เป๊าะ ฉันสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าผาก ก่อนจะมองเห็นพี่ติณกำลังก้มมองหน้าผากฉันอยู่ "พี่ดีดหน้าผากหนูทำไมเนี่ย" ฉันลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ
"ฉันปลุกเธอเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น แล้วก็ลุกออกจากตักฉันด้วยเพราะมันถึงแล้ว" ฉันแบะปากก่อนจะลุกแล้วลงจากรถ ก่อนจะเห็นบรรยากาศรอบๆมีแต่ป่าและภูเขาแต่โชคดีมันไม่มีกลิ่นธูป
"เอ้า พวกคุณจะยืนอยู่ทำไม รีบมาต่อแถวกันเร็วๆ" มาถึงก็ว้ากทันที ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าแต่กลับชะงักเมื่อมีคนหยิบเอาไปถือไว้ก่อน
"พี่ตะวัน" ฉันเลิกคิ้วทันทีเมื่อเจอเขาที่นี่ พี่เขายกยิ้มให้เท่านั้นแถมยังถือกระเป๋าให้ฉันอีกด้วย
"ฝากพี่ไว้ก็ได้เดี๋ยวพี่ถือให้ รีบไปเข้าแถวเถอะ ระวังเจอว้ากนะ" พี่เขายื่นมือมียีหัวฉันเบาๆก่อนที่จะส่งยิ้มหวานๆมาให้
ก่อนที่ฉันจะหันไปสบตากับพี่ติณ แววตาคมจ้องฉันคล้ายจะกินเลือดกินเนื้อแบบนั้นเลย ถ้าฉันไม่รีบไปจากวิ่งรอบสนามอาจได้วิ่งรอบภูเขาเป็นแน่ คนอย่างเขาผีเข้าผีออก ไว้ใจไม่ได้ ฉันรีบวิ่งไปหาเพื่อนทันที ขี้เกียจมีปัญหากับพี่มัน
"ผู้หญิงจะนอนเรือนตรงขวามือ ส่วนผู้ชายจะนอนเรือนซ้ายมือ พวกคุณเอากระเป๋าไปเก็บแล้วมารวมตัวกันตรงนี้ เข้าใจไหม" ฉันรู้สึกกลัวเขาในโหมดนี้สุดๆ เหมือนผีเข้ายังไงไม่รู้ แววตาดุจนไม่กล้าสบแถมน้ำเสียงแข็งกระด่างอีก
"ครับ/ค่ะ" หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันเอากระเป๋าไปเก็บ
"พวกแกไปก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันไปเอากระเป๋าก่อน" ฉันบอกเพื่อนก่อนจะเดินไปหาพี่ตะวัน ว่าแต่เขาอยู่ไหนนะ
"วันหลังก็อย่าฝากกระเป๋าไว้กับคนอื่นมั่วซั่ว" ฉันยืนอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าตัวเองอยู่กับพี่ติณ
"พี่จะเอากระเป๋าหนูไปไหน" ฉันรีบเดินตามเขา ตุ๊บ ฉันลูบจมูกตัวเองเมื่อเดินชนหลังเขาก่อนที่จะถอยห่างออกจากเขาพร้อมกับก้มหน้า
"ฉันน่ากลัวตรงไหน ทำไมต้องยืนห่างขนาดนั้นด้วย" เขาค่อยๆเดินมาหาฉันก่อนที่ฉันจะยืนเกร็ง ใครๆก็กลัวป่ะ
"พราวไหมเงยหน้าขึ้นมา" เขาใช้เสียงเรียบพูดกับฉันก่อนที่ฉันจะเงยหน้ามองเขา
"ที่หลังอย่าให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวอีก เข้าใจไหม" เขายังคงใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนเดิม ทำให้ฉันดูผ่อนคลายลง ว่าแต่ผู้ชายที่ว่ารวมถึงเขาด้วยไหม ที่เห็นก็มีแต่เขาที่ชอบทำกิริยารุ่มร่ามกับฉัน
"แต่หนู..."
"ไม่มีแต่ เป็นผู้หญิงหัดรักตัวเองบ้าง" เหลือเชื่อ
"เอากระเป๋าไปเก็บได้แล้ว" ฉันรับกระเป๋าจากเขาแล้วรีบวิ่งทันที คนอะไรมาหลายโหมดในหนึ่งนาที
ผ่านไปห้านาทีพวกเรามารวมตัวตามจุดที่รุ่นพี่บอกทันที
"น้องๆคะ" เป็นเสียงรุ่นพี่ผู้หญิงพูดขึ้น
"คืนนี้จะมีฐานทดสอบความกล้า ให้จับคู่กันแล้วมาบอกชื่อกับพี่ ส่วนใครไม่มีคู่ให้จับคู่กับรุ่นพี่ได้นะคะ" จบคำพูดของรุ่นพี่ทุกคนก็ต่างพาคู่ตัวเองพร้อมกับเดินไปหารุ่นพี่ การมารับน้องในสถานที่แห่งนี้ไม่ต่างกับเข้าคค่ายลูกเสือเลยสักนิด
"ไอ้พราว" ต้นหอมเรียกชื่อฉันก่อนจะทำหน้าอ้อนวอน
"เดี๋ยวฉันหาคู่เอง ไม่อยากพรากพวกแกออกจากกันหรอกย่ะ" พวกมันตัวติดกันจะตายแถมยังชอบเต๊าะผู้ชายด้วย และไอ้ที่จับคู่กันแบบนี้ไม่ใช่อะไร พวกมันมีแผนแน่ๆ
"งื้อ น่ารักที่สุด" พวกมันเอามือมาดึงแก้มฉันเสร็จแล้วก็วิ่งไปหารุ่นพี่ทันที ว่าแต่ฉันจะคู่กับใครล่ะเนี่ย
" น้องๆคนไหนยังไม่มีคู่คะ" พรึบ!! และก็มีแค่ฉันคนเดียวที่ลุกยืน ขนาดแค่ให้จับคู่ยังไม่มีคู่เลย แล้วชาตินี้ฉันจะมีแฟนเหมือนคนอื่นไหมเนี่ย
"งั้นน้องคู่กับพี่ไวน์แล้วกันนะ" อ่า หน้านิ่งๆ โหดๆ ฉันว่าฉันได้ตายก่อนผ่านด่านทดสอบความกล้าแน่นอน เขาคือเพื่อนของพี่ติณ
"ค่ะ" แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่พี่ติณ พูดถึงแล้วก็ขนลุก
"เอาเป็นว่าทุกคนมีคู่แล้วนะคะ เวลาหนึ่งทุ่มตรงให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่นะ งั้นแยกย้ายกันได้" พูดจบพวกเราก็แยกย้ายกันไปนั่งเล่นเพื่อรอเวลา
"แม๋ นางชะนีน้อยได้คู่กับพี่ไวน์ ฉันฝากขอไลน์พี่เขาด้วยนะ" ฉันหรี่ตามองตีตี้ทันที
"ไอ้ที" ควับ!!! ฉันตะโกนเรียกชื่อมันทำให้มันหันมามองทันที มันไม่ชอบชื่อนี้และฉันก็ชอบแกล้งมันอยู่เรื่อย
" ตีตี้ เดี๋ยวแม่จะตบปากเลย" นางพูดก่อนจะหันหน้าออก ทำท่าทางงอน
"เขาขอโทษ อย่างอนนะ" ฉันกุมแก้มมันก่อนจะขยี้เบาๆ
"นี่ ฉันขนลุกนะ" ฉันยิ้มให้กับท่าทางของมัน ตุ๊บ ก่อนที่ทุกคนจะจับจ้องไปที่น้ำแตงโมปั่นที่วางอยู่ตรงหน้าฉันด้วยอาการงงงวย อย่าว่าแต่เพื่อนเลยฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จู่ๆพี่ติณก็เอาแตงโมมาวางตรงหน้าแบบนี้
"มีคนเอามาให้ฉันแต่ฉันไม่ชอบกิน ช่วยกินแทนฉันหน่อย เสียดายของ" แล้วทำไมเขาไม่เอาไปให้คนอื่นเล่า
"แล้วทำไมพี่ต้องเอามาให้หนูด้วยเล่า" เขามองหน้าฉันนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร
และฉันต้องขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเมื่อพี่ตะวันยื่นแตงโมมาให้ฉัน "พี่ซื้อผลไม้มาฝาก"
"มึงมาได้ไงว่ะ" อ่า ทำไมฉันรู้สึกเหมือนพายุกำลังจะเข้าถล่มเมืองเลย เขาทั้งสองจ้องตากันคล้ายมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายตาทั้งสองคู่อย่างงั้นเลย เขาสองคนกำลังเล่นสงครามประสาท
"กูเรียนหมอก็ต้องมาคอยช่วยเหลือคนดิวะ" พี่ตะวันตอบพี่ติณแล้วหันมาคุยกับฉันต่อ
"น้องพราวไหม ลองกินดูสิแตงโมที่นี่หวานมากเลยนะ" พี่ตะวันยื่นแตงโมมาให้ฉัน ขณะที่ฉันจะหยิบแต่งโมกินแต่กลับต้องชะงักเมื่อร่างสูงข้างๆฉัน เอาไปกินซ่ะก่อน
" ไม่เห็นจะหวานเลยว่ะ แถมยังจืดมากด้วย" ตอนนี้ฉันอยากลุกไปจากตรงนี้มากๆเลย
หมับ!!! จู่ๆเขาก็หยิบน้ำแตงโมปั่นไป "ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน" พูดจบเขาก็เดินออกไป นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
"ทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ ไม่สบายหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ" ฉันยิ้มให้พี่ตะวันก่อนที่พี่เขาจะลุกขึ้นยืน
" พี่ต้องไปช่วยน้องฝั่งนั้นเตรียมของ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันใหม่" ฉันส่งยิ้มแห้งๆให้พี่เขาก่อนจะหุบยิ้มทันทีเมื่อถูกเพื่อนทั้งสองมองด้วยสายตาแปลกๆ
"แกไปสนิทไปรู้จักกับพี่ติณและพี่ตะวันตอนไหน"
" ตีตี้แกรู้จักพี่ตะวันด้วยเหรอ"
"รู้สิย่ะ อดีตเดือนคณะแพทย์เลยนะ และอีกอย่างติณสามีฉันกับพี่ตะวันเคยเป็นเพื่อนรักกันด้วย" เคยเป็นเพื่อนรักกันงั้นเหรอ
"ทำไมดูเหมือนไม่ใช่เพื่อนรักกันเลย"
"ฉันได้ยินมาว่าพวกเขารักผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ผู้หญิงคนนั้นเลือกติณสามีฉันน่ะสิ ต่อจากนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" ฉันเบะปากให้เพื่อนสาวตีตี้ทันที ชอบทิ้งระเบิดให้อยากรู้แล้วก็ไม่บอก
"ความรักมันมีทั้งสุขและทุกข์จริงๆ"