ณ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน
รมิดา พลอยไพลิน มนัญชยาและอติกานต์ นั่งรถไฟใต้ดินมายังมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ทันทีที่พวกเธอก้าวเท้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามหาวิหารที่ดูแล้วช่างยิ่งใหญ่สมตามคำเล่าลือทีเดียว มีการสร้างมหาวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีทีเดียว และยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ซึ่งมหาวิหารแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานเกือบสี่ร้อยกว่าปีทีเดียว ที่สำคัญมหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือไปจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นหินอ่อนมากมาย และยังมีรูปปั้นทองคำรูปพระแม่มารีบนยอดของโบสถ์แห่งนี้ ซึ่งชาวมิลานตั้งชื่อเล่นให้ว่า มาดูนีนา (Madunina) หรือ เดอะ ลิตเติ้ล มาดอนน่า (the little Madonna) และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้อีกด้วย
และในย่านเดียวกันยังมีแกลเลอเรีย วิตโตริโอ เอ็มมานูเอลเล่ ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดในอิตาลีอยู่อีกด้วย
“ใครก็ตามที่จะเข้าไปชมด้านในของดูโอโมจะต้องแต่งกายให้สุภาพนะ ประเภทกางเกงขาสั้นสายเดี่ยวเจ้าหน้าที่เขาไม่อนุญาตให้เข้าไปชมความงามของด้านในดูโอโมหรอก” รมิดาเอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเธอเดินเข้ามาอยู่ภายในมหาวิหาร
“ก็ปกตินี่คะ เพราะวัดที่เมืองไทยเขาก็ไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวแต่งกายไม่สุภาพเข้าไปในโบสถ์เหมือนกัน” อติกานต์พูดขึ้นเมื่อเธอมองไปภายในมหาวิหาร นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ประชาชนในอิตาลีต่างก็พากันแต่งกายเรียบร้อยเพื่อที่จะเดินเข้ามาเยี่ยมชมดูความงามภายในมหาวิหารแห่งนี้
“แล้วเล็กรู้ไหมว่าดูโอโมแห่งมิลานตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตร จึงทำให้มองดูเล็กนิดเดียว รายล้อมด้วยยอดแหลมอีก 135 ยอดที่แหลมเสียดแทงขึ้นสู่แผ่นฟ้าที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของสถานที่แห่งนี้ และยังทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกตา”
รมิดายังอธิบายให้อติกานต์ฟังต่อ เพราะในบรรดาพวกเธอสี่คนคงจะมีแต่อติกานต์นี่แหละที่ยังไม่เคยมาเที่ยวมิลาน ส่วนเธอ พลอยไพลิน และมนัญชยา เคยมาที่นี่แล้วถึงสองครั้ง
“ถ้าเล็กสามารถไต่บันได 158 ขั้นขึ้นไปบนหลังคาเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองมิลานได้ แต่เราจะต้องเสียค่าขึ้นชมไปชมอีก 5 ยูโรนะ แต่ถ้าไม่อยากไต่บันไดขึ้นมาเล็กสามารถใช้ลิฟต์ก็ได้นะ แต่ต้องเสียอีก 7 ยูโร ด้านหน้าของดูโอโมประดับประดาด้วยรูปปั้นและรูปสลักหินอ่อนที่ประณีตบรรจง”
คราวนี้เป็นพลอยไพลินที่อธิบาย หญิงสาวหันไปมองน้องสาวคนเล็กที่จ้องมองรูปปั้นหินอ่อนที่สลักเอาไว้ตลอดทางเดินด้วยสายตาตื่นเต้น อย่าว่าแต่อติกานต์เลยตอนเธอมาครั้งแรกก็เป็นแบบน้องสาวนี่แหละ ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคเอามากๆ พอกลับไปบ้านเธอก็เริ่มหาข้อมูล ประวัติของมหาวิหารแห่งเมืองมิลานเก็บเอาไว้ทันที จากนั้นไม่นานเธอกับรมิดาแล้วก็มนัญชยาก็บินมามิลานอีกครั้งเพื่อมาชมความงามของมหาวิหารแห่งนี้
“แล้วเล็กรู้หรือเปล่าว่าดูโอโมใช้เวลาสร้างเกือบสี่ร้อยกว่าปีทีเดียว เรียกว่าก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้สร้างกันมาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ต่างก็ปรารถนาที่จะเข้าไปดื่มด่ำความสงบและความงามภายในของดูโอโมกันทั้งนั้น แต่ในฤดูที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปมาเที่ยวเยี่ยมชมดูโอโม นักท่องเที่ยวจะต้องเข้าแถวต่อคิวกันเพื่อเข้าชมภายในดูโอโมจนยาวเหยียดไม่น้อยไปกว่าคิวที่นักท่องเที่ยวรอที่จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของวาติกันเลยนะ”
รมิดาเริ่มอธิบายต่อจากพลอยไพลินทันที หญิงสาวพาน้องสาวคนเล็กเดินไปเรื่อยๆ ภายในมหาวิหารที่พวกเธอเดินผ่านจะตกแต่งไปด้วยกระจกสีเอาไว้อย่างน่ามอง แล้วยังมีแท่นบูชาที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูขลังมากยิ่งขึ้น อีกทั้งตลอดทางที่พวกเธอเดินกันมาก็ยังมีรูปปั้นหินอ่อนที่แกะสลักเอาไว้ได้ด้วยความวิจิตรงดงาม ดูตระการตาไม่น้อย
“สุดยอดเลยค่ะพี่น้ำ เล็กว่ามันสวยมากเลย ดูงดงามละลานตาไปหมด รูปปั้นหินอ่อนที่เขานำมาแกะสลักก็ดูอ่อนช้อยเหมือนจริงมากๆ เลย ลายเส้นนี้สวย ดูโดเด่น น่าหลงใหล ที่สำคัญนักท่องเที่ยวก็เต็มไปหมดเลย คนสร้างนี่สุดยอดเลยนะคะ อดทนมาก กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาตั้งสี่ร้อยกว่าปี สุดยอด”
อติกานต์ทำสีหน้าชวนฝัน นึกไปถึงความงดงามภายในมหาวิหารด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม จนอีกสามสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับอมยิ้มไปกับความน่ารักของน้องสาวคนนี้ พวกเธอคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ตัดสินใจพาอติกานต์มาเที่ยวมหาวิหารแห่งเมืองมิลานในวันนี้
รมิดาได้แต่อมยิ้มกับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของอติกานต์ เพราะนิสัยแบบนี้ยังไงล่ะพี่ชายที่แสนดีของเธอถึงได้หลงรักมานานหลายปี เรื่องที่เธอรู้ก็คือเตชินท์แอบรักอติกานต์มาหลายปีแล้ว เพียงแต่เธอไม่เคยบอกใครก็เท่านั้น อีกอย่างเธอคิดว่ามันน่าจะยังไม่ถึงเวลาที่อติกานต์จะมีความรัก แต่ตอนนี้เธอรู้ดีว่าเวลาแห่งการช่วยเหลือเตชินท์มาแล้ว หากชายหนุ่มสามารถเป็นแฟนกับอติกานต์ได้เธอก็ดีใจด้วย ที่สำคัญเธอสามารถแก้แค้นชนาธิปได้ด้วย หญิงสาวรู้ดีว่าชนาธิปนั้นรักและหวงน้องสาวคนนี้มากแค่ไหน หากเธอทำให้อติกานต์รักเตชินท์เธอก็สามารถแก้แค้นเอาคืนชนาธิปได้บ้าง เธอเกลียดชนาธิปเพราะว่าชายหนุ่มกล้าขโมยจูบแรกของเธอไปเมื่อหลายปีก่อนที่ญี่ปุ่นนั่นเอง
“เล็กรู้หรือเปล่าว่าประตูสุดท้ายของดูโอโมสร้างเสร็จเมื่อไร” มนัญชยาเอ่ยถามน้องสาวเสียงหวาน
“ไม่รู้ค่ะ” อติกานต์ตอบ ก่อนหันไปหาเจ้าของเสียงหวานทันที “พี่หวานบอกเล็กหน่อยสิคะว่าเมื่อไรที่ประตูมหาวิหารแห่งนี้สร้างเสร็จ”
“ประตูบานสุดท้ายของดูโอโมสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1965 และเปิดให้ใช้ ดังนั้นวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1965 จึงถือเป็นวันที่สิ้นสุดของการก่อสร้างที่ยาวนานและยิ่งใหญ่อลังการของอาสนวิหารแห่งนี้ รวมระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ความโดดเด่นของดูโอโมอยู่ที่ยอดแหลมบนหลังคา บนยอดใหญ่ตรงกลางมีพระรูปแม่พระ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ขนาดความสูง 4 เมตร ซึ่งเรียกกันว่า มาดูนีนา (Madunina)”
“สุดยอดเลย เกือบ 600 ปีเลยนะคะ กว่าจะสร้างเสร็จน่ะ” อติกานต์รู้สึกทึ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อเธอรู้ว่ามหาวิหารแห่งเมืองมิลานใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงขนาดนี้ ตอนแรกเธอก็ทึ่งกับสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่สร้างได้วิจิตรงดงามแล้ว แต่มหาวิหารแห่งนี้ยังใช้เวลาสร้างเกือบหกร้อยปีนี่สิที่ทำให้เธอรู้สึกทึ่งเอาเสียมากมาย
“พี่ว่าเราออกไปดูบรรยากาศด้านนอกดูโอโมกันเถอะ เราเดินอยู่ในดูโอโมมาหลายชั่วโมงแล้วนะ ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องออกไปเดินชมบรรยากาศรอบดูโอโมกันแล้วล่ะ เดี๋ยวเล็กจะรู้สึกตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีก”
“ทำไมหรือค่ะพี่ลิน”
“ก็เพราะรอบด้านของดูโอโมคือแหล่งช็อปปิ้งนะสิเล็ก แล้วถ้าออกจากดูโอโมแล้วเลี้ยวขวาเข้าไปภายในอาคารที่ชื่อว่าแกลเลอเรีย เพราะตรงนี้จะเป็นแหล่งของนักช็อปทีเดียว สินค้าแบรนด์เนมมีเยอะด้วย” พลอยไพลินตอบอติกานต์ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน หญิงสาวรู้ดีว่าน้องสาวคนนี้ชอบเดินช็อปขนาดไหน การเดินเข้าไปในแกลเลอเรียในวันนี้ไม่รู้ว่าน้องสาวของเธอจะเดินช็อปจนกระเป๋าฉีกอีกหรือเปล่า
“งั้นเราก็ไปกันเถอะ ขืนอยู่ในดูโอโมนานกว่านี้พวกเราคงจะเดินชมด้านนอกดูโอโมได้ไม่นานแน่ๆ อีกไม่นานก็จะค่ำอีกแล้ว”
มนัญชยาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาการวิบวับในดวงตาของน้องสาว พอพูดถึงแหล่งช็อปทีไร อติกานต์ก็แสดงอาการเช่นนี้เสมอ ไม่รู้ว่าตอนกลับพวกเธอจะขนของที่อติกานต์ซื้อกลับเมืองไทยไหวหรือเปล่า แต่จะว่าไปเมื่อก่อนเธอก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน จะต่อว่าน้องสาวก็ทำไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนเธอก็เคยเป็นแบบนี้
“งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ” รมิดาพูดขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากมหาวิหารเป็นคนแรก ตามด้วยอติกานต์ มนัญชยา แล้วก็พลอยไพลินเป็นคนสุดท้าย
////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...