Love the media : 5

1671 Words
​เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มอุ้มน้องหมา ฉันเงยหน้าขึ้นละสายตาจากเจ้าตัวขาวนุ่นก่อนจะรู้สึกว่าเหมือนโลกกำลังจะแตกเมื่อผู้ชายคนนั้นคือพี่ติณ ผู้ชายที่ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยเมื่อกี้ นี่ฉันทำกรรมอะไรไว้เนี่ย "อ๋อ ที่แท้ก็ติดสาวอยู่ที่นี่เอง" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหลังกลับ ไม่มองหน้าเขา สายตาจดจ้องสภาพแวดล้อมทั่วไป "เดี๋ยว จะรีบไปไหน ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนสุดหล่อหน่อยสิ" เขาจับแขนฉันไว้ก่อนจะหันมาพูดพร้อมกับมองไปที่น้องหมาของเขา "สุดหล่อ" ฉันทวนชื่อนี้อีกครั้งพร้อมกับขมวดคิ้ว "ใช่ ลูกชายของฉันชื่อสุดหล่อ" ฉันละสงสารน้องหมา ดันมีพ่ออย่างเขาคนนี้ "ต้องเพี้ยนขนาดไหนถึงตั้งชื่อให้หมาแบบนี้ได้ " ฉันบ่นคนเดียวเบาๆ ก่อนจะหลุดขำ "ขำอะไร" "เปล่าซ่ะหน่อย" จะว่าไปเห็นเขาในโหมดนี้ก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะ รู้สึกไม่ค่อยเกร็งเหมือนตอนที่อยู่ในโหมดเฮดว้าก "เห็นแก่สุดหล่อ หนูจะยอมไปเดินเล่นด้วยก็ได้" หมับ!! และฉันต้องตกใจกว่านั้นคือพี่เขาจูงมือฉันให้เดินตาม "พี่ หนูเดินเองก็ได้" เขาเดินมายุดตรงลานหญ้าริมแม่น้ำ ก่อนจะมองไปที่แม่น้ำ "เรื่องที่ห้องน้ำ ฉันขอโทษ" แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ฉันเพียงพยักหน้าเท่านั้นก่อนจะเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน "จะว่าไปตรงนี้ก็เงียบสงบดีเหมือนกันนะคะ" ผมมองพราวไหมที่กำลังหลับตาพริ้มพร้อมกับกางแขนเพื่อรับบรรยากาศอย่างไม่ละสายตา พระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินทำให้คนเริ่มทะยอยกลับกันหมด "พี่ชอบมาเดินเล่นที่นี่เหรอคะ" เธอหันมาถามผมก่อนที่ผมจะละสายตามองไปข้างหน้า "อืม ฉันก็พาสุดหล่อมาเดินเล่นประจำ" น้องพยักหน้าเบาๆก่อนจะถอดแมสปิดหน้าออก "พี่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติหรือเปล่า" ผมเลิกคิ้วทันทีเมื่อเธอเอ่ยถามผม "ก็เชื่อ" จริงๆ ผมเชื่อเลยแหละเพราะผมก็เป็นคนมีความสามรถพิเศษมองเห็นวิญญาณ "ครั้งหนึ่งหนูเคยรับรู้เรื่องกลิ่นเหมือนคนทั่วไป กลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นอากาศบริสุทธิ์ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้กลิ่นแบบนั้นอีกแล้ว" ผมมองใบหน้าหวานที่กำลังฝืนยิ้ม ผมไม่รู้หรอกนะว่าเธอมีอดีตที่เจ็บปวดขนาดไหน แต่ผมคิดว่าเธอผ่านเรื่องราวนั้นมาได้ก็ถือว่าเข้มแข็งมากแล้ว "ทำไมเธอถึงสูญเสียการรับกลิ่น" เพราะผมก็ยังสงสัยในสิ่งที่ไม่สามารถรู้อดีตของเธอได้เช่นกัน ผิดจากคนทั่วไปเพียงแค่สัมผัสผมก็รู้แล้ว "ครั้งหนึ่งหนูเคยประสบอุบัติเหตุ อุบัติเหตุครั้งนั้นมันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต หนูเสียแม่คนที่หนูรักไป" เธอยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมได้แต่เงียบมองหน้าเธอนิ่งๆ เพราะไม่รู้จะปลอบยังไง "ตั้งแต่นั้นมาหนูก็ไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นดอกไม้หรือกลิ่นอะไรได้เลย แต่มีกลิ่นหนึ่งซึ่งมันก็คือกลิ่นธูป มันคือสิ่งเดียวที่ทำให้หนูรู้สึกกลัวเวลาได้กลิ่นมัน" หมับ!! ผมดึงน้องเข้ามากอดทันที แล้วไอ้อาการแบบนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดกับผมได้ยังไง "แล้วทำไมตอนอยู่กับฉันเธอถึงกล้าถอดแมสล่ะ" "เอ่อ คือ...หนูเห็นว่าอากาศมันดีค่ะ" ผมเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้าเบาๆ "ที่จริงฉันมีความลับบางอย่าง เธออยากรู้หรือเปล่า" ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆก่อนที่น้องจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว "คะ ความลับอะไรเหรอคะ" "ไม่บอกดีกว่า ใกล้จะค่ำแล้วไม่รีบกลับเหรอ" "ค่ะ เอ่อ พี่คะทำยังไงหนูถึงจะได้ลายเซ็นต์พี่" หึ นี่น้องหลอกถามผมอยู่เหรอ "พรุ่งนี้ระหว่างเดินทางถ้าเธอหาฉันเจอฉันจะเซ็นต์ให้ ย้ำว่าระหว่างเดินทาง" ตึง ฉันล้มตัวนอนก่อนจะตบปากตัวเอง "นี่ฉันไปบอกเขาทำไมเนี่ย" หรืออาจเป็นเพราะว่าฉันไว้ใจพี่ติณ แล้วถ้าฉันไม่ได้ลายเซ็นต์ของพี่เขาชีวิตฉันจะเจอกับอะไร โอ้ย พรุ่งนี้ก็เป็นวันเดินทางไปสถานที่ ที่ใช้ในการรับน้องแล้วถ้าฉันหาเขาไม่เจอล่ะ อีกอย่างพี่เขาย้ำอีกด้วย ว่าต้องเป็นระหว่างเดินทางเท่านั้น 05:00 นาฬิกา กรี๊ง ฉันเอื้อมไปปิดนาฬิกาปลุกก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะออกเดินทางไปมหาลัย "ไอ้พราวทางนี้" ฉันหันไปมองตามเสียงก็พบกับต้นหอมกับตีตี้ที่ยืนโบกไม้โบกมือให้ฉัน "คือเราต้องเดินทางด้วยรถบัส แกโอเคไหม" ฉันเม้มปากแน่นก่อนจะมองไปหาต้นหอม "ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน" ฉันหันซ้ายหันขวาเพื่อหาคนที่ฉันต้องการลายเซ็นต์แต่กลับไม่เห็นซ่ะงั้น ก็แห๋งน่ะสิ ถ้าเจอง่ายขนาดนั้นพี่เขาคงไม่ท้าฉันหรอก "น้องๆครับเตรียมตัวขึ้นรถได้แล้ว อีกห้านาที่เราจะออกเดินทาง" เสียงพี่ปลื้มตะโกนก่อนที่ฉันจะเดินเอากระเป๋าไปเก็บแต่ยังไม่ได้เก็บก็ต้องชะงักเมื่อเสียงรุ่นพี่อีกคนตะโกนบอก "จะมีนักศึกษาหนึ่งคนที่ไม่ได้ไปกับรถบัส งั้นน้องคนที่ใส่แมสนั่นแหละที่ต้องไปกับพวกพี่" ฉันเลิกคิ้วก่อนจะชี้มาหาตัวเอง "แกไปกับพี่เขาเถอะ ยังไงก็ดีกว่าแกนั่งรถบัสด้วยอาการหวาดกลัวนะ" ฉันพยักหน้าให้เพื่อนก่อนจะเดินตามพี่คนนั้น จนเดินมาหยุดอยู่ที่รถหรูคันหนึ่ง "รถบัสมันขาดที่นั่งอยู่คนหนึ่ง ยังไงก็ฝากด้วยนะ" พี่เขายืนพูดกับพี่ไวน์ "น้องนั่งรถนี้ไปนะ" พี่เขาหันมาบอกฉันก่อนที่จะเดินออกไปปล่อยให้ฉันยืนอยู่กับพี่ไวน์สองคน "ไปรถคันนี้อึดอัดหน่อยนะ เพราะที่นั่งเต็มแล้ว" ที่นั่งเต็มแล้ว พี่เขาคงไม่ให้ฉันไปนั่งท้ายรถหรอกนะ "งั้นเข้าไปรอพี่บนรถเลย เพื่อนพี่อยู่ในนั้นแหละ" "ค่ะ" ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่รถก่อนจะเปิดประตูแต่ใครคิดว่าจะโชคดีเจอพี่ติณล่ะ ใช่ พี่ติณกำลังนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ที่เบาะหลัง "น้องเข้าไปนั่งเลย"เป็นเสียงพี่ปลื้มพร้อมกับหยิบกระเป๋าจากมือฉันก่อนจะดันฉันให้เข้าไปนั่งข้างๆพี่ติณ "เธอมาได้ไง"พี่เขาเงยหน้าจากโทรศัพท์ก่อนจะถามฉัน "หนูหาพี่เจอแล้ว พี่ต้องทำตามสัญญานะ" พี่เขาไม่พูดก่อนจะเบือนหน้าหนี ก่อนจะมีพี่ผู้หญิงอีกสองคนเดินเข้ามา แต่ต้องกลับชะงักเพราะที่นั่งไม่พอน่ะสิ ซึ่งข้างๆฉันจะนั่งได้แค่อีกหนึ่งคน "ลุกมานั่งบนตักฉัน" นั่งบนตัก ไม่มีทางค่ะ ฉันแสดงสีหน้าปฎิเสธชัดเจน เพราะให้ตายก็ไม่นั่งบนตักเขาแน่ "งั้นพี่มานั่งตรงนี้แล้วหนูไปนั่งตรงนั้นเอง" ฉันบอกรุ่นพี่ผู้หญิงให้มานั่งตักพี่ติณแทนฉัน พรึบ!! ขณะที่ฉันจะลุกลงจากรถแต่ต้องเบิกตากว้างเมื่อเขาดึงฉันให้ไปนั่งบนตักพร้อมกับกอดเอวไว้ "อยู่นิ่งๆ อย่าให้คนอื่นต้องเสียเวลาเพราะเธอ" ทำไมฉันรู้สึกว่าเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วเปลืองตัวชะมัด สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมจำนนต่อสถานการณ์ที่ไม่เต็มใจนั่งตักพี่ติณท่ามกลางสายตาเพื่อนของเขาที่มองมาด้วยสายตายิ้ม หากมองไปในนัยตากลับมีความล้อเลียนซ่อนอยู่ รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากมหาลัย ฉันได้แต่นั่งเงียบๆเพราะตอนนี้รู้สึกเกร็งไปหมดแล้ว เกิดมายังไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายขนาดนี้เลย นี่คือครั้งแรกที่เสียทั้งจูบแรกและถูกกอดโดยไม่เต็มใจ หมับ!! ทว่า จู่ๆ เขาก็ดึงแมสฉันออกอย่างคนเอาแต่ใจ "พี่เอาคืนมานะ" ฉันพูดแบบกระซิบกับเขาเพราะว่าทุกคนในรถตอนนี้กำลังหลับอยู่ ทิ้งไว้เพียงพี่ที่ขับรถ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจอะไรนอกจากถนนข้างหน้า "ยังไงเธอก็ต้องถอดแมสอยู่ดี" เขากระซิบข้างหูฉันก่อนที่ฉันจะเอียงตัวหนี เพราะว่ามันรู้สึกแปลกๆยังไงล่ะ ทว่า เหมือนฟ้ากำลังแกล้งฉันเกิดรถตกหลุม ฉันสะตั้นไปครู่หนึ่งเมื่อแก้มของฉันสัมผัสถึงอะไรอุ่นนิ่ม นั่นก็คือริมฝีปากของเขา หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ๆ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ มันก็แค่แก้มของฉันอยู่ระหว่างปากและจมูกของเขา พอรถตกหลุมมันก็กลายเป็นแบบนี้ไงล่ะ "นุ่มดี" อึก ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อได้ยินคำนั้นจากไอ้พี่ติณ ก่อนที่พี่เขาจะกดหัวฉันให้ไปซบกับไหล่ของเขา กลิ่นน้ำหอมลอยคลุ้งทั่วโพรงจมูก "พี่ทำอะไร" ฉันไม่ชินเวลาถูกเพศตรงข้ามถูกเนื้อต้องตัว ฉันรีบเด็งตัวกลับคืนแต่กลับถูกกดให้ไปซบไหล่เขาเหมือนเดิม "เธอนั่งแบบนั้นฉันเหมื่อย เวลารถตกหลุมรถมันจะโยกแล้วเธอก็จะทิ้งน้ำหนักมาที่ฉัน เพราะฉะนั้นอย่าดื้อแล้วก็ทำตามที่ฉันบอก"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD