บทนำ
“เชิญทางนี้ครับท่านประธาน”
“ไม่อ่ะผมจะไปขึ้นลิฟต์พนักงาน”
ภูมิเอ่ยออกมาเสียงเรียบมือหนาจับเนคไทเช็คความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายก่อนจะเดินตรงไปยังประตูทางเข้าของพนักงานโดยไม่สนใจผู้ช่วยที่วิ่งตามมาจากด้านหลัง
“จะไปรวมกับพนักงานทำไมครับ”
“ยุ่งน่า คุณไปรอผมที่ห้องทำงานเลยนะผมจะไปขึ้นลิฟต์แล้วก็ทักทายพนักงานในบริษัท”
เขาอมยิ้มก่อนจะเดินไปยืนเข้าแถวรอขึ้นลิฟต์รวมกับพนักงาน ผู้ช่วยของเขาอ้าปากค้างมองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ปกติไม่เห็นจะมาสนใจใช้ลิฟต์รวมกับใครเพราะชอบบ่นว่าคนเยอะรอนาน เขากวาดสายตาไปรอบๆก่อนจะเห็นหญิงคนรักกำลังยืนรออยู่หน้าลิฟต์เช่นกัน เขาขอทางคนอื่นๆเดินไปใกล้เธอให้มากที่สุด พนักงานคนอื่นก็เห็นท่านประธานก็ตกใจไปตามๆกัน ใครจะคิดว่าเขาจะมาใช้ลิฟต์ร่วมพนักงาน
“ขอขึ้นด้วยนะ”
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกทุกคนไม่มีใครกล้าเข้าไปใช้ร่วมกับเขา ข้าวได้สติเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะตาโตอย่างตกใจ ท่านประธานมาทำอะไรที่ลิฟต์ของพนักงาน
“เอ้า เข้ามาสิยืนรออะไรกันอ่ะ”
เขากวักมือเรียกคนอื่นๆข้างนอกให้เข้ามาอยู่ข้างในด้วยกัน ข้าวมองเขาอย่างสงสัยก่อนจะเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างในเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนอื่นๆจึงตามเข้ามาจนเต็ม
“ผมไปชั้น14นะ กดให้ด้วย”
เขาเอ่ยออกไปด้วยรอยยิ้มสดใส พนักงานคนอื่นๆเอ่ยทักทายเจ้านายก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาเขา ภูมิหันไปมองข้าวที่ยืนเงียบไม่ยอมพูดอะไรก่อนจะยิ้มกว้างให้เธอ
“สวัสดีนะทุกคน ตั้งใจทำงานนะ”
“ค่ะท่านประธาน”
ทุกคนยิ้มพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะถูกดุเสียแล้วแต่ดูเหมือนว่าวันนี้เขาอารมณ์ดีไม่ใช่น้อย ทุกคนเริ่มทยอยออกจากลิฟต์ไปทีละคนจนหมดเหลือแค่เขากับข้าวที่ยังอยู่ในนั้นเพราะเขาสั่งไม่ให้เธอออกไป
“จะทำอะไรคะท่านประธาน”
ข้าวตกใจที่อยู่ๆเขาก็ปิดประตูลิฟต์แล้วดึงเธอมาสวมกอดแนบอก ในลิฟต์มีกล้องวงจรปิดถ้าใครมาเห็นคงดูไม่ดีแน่ เธอไม่อยากให้เขาถูกนินทาว่าคบกับพนักงานตัวเอง
“คืนนี้ขอไปนอนด้วยนะ”
เขาเอ่ยเสียงอ้อน ข้าวเงียบไปอย่างลังเลคอนโดของเธอมีพนักงานบริษัทที่ทำงานด้วยกันพักอยู่หลายคน กลัวว่าถ้าเขามาแล้วคนอื่นมาเจออาจจะเป็นประเด็นเอาไปเม้าได้
“ไปทำไมคะ”
“ทำไมอ่ะอยากนอนกับเมียไม่ได้ไง”
เขาทำหน้างอถูไถใบหน้าลงกับไหล่ของเธอ หญิงสาวเกรงว่าถ้าประตูลิฟต์เปิดแล้วมีคนเห็นจะแย่
“นอนก็นอนค่ะคราวหลังพี่ภูมิโทรมาก็ได้ค่ะ ทำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยหรอก”
“ก็พี่อยากเห็นหน้าข้าวนี่นาก็เลยมาบอกด้วยตัวเอง รักนะเย็นนี้เจอกัน”
เขาหอมแก้มหญิงสาวก่อนจะผละออกกดเปิดลิฟต์แล้วเดินอมยิ้มออกไปอย่างอารมณ์ดี ข้าวมองตามแผ่นหลังของเขาไปก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ
“คนบ้า!”
เธอกดปิดลิฟต์ก่อนจะกดไปชั้นที่ทำงานของเธอ ชั้น14เป็นห้องประชุมและห้องทำงานของผู้บริหาร ส่วนเธอเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดต้องทำงานอยู่ชั้น8
“สวัสดีค่ะผู้จัดการ”
“สวัสดีจ้ะน้องข้าว มาแต่เช้าเชียว”
“กลัวรถติดค่ะ แหะๆ”
ผู้จัดการเอ่ยทักทายก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง ข้าวเดินมานั่งที่ทำงานของตัวเองเปิดแฟ้มเอกสารดูรายละเอียดงานชิ้นต่อไป เธอต้องทำกำหนดการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แล้วต้องทำการโปรโมทตามสื่อต่างๆ เธอทำงานที่นี่มาสี่ปีเริ่มตั้งแต่อยู่โชว์รูมเป็นเซลขายรถจนกลายมาเป็นการตลาดอยู่บริษัทแม่ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เธอไม่เคยใช้เส้นสายของคนรักเลย พยายามทำผลงานให้เป็นที่น่าพอใจและพี่ผู้จัดการเห็นความสามารถจึงดึงตัวเธอมาช่วยงานที่นี่จนได้บรรจุเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นกว่าตอนเป็นเซลเกือบเท่าตัว
“ข้าวว่างมั้ย”
เธอเงยหน้ามองรุ่นพี่ในแผนกก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย
“ไม่ว่างเลยค่ะข้าวต้องทำโปรโมทงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ค่ะผู้จัดการบอกว่าจะส่งไปให้ท่านประธานตรวจพรุ่งนี้เช้า”
“ก็ตั้งพรุ่งนี้ยังมีเวลาอีกเยอะ ช่วยงานพี่ก่อนสิผู้จัดการจะเอากลางวันนี้แล้ว อ่ะนี่ช่วยหน่อยเร็วๆด้วยนะ”
รุ่นพี่ที่ชื่อมิ้นโยนแฟ้มเอกสารลงมาตรงหน้าเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนแบบนี้ พี่มิ้นมักจะเอางานของตัวเองมาให้เธอทำเสมอ ถึงจะบอกว่าเธอก็มีงานที่ต้องทำเร่งเหมือนกันแต่เธอก็ไม่สน ขอแค่ตัวเองรอดก็พอใจแล้วคนแบบนี้ไม่น่าคบหาแต่เธอทำไรไม่ได้เพราะเป็นเด็กใหม่ไม่อยากทำงานแบบมีปัญหาด้วย
“ค่ะ”
เธอวางงานของตัวเองลงก่อนจะทำงานของพี่มิ้นให้จนเวลาเกือบเที่ยง เธอมองนาฬิกาก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดูข้อความก็มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา
‘ไม่ตอบพี่เลยงานยุ่งเหรอคะ’
‘ทานข้าวเที่ยงกันมั้ย’
‘หายเลย’
เธอกดโทรกลับไปหาชายหนุ่มทันที ใจอยากจะไปกินข้าวกับเขามากแต่ว่างานของตัวเองยังไม่ได้เริ่มทำเลย
“พี่ภูมิคะ”
(ทำไมไม่ตอบพี่เลย หนูทำอะไรอยู่)
“ขอโทษทีค่ะข้าวเร่งงานอยู่ก็เลยไม่ได้ตอบ”
(งั้นออกมาหาพี่ได้มั้ย ไปกินข้าวกัน)
ภูมิเอ่ยออกมาเสียงหวาน เขาเจอกับข้าวครั้งแรกตอนเธอเรียนปีหนึ่งแล้วเขาเรียนปีสี่ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากแล้วก็ขยันแถมยังเรียนเก่ง เขาชอบเธอมากและพยายามจีบอย่างจริงจัง พอเราสองคนคุยกันได้ไม่นานเขาก็เรียนจบแล้วคุณพ่อก็ให้ไปเรียนต่อเมืองนอก ใจก็ไม่อยากไปเพราะห่วงคนรักแต่เธอบอกว่ารอได้แค่สองสามปีเอง แค่ได้คุยกันทุกวันเธอบอกว่าก็ดีมากแล้ว เชื่อมั้ยว่าตลอดสามปีเธอยังรอเขาไม่เปลี่ยนใจไปเป็นอื่น จนเขากลับมาและเราสองคนก็มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจนตอนนี้ก็คบกันมาเกือบแปดปีแล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้เลยเพราะข้าวไม่อยากให้คนอื่นรู้กลัวว่าจะถูกตราหน้าว่าเกาะผู้ชายกิน เธอบอกว่าจะตั้งใจทำงานจนประสบความสำเร็จมีคุณค่าคู่ควรกับเขา และถึงตอนนั้นเราสองคนจะแต่งงานกัน
“ไม่ได้ค่ะต้องทำงาน ไม่งั้นตอนเย็นข้าวจะต้องทำโอทีนะพี่ภูมิโอเคเหรอ”
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ทำไมชีวิตเขาถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วย มีคนรักที่คบกันมานานแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้แถมยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะยอมแต่งงานกับเขาอีก
(เมื่อไหร่หนูจะอยู่เคียงข้างพี่ซักที)
“รออีกนิดนะคะพี่ภูมิข้าวสัญญาว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง”
เขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะยอมแพ้ปล่อยให้เธอทำงานของตัวเองต่อ
(ก็ได้ค่ะ งั้นคืนนี้ต้องตามใจพี่นะทุกอย่างด้วย)
“ค่ะ ข้าวจะตามใจพี่ทุกอย่างเลย”
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะกดวางสายแล้วหันไปทำงานต่อ เธอต้องทำให้เสร็จตอนเย็นจะได้มีเวลาอยู่กับคนที่เธอรักทั้งคืน เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีก็มีคนเอากับข้าวมาส่งให้เธอ
“ชื่อคุณข้าวใช่มั้ยครับ พอดีว่ามีคนสั่งอาหารที่ร้านแล้วให้มาส่งที่แผนกนี้”
“ค่ะ ใครเหรอคะ”
“ไม่ทราบครับยังไงช่วยเซ็นรับด้วย”
เขายื่นปากกากับกระดาษให้เธอตรงหน้า ข้าวเซ็นรับอาหารตรงหน้าก่อนจะเปิดดูมันเป็นอาหารไทยหลายอย่างใส่กล่องมาพร้อมทาน ของโปรดเธอทั้งนั้นเลยด้วย หญิงสาวได้ยินเสียงข้อความก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดูก่อนจะยิ้มออกมาทันที
‘ตั้งใจทำงานนะคะอย่าลืมกินข้าวด้วยพี่สั่งของโปรดหนูทั้งนั้นเลย เย็นนี้เจอกันนะคะ’