ะ” “เจอกันพรุ่งนี้จ้ะเจินเจิน” เด็กหญิงทั้งสองกล่าวลาสหายสนิทเช่นกัน โจวเจินเจินจึงเดินไปยังรถม้าที่มีน้องชายกระโดดโลดเต้นรอนางอยู่ กระเป๋าที่ใส่กระดาษกับตำราถูกส่งให้แก่อี้ถง ก่อนที่นางจะขึ้นรถม้าไปกับน้องชาย “ท่านพี่ขอรับ วันนี้สนุกหรือไม่ขอรับ” เด็กชายเอ่ยถามพี่สาวออกมาทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถม้าเรียบร้อย “สนุกจ้ะ…อีกสองปีเจ้าก็จะได้มาศึกษาที่นี่แล้วสินะ ปีหน้าเจ้าจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะหลงเอ๋อร์” มือเล็กลูบไปที่ศีรษะทุยของน้องชาย โจวเจินหลงส่งยิ้มพลางพยักหน้าขึ้นลง เขาดีใจที่พี่สาวสุขภาพร่างกายแข็งแรง นางชอบเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับเขาได้ฟัง “ข้าจะมิทำให้ท่านพ่อท่านแม่และก็ท่านพี่ผิดหวังขอรับ” น้องชายตัวน้อยยิ้มออกมาพร้อมกับให้คำมั่นแก่ผู้เป็นพี่สาว โจวเจินเจินจึงส่งยิ้มให้แก่น้องชายแล้วโอบไหล่เล็กเข้ามาแนบอก “ท่านพี่…ข้าอยากแวะตลาดขอรับ” จู่ๆ เด็กน้อยก็นึกคิดได้ว่าเขามีสิ่งที่อยากจะซื้อกลับไปที่จวน “หืม…จะซื้อสิ่งใดงั้นหรือเหวินเอ๋อร์” วันนี้การศึกษาที่สำนักศึกษามิได้เคร่งเครียดหรือเหน็ดเหนื่อยเท่าใด โจวเจินเจินจึงอยากจะตามใจน้องชายตัวน้อยสักครั้ง “ขนมกับของเล่นใช่หรือไม่…หือ….” เด็กน้อยยิ้มออกมาเพราะถูกพี่สาวรู้ทัน โจวเจินเจินยิ้มก่อนที่จะยกมือขึ้นจับศีรษะเล็กโยกไปมาอย่างเอ็นดู ตลาดในยามเชินของเมืองฮวาหลานนั้นพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของกันอย่างเช่นทุกครา มีทั้งตระกูลขุนนาง พ่อค้าหรือแม้แต่ชาวเมืองธรรมดาก็ต่างมีสิทธิ์ที่จะมาเยือนตลาดแห่งนี้ เมืองฮวาหลานนั้นนับได้ว่าเป็นเมืองที่สงบสุข แม้จะมีขุนนางกงฉินแต่ก็มีเพียงน้อยนิดเท่านั้น “ท่านพี่ข้าอยากได้ของเล่นชิ้นนี้ได้หรือไม่ขอรับ” เพราะชาติภพก่อนไม่มีโอกาสแม้แต่จะมีบุตรสักคน ฉินเซี่ยหรูจึงได้เอ็นดูหลานๆ ที่กลายมาเป็นน้องของนางในชาติภพนี้ได้อย่างสนิทใจ อีกทั้งนางยังมีความสุขกับชีวิตใหม่นี้อีกด้วย แต่บางทีนางก็คิดว่าความสุขนี้นางได้ช่วงชิงของผู้เป็นหลานสาวของนางมาหรือไม่ ยามนี้โจวเจินเจินเจ้าของร่างที่แท้จริงได้ไปเกิดใหม่ที่ใดหรือยัง นางได้แต่คิดใคร่ครวญ แม้จะภาวนาขอคำตอบสักเพียงใดก็มิมีวันที่จะได้คำตอบเลยสักครา “ท่านพี่!!!” มือเล็กสะกิดพลางเรียกขานพี่สาวที่กำลังมองของเล่นในมืออย่างเหม่อลอย “อ๊ะ!!! อือ…ได้สิ เจ้าอยากได้เหตุใดจะมิได้กันล่ะ แต่ว่าหลงเอ๋อร์ต้องรับปากกับพี่ก่อนว่า ถ้าหากเจ้าได้ออกมาตลาดอีกคราเจ้าจะมิรบเร้าอยากซื้อของเล่นอีก เพราะของเล่นยามเมื่อเล่นเบื่อแล้วนั้นมันก็เหมือนสิ่งของที่ไร้ซึ่งประโยชน์ แต่หากเจ้าซื้อขนมหรืออาหารที่เจ้ากินได้ สิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามากกว่า น้องพี่…เข้าใจที่พี่พูดหรือไม่” คำกล่าวที่สั่งสอนน้องชายของผู้เป็นพี่สาวทำเอาพ่อค้าและคนที่กำลังเลือกซื้อของอยู่ถึงกับรู้สึกชื่นชมให้กับความคิดของเด็กหญิง มองจากภายนอกก็พอจะดูออกว่านางเป็นคุณหนูจากตระกูลขุนนาง ครอบครัวของนางสั่งสอนบุตรีได้ดีเสียจริง “ขอรับท่านพี่…ข้าจะมิรบเร้าอยากได้สิ่งใดอีก ข้าเข้าใจที่ท่านพี่กล่าวทั้งหมดขอรับ” โจวเจินหลงเป็นเด็กฉลาดและเข้าใจง่าย เขารับของเล่นมาถือเอาไว้ โจวเจินเจินจึงส่งเงินให้แก่พ่อค้าแล้วจูงมือน้องชายเดินจากไป “เด็กคนนั้นคือคุณหนูใหญ่สกุลโจวใช่หรือไม่” ฮูหยินจากตระกูลเว่ยที่พาบุตรีวัยเดียวกับโจวเจินหลงมาเลือกซื้อของเล่นเอ่ยถามพ่อค้าออกมาหลังจากที่เด็กทั้งสองเดินจากไปพร้อมกับผู้ติดตาม “ใช่แล้วขอรับ… คราก่อนนางซื้อหมั่นโถวกับซาลาเปาและยารักษาโรคแจกจ่ายให้แก่พวกขอทาน ข้ายังมิเคยนึกเคยฝันเลยขอรับว่ายังจะมีเด็กที่มีจิตใจดีเช่นนี้อยู่ในเมืองฮวาหลานของพวกเราอีกคน แต่จะว่าไปนางก็เป็นหลานสาวของคุณหนูใหญ่สกุลฉินผู้ล่วงลับก็คงมิแปลกอันใดขอรับ เพราะคุณหนูใหญ่สกุลฉินนางก็เป็นสตรีที่มีจิตใจงดงามเช่นกัน แต่โชคมิเข้าข้างที่ได้แต่งออกไปกับบุรุษที่มิเห็นค่าของนางเช่นนั้น แม้ยามนี้นางจะจากไปนานถึงหนึ่งปีแล้วแต่ความดีที่นางเคยช่วยเหลือพวกข้าน้อยเอาไว้ก็ยังมิอาจลืมเลือนได้ลงเลยขอรับ” พ่อค้าหาบเร่ขายของเล่นเล่าถึงความดีของคุณหนูใหญ่สกุลโจวออกมายาวเหยียด เว่ยฮูหยินยิ้มออกมาก่อนที่จะจ่ายเงินค่าของเล่นที่บุตรีของนางเลือกเอาไว้ สายตาของนางยังคงมองตามเจ้าของร่างเล็กที่เดินจากไปพร้อมกับเด็กชายตัวน้อย นางรู้สึกพอใจในตัวเด็กหญิงเพียงแต่ว่าสกุลเว่ยของนางนั้นยังมิมีบุตรชายสืบสกุล มีเพียงหลานชายอีกสกุลที่อาศัยอยู่อีกเมืองเท่านั้น จะเป็นอันใดหรือไม่หากนางอยากจะได้นางมาเป็นหลานสะใภ้ในภายภาคหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD