นี่ก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าที่ทั้งสองคนแสดงความรักด้วยกันอยู่นานเป็นชั่วโมง จากนั้นภูมิก็ปล่อยให้หญิงสาวนอนพักส่วนเขาก็มาทำงานให้คนรักอยู่ตรงโซฟา ไม่นานนักเธอก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับมองหาชายหนุ่มก่อนจะรีบลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาตามหาเขา
“พี่ภูมิอยู่ที่ไหนคะ”
“พี่อยู่นี่ค่ะ”
ข้าวเดินออกมาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าเขากลับไปซะแล้วปกติก็ไม่ชอบปลุกเธอตื่น จะปล่อยให้นอนพักบางทีก็ออกไปทำงานเลยไม่บอกกันด้วย
“นึกว่ากลับไปแล้ว”
“กลับอะไรกันคะก็บอกอยู่จะมานอนด้วย แต่พรุ่งนี้ไม่ได้นะต้องกลับไปนอนที่บ้าน”
หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆชายหนุ่มก่อนจะสวมกอดเอวซบในหน้าลงกับอกแกร่ง เขาลูบแผ่นหลังเธออย่างแผ่วเบาก้มมองคนรักอย่างหวงแหน
“ค่ะ”
“ไปค้างที่บ้านด้วยกันมั้ย ทุกวันนี้มีแต่คนถามว่าเมื่อไหร่จะมีแฟนซักที น้องสาวพี่แต่งงานมีลูกไปแล้วนะจะให้น้องหน้าน้ำมนต์หรือไง”
ข้าวเงยหน้ามองสบตาชายหนุ่ม เธอแค่รู้สึกว่าทุกอย่างมันยังไม่ลงตัวและเธอกับเขายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยสถานะในตอนนี้
“ข้าวว่า…”
“ข้าว… เราสองคนคบกันมานานมากแล้วนะ ไม่ได้เพิ่งคบกันเดือนสองเดือนแต่นี่มันแปดปีแล้วนะ พี่ต้องรอถึงเมื่อไหร่ข้าวถึงจะพร้อมบอกใครต่อใครเกี่ยวกับเรื่องของเรา”
ข้าวกุมมือชายหนุ่มไว้ใช้ใบหน้าถูไถไปมาอย่างออดอ้อน ใครจะเป็นคนกำหนดเวลาว่าตอนไหนถึงจะเหมาะสมกัน เธอแค่อยากมีหน้าที่การงานที่ดีมีผลงานให้คนอื่นชื่นชมและนั้นคงเป็นเวลาอันเหมาะสมของเธอ
“ครอบครัวของพี่ภูมิไม่ใช่คนธรรมดานะคะ คุณพ่อเป็นถึงท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศ แล้วครอบครัวของข้าวเป็นแค่คนธรรมดาที่หาเงินใช้ไปวันๆ เราต่างกันมากนะคะ ข้าวแค่กลัวว่าถ้าคุณพ่อของพี่รู้ตอนนี้มันอาจจะ…”
“พี่เชื่อว่าคุณพ่อไม่ห้ามเรื่องของเรา ท่านใจดีมากและที่สำคัญที่สุดท่านมองคนเท่ากัน ไม่ได้วัดค่าคนจากตัวเงิน เอาแบบนี้แล้วกันพี่จะลองคุยกับท่านดูเอาแบบเกริ่นๆดูก่อนว่าท่านจะว่ายังไง แต่ถ้าท่านโอเครับได้หนูต้องรับปากว่าจะไปเจอครอบครัวของพี่”
ข้าวมองชายหนุ่มอย่างลังเลก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ เพื่อความสบายใจของเขาเธอจะไปถ้าเกิดว่าครอบครัวของเขารับได้ในสิ่งที่เธอเป็น เธอรู้ว่าระยะเวลาที่เราสองคนคบกันมันนานมาก ถ้าจะต้องปล่อยให้เขาหรือเธอไปมีชีวิตใหม่ก็คงจะเป็นการเห็นแก่ตัวจนเกินไป
“ก็ได้ค่ะเอาแบบนั้นก็ได้”
“น่ารักที่สุดเลยเราเนี่ย อ่อ เมียใหม่คุณพ่อคุณน้าน้ำผิงที่พี่เคยเล่าให้ฟัง ข้าวจำได้มั้ย”
“จำได้ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
เธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัย เขายิ้มกว้างออกมาลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู น้าน้ำผิงก็ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมาจากไหนคุณพ่อก็รักเหมือนกัน เขาไม่เคยน้อยใจเรื่องผู้หญิงอีกคนของพ่อ เพราะจากที่ฟังคุณแม่เล่าน้าน้ำผิงคือผู้หญิงที่เข้มแข็งและเด็ดขาดคนหนึ่ง เธอไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับคุณพ่อตั้งแต่ที่รู้จนแม่เขาสิ้นลมหายใจเพราะไม่อยากให้คุณแม่เสียใจ ยอมที่จะอยู่อย่างลำบากเพื่อให้ครอบครัวของเขาพร้อมหน้าพร้อมตากัน ก่อนแม่จะเสียท่านบอกกับเขาว่า น้าน้ำผิงไม่ใช่เมียน้อยของพ่อ เธอไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่คนที่น่าสงสารคือน้องสาวต่างแม่ของเขา เธอต้องอยู่อย่างลำบากในขณะที่เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
“ครอบครัวน้าน้ำผิงก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะ คุณพ่อยังไม่มองเรื่องฐานะเลย”
“แปลกดีนะคะที่พี่ภูมิไม่โกรธภรรยาใหม่ของพ่อแถมยังรักน้องอีก”
“ไม่รู้สิน้าน้ำผิงไม่เหมือนคนอื่น ขนาดที่พ่อตามง้อให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เธอยังแคร์ความรู้สึกของพี่กลัวว่าพี่จะน้อยใจที่พ่อพาผู้หญิงและลูกอีกคนเข้าไปอยู่ด้วย”
ข้าวนั่งฟังก็ยิ้มออกมาทันที เป็นคนที่จิตใจดีมากจริงๆเธอชักอยากจะเห็นหน้าซักครั้งเสียแล้วสิ
“เธอน่าจะเป็นคนดีมากเลยนะคะ คุณพ่อถึงได้ยังนึกถึงเสมอ”
“อืม คุณแม่บอกว่าเป็นคนดีมาก เชื่อพี่สิว่าคุณพ่อท่านจะไม่ว่าอะไรเรื่องของเรา ท่านไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เวลาถามเรื่องแฟนก็มีแนะนำคนนั้นคนนี้ให้บ้างตามประสา แต่สุดท้ายท่านบอกว่าพี่ต้องเป็นคนเลือกเอง”
ข้าวยิ้มออกมาสวมกอดชายหนุ่มอย่างหาที่พักพิง ในชีวิตพี่ภูมิคือความโชคดีที่สุดของเธอ เขาให้ทุกอย่างที่เธอไม่สามารถหาได้ในชีวิตนี้ แถมยังดูแลดีมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ เธอไม่อยากเสียเขาไปจึงไม่อยากให้เขาต้องอายเวลาต้องบอกใครต่อใครว่ามีเธอเป็นคนรัก
“ข้าวรักพี่ภูมิที่สุดเลย”
“พี่ก็รักข้าว งานเสร็จแล้วนะไปกินข้าวกันดีกว่าเย็นหมดแล้วมั่งเนี่ย”
เขาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ข้าวผละออกก่อนจะลุกขึ้นทันที
“งั้นเดี๋ยวข้าวอุ่นกับข้าวก่อนนะคะ พี่ภูมินั่งเล่นตรงนี้ก่อนเสร็จแล้วจะเรียกค่ะ”
“ช่วยกันดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ”
เขาลุกขึ้นกุมมือหญิงสาวเดินเข้าไปในห้องครัว คอนโดที่นี่เขาเป็นคนเลือกให้เธอเอง จริงๆแล้วเขาต้องการให้เธอไปอยู่คอนโดที่หรูและดีที่สุดแต่เธอให้เหตุผลว่าเป็นแค่พนักงานอยู่คอนโดหรูได้โดนนินทาว่าเสี่ยเลี้ยงนะสิ แล้วทุกวันนี้ต่างตรงไหน เขาก็เป็นเสี่ยเลี้ยงเธออยู่นะ…
หลังจากช่วยกันจนเสร็จทั้งสองคนก็นั่งทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข ตักนั่นนี่ให้กันถ้าใครมาเห็นคงพากันอิจฉาชีวิตของข้าวคนนี้ ใครจะคิดว่าผู้หญิงธรรมดาคนนี้จะโชคดีมีเจ้าชายมารักและดูแลแบบนี้
ของโปรดหนูเลยนะอันนี้”
“ขอบคุณค่ะ”
วันต่อมา…
ข้าวมาทำงานแต่เช้าเธอเอางานมาปริ้นใส่แฟ้มไว้หัวหน้าแผนกจะได้เอาไปเสนอให้ท่านประธานในที่ประชุมเช้าวันนี้
“นี่เป็นรายละเอียดงานเปิดตัวรถเดือนหน้าค่ะ หัวหน้าลองตรวจอีกทีนะคะว่าแบบนี้โอเคมั้ย”
หัวหน้าแผนกเปิดอ่านดูก่อนนะนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ เธออ่านจนจบก่อนจะเงยหน้ามองข้าวแล้วถามในสิ่งที่อยากรู้
“ทำไมถึงไม่โปรโมทของแถมไปด้วยเยอะๆล่ะ คนจะได้อ่านแล้วอยากมาจองรถในงานวันนั้น”
“อ่อคือแบบนี้ค่ะ ทะ.. เอ่อหมายถึงว่าข้าวคิดว่าเราอย่าพึงเปิดเผยของแถมให้ลูกค้ารู้ค่ะ บอกแค่ว่ามีของแถมมากมายก็พอจากนั้นให้เซลเอาของแถมไปใช้ในการดึงดูดลูกค้าซื้อเอาดีกว่า ข้าวแค่คิดว่าแบบนี้ดีกว่าค่ะ”
“ดีตรงไหน พี่ว่าบอกรายละเอียดของแถมแต่ละรุ่นไปเลยลูกค้าเห็นก็จะได้อยากมาซื้อ ช่วยแก้หน่อยนะพี่จะได้เอาไปเสนอบอสเช้านี้ มีเวลาแก้อีกหนึ่งชั่วโมงทำให้หน่อย”
ผู้จัดการคืนแฟ้มเอกสารให้เธอก่อนจะหันไปตรวจอย่างอื่นต่อ เธอถือแฟ้มกลับมาก่อนจะเดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองมองรายละเอียดงานในแฟ้มก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
‘คนที่ทำรายละเอียดนี้คือท่านประธานนะ แล้วผู้จัดการให้แก้ไขแบบนี้พี่ภูมิจะว่ายังไงเนี่ย…เฮ้อ!’