Chapter 1

1510 Words
นี่ก็เลยเวลาเลิกงานไปมากแล้ว เธอยังคงนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ จริงๆต้องเสร็จตั้งแต่บ่ายสามโมงแล้วแต่เธอเอาเวลาช่วยเช้าไปทำงานให้รุ่นพี่หมด และสุดท้ายก็ไม่มีใครมาช่วยเธอเลยซักคน งานทุกคนเสร็จแล้วก็ลอยตัวไปเลย “เอากลับไปทำที่คอนโดดีกว่ามั้ยเนี่ย” เธอหยิบแฟลชไดร์ฟมาก็อปปี้งานเพื่อนะนำกลับไปทำที่บ้านต่อ เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้นเธอหยิบมาก่อนจะกดรับสายทันที “คะพี่ภูมิ” (ทำไมหนูยังไม่กลับคอนโดอีก พี่รอที่นี่ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะแอบไปไหน) “อยู่บริษัทอยู่เลยค่ะ พอดีว่างานยังไม่เสร็จ” (นี่ผู้จัดการให้งานหนูทำเยอะมากเลยเหรอ ทำไมทำตั้งแต่เช้าไม่เสร็จซักที) เขาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ พนักงานการตลาดมีตั้งหลายคนงานในหน้าที่ของตัวเองไม่น่าจะล่วงเลยเวลามากขนาดนี้ แล้วงานที่เธอรับผิดชอบวันนี้จริงๆทำครึ่งวันก็น่าจะเสร็จแล้ว “คือพี่มิ้นขอให้ช่วยงานของเธอน่ะค่ะ เธอทำไม่ทันข้าวก็เลยช่วยช่วงเช้า” (แล้วทำไมมิ้นถึงไม่ช่วยข้าวช่วงบ่าย…) “เอ่อ คือ…” ข้าวอึกอักอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง พวกเธอไม่เคยช่วยงานเลยซักครั้งกลับกันชอบโยนงานของตัวเองมาให้เธอทำตลอด พอช่วยจนเสร็จก็หนีกลับบ้านไม่คิดจะถามว่างานเธอเรียบร้อยหรือยัง ภูมิพอเดาได้ว่าพนักงานคนอื่นคงใช้งานข้าวมากโยนงานของตัวเองมาให้จนเบียดเบียนเวลางานของคนอื่น (ให้พี่จัดการให้มั้ย) “ไม่เป็นอะไรค่ะเรื่องเล็กน้อยเอง พี่เขาทำไม่ทันถึงมาขอให้ช่วย คงไม่มีอีกแล้วมั่งคะ” (เค้าเรียกใช้งานคนอื่นจนติดเป็นนิสัยทำไมเราต้องยอมด้วย เก็บของเลยเดี๋ยวพี่ออกไปรับ เอางานมาทำต่อที่คอนโดเดี๋ยวพี่ช่วยเอง) “ค่ะพี่ภูมิ แต่ว่าข้าวไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานนะคะ ถ้าช่วยได้ก็ช่วย” (ข้าวใจดีเกินไป ยิ่งไปยอมแบบนั้นยิ่งได้ใจ ไม่รู้แหละเดี๋ยวพี่จะให้ผู้จัดการแผนกจัดการกับคนที่ไม่รับผิดชอบงานของตัวเอง เก็บของค่ะพี่กำลังออกไป) “พี่ภูมิคะ พี่ภูมิ” ข้าวเรียกชายหนุ่มแต่ว่าเขาไม่ยอมฟังที่เธอพูดแถมยังตัดสายใส่เธออีก หญิงสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อยแล้วลุกขึ้นเดินออกไปทันที “ข้าวแกยังไม่กลับอีกเหรอ” “โช… งานเรายังไม่เสร็จก็เลยนั่งทำต่อ ว่าแต่มาทำไรอ่ะลืมของเหรอ” โชคือเพื่อนที่เข้ามาทำงานพร้อมกันกับเธอ วันนี้เธอเสร็จงานเร็วก็เลยกลับไปก่อน แต่คงจะลืมของล่ะมั่งก็เลยกลับมาเอา “อืม สายชาร์จแบตโทรศัพท์อ่ะ อย่าบอกนะว่าพี่มิ้นให้แกทำงานให้อีกแล้วอ่ะถึงได้ทำงานของตัวเองไม่ทันแบบนี้” “อืม ประมาณนั้น” ข้าวยอมรับตามตรงเพราะโชก็ไม่ได้ชอบพี่มิ้นเท่าไหร่ และเธอจะชอบมาเผาให้ฟังอยู่บ่อยคงเกลียดมากเลยแหละ “ไปยอมมันทำไม ทุกวันนี้ที่ผู้จัดการเอ่ยชมการทำงานของมันก็เพราะแกคือส่วนหนึ่งที่ช่วยมันทำ คนที่ควรถูกชื่นชมคือแกไม่ใช่มันจ้ะ แนะนำว่าไปฟ้องหัวหน้าด่วน” “ฟ้องแล้วได้อะไรขึ้นมาล่ะ ทะเลาะกันเปล่าๆ” “เฮ้อ! แกนี่นะ” โชเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะความใจดีมากเกินไปจึงทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ดีนะที่เธอรู้จักปฏิเสธทะเลาะก็ช่างไม่สนใจจึงสบายกว่าเธอเยอะเลย “งั้นเราไปก่อนนะ” “อืม ไปเถอะพรุ่งนี้เจอกัน” ข้าวยิ้มให้เพื่อนก่อนจะเดินออกมาทันที เธอเดินอ้อมไปยังลานจอดรถตรงมุมมืดเพราะชายหนุ่มมารับจึงต้องแอบเพื่อไม่ให้คนในบริษัทเห็น เมื่อเห็นรถจึงรีบเปิดประตูเข้าไปทันที “อ๊ะ! พี่ภูมิตกใจหมด” พอเข้ามาในรถชายหนุ่มก็สวมกอดเธอทันที ใบหน้าหล่อเหลาซุกซนถูไถไปมาตรงแก้มเธอ “คิดถึงที่สุดเลยไม่ได้นอนกอดหลายคืนแล้วอ่ะคืนนี้จะทำจนกว่าจะหายคิดถึงเลย” “ข้าวต้องทำงานนะคะอย่าแกล้งกันสิ” “ไม่รู้แหละนี่ก็ต้องไปช่วยข้าวเคลียร์งานอีกไม่รู้ว่าจะเสร็จกี่โมง นอกจากผู้หญิงที่ชื่อมิ้นแล้วมีใครอีกมั้ยที่ชอบมาใช้งานเมียจ๋าของพี่” เขาถามอย่างต้องการคำตอบ สงสัยคงต้องให้ผู้จัดการทำอะไรซักอย่างไม่อย่างนั้นพนักงานคนอื่นจะใช้งานคนรักของเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกอย่างเขารู้จักข้าวดีเธอเป็นคนจิตใจดีเกินกว่าจะยอมให้ใครถูกหลอกใช้แบบนี้ ความใจดีต้องใช้ให้ถูกคนถ้าช่วยเหลือคนเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่มีบุญคุณอะไรกับพวกเขาหรอก “ข้าวขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ภูมิลำบาก” เธอเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด แทนที่คืนนี้เขาจะได้มีความสุขที่ได้มาอยู่กับเธอ แต่ต้องมาช่วยกันทำงานที่ค้างมันไม่ควรเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ “หนูไม่ผิดอะไรทั้งนั้นแหละไม่ต้องขอโทษ อย่าใจดีมากเกินไปจำไว้ว่าใจดีกับพี่คนเดียวก็พอ” เขาเอ่ยออกมาก่อนจะดึงหญิงสาวมาจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน เธอยิ้มออกมาอย่างสบายใจเวลาที่เธอเครียดหรือมีปัญหาเขาคือคนที่สามารถทำให้เธอยิ้มได้ “กลับกันเถอะค่ะ งั้นวันนี้ให้ข้าวทำอาหารให้กินนะ” “ไม่อ่ะสั่งไว้แล้วเดี๋ยวคงมาส่ง เราไปเคลียร์งานดีกว่าจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืนไง” เขายื่นมือไปเกลี่ยแก้มนวลอย่างหลงไหลก่อนจะรีบขับรถออกไปทันที ไม่นานก็มาถึงคอนโดทั้งสองคนเดินไปขึ้นลิฟต์คนละตัวเพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น เมื่อมาถึงที่ห้องทั้งสองคนก็ช่วยกันเคลียร์งานที่ค้างไว้ จริงๆงานนี้ต้องเสนอเขาพรุ่งนี้อยู่แล้วถือซะว่าตรวจไปเลยในตัวแล้วกัน “ไหนมาดูหน่อยทำไปถึงไหนแล้ว” เขาหันจอโน๊ตบุ๊คมาตรงหน้าก่อนจะอ่านที่เธอทำไปแล้วบ้าง ความคิดของข้าวแต่ละอย่างไม่มีซ้ำแถมยังมีไอเดียดีๆเยอะมากจนน่าตกใจ “แบบนี้ดีแล้วนี่แล้วหนูค้างอะไรเหรอ” ข้าวกอดคอชายหนุ่มจากทางด้านหลังก่อนจะเริ่มอธิบายในสิ่งที่เธอคิดและปรึกษาในสิ่งที่เธอไม่มั่นใจ งานเปิดตัวรถดูจะไม่มีรายละเอียดมากนักแต่ในงานจะต้องทำยอดขายด้วยจึงไม่ใช่งานเปิดตัวรถธรรมดา ต้องมีจุดเด่นโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพื่อเรียกให้ลูกค้าจองรถให้มากที่สุด “รุ่นที่จะเปิดตัวนี้ทางบริษัทแม่ที่ต่างประเทศเค้าให้ของแถมมาด้วยมั้ยคะ” “ก็มีบางอย่างนะ แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ไม่จำเป็นต้องแถมทุกคน เอาไว้เป็นข้อต่อรองตอนพวกเซลขายดีกว่า ถ้าหนูโปรโมทไปหมดเซลจะขายของยากนะ” เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับชายหนุ่ม ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมา “ขอบคุณนะคะพี่ภูมิที่ช่วยแนะนำ แสดงว่าพรุ่งนี้จะไม่ตีกลับใช่มั้ยคะ” “เห็นพี่เป็นคนยังไงหืม” เขาหันหน้าไปหาหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ปกติเขาก็เป็นคนเซ็นเอกสารง่ายแต่บางทีมันมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยเขาก็ไม่เซ็นอนุมัติ ผิดตรงไหนที่เขาตรวจงานละเอียด “ก็กว่าจะเซ็นอนุมัติบางทีเห็นคนอื่นแก้ตั้งหลายรอบ พนักงานอย่างข้าวก็ตามใจไม่ถูกนะคะ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะพอใจท่านประธาน” “สำหรับคนอื่นถ้าผิดพลาดก็แก้ไข แต่สำหรับข้าวถ้าผิดก็ไม่เป็นอะไรพี่แก้ให้หนูจะได้ไม่เหนื่อยไง” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน เธอถึงกับร้องอ่อออกมาอย่างเข้าใจทุกอย่าง มิน่าล่ะเวลาเธอส่งงานไปไม่ค่อยถูกตีกลับ แสดงว่าไม่ใช่เธอทำงานเก่งถูกใจหมดทุกอย่างแต่เขาแก้ไขให้เรียบร้อยต่างหาก “พี่ภูมิ! ทำแบบนี้ได้ยังไงคะ คราวหลังถ้ามันไม่ถูกต้องก็ให้ข้าวกลับมาแก้ ทำแบบนี้คนอื่นจะคิดยังไง” “ไม่อ่ะพี่แก้ให้แล้ว แต่ถ้าหนูอยากแก้งั้นแก้เป็นอย่างอื่นแทนแล้วกัน” “แก้อะไรคะ..” เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกขึ้นแล้วอุ้มหญิงสาวขึ้นมาในอ้อมแขน “แก้ผ้าแทนไง หึ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD